เปิดความหมายของตราครุฑ ตราแผ่นดินของไทย
มีที่มาที่ไปอย่างไร จนถึงกลายมาเป็นตราประทับหนังสือราชการของไทย และตราที่ใช้ของหน่วยงานเอกชนบางแห่ง
ครุฑ
เป็นสัญลักษณ์สําคัญที่มีความหมายเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์มาตั้งแต่สมัยโบราณ
เพราะไทยได้รับ อิทธิพลด้านศาสนามาจากประเทศอินเดียที่ถือว่า พระมหากษัตริย์คือ
อวตารของพระนารายณ์ ครุฑ จึงเป็นสัญลักษณ์แทนพระมหากษัตริย์ ดังที่ได้ปรากฏอยู่ในดวงตราหรือพระราชลัญจกรประจําพระองค์ประจํารัชกาล
ประจําแผ่นดิน
ตราครุฑ เป็นพระราชลัญจกรสําหรับประทับหนังสือราชการแผ่นดินที่เป็นพระบรมราชโองการและใช้
พระราชลัญจกรพระครุฑพ่าห์ ประทับหนังสือราชการแผ่นดินมาแต่ครั้งโบราณ
ภายหลังจึงได้มีการใช้ตราครุฑ เป็นสัญลักษณ์ประทับลงบนหัวกระดาษ
เพื่อแสดงให้ทราบว่าเป็นเอกสารหรือหนังสือราชการ ส่วนธงรูปครุฑ ที่มีชื่อเรียกว่า “ธงมหาราช”
นั้น เป็นสัญลักษณ์แทนองค์พระมหากษัตริย์ เป็นธงรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า
มีรูปครุฑสีแดง อยู่บนพื้นธงสีเหลือง
เริ่มใช้ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4
แห่งราชวงศ์จักรี ธงมหาราช เมื่อเชิญขึ้นเหนือเสา ณ
ที่แห่งใดแสดงว่าพระมหากษัตริย์ประทับอยู่ ณ ที่นั้น
ตราครุฑ นอกจากจะใช้ในส่วนราชการแล้ว ยังนํามาใช้ในภาคเอกชนได้ โดยต้องได้รับ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ใช้ตราครุฑในกิจการนั้นๆ ก่อนและมีข้อความว่า “โดยได้รับพระบรม ราชานุญาต” ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ใช้ตราอาร์มเป็นตราแผ่นดิน ต่อมา พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้เปลี่ยนตราแผ่นดินเป็นตราพระครุฑพ่าห์ การ พระราชทานตรา แต่เดิมถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่จะพระราชทานตามพระราชอัธยาศัย ผู้ได้รับพระราชทานส่วนมากเป็นผู้ที่ประกอบกิจการค้ากับราชสํานัก และประกอบกิจการงานที่เป็นประโยชน์ต่อ ราชการแผ่นดิน การขอพระราชทานตราต้องยื่นคําขอต่อสํานักพระราชวัง เพื่อนําความขึ้นกราบบังคมทูลขอ พระราชทานพระบรมราชานุญาต และถือว่าเป็นของพระราชทานเฉพาะบุคคล สิทธิรับพระราชทานและการใช้เครื่องหมายนี้สิ้นสุดเมื่อทางสํานักพระราชวังเรียกคืนหรือเพิกถอนสิทธิ
ขอบคุณข้อมูลจาก : ศูนย์วิทยบริการศาลยุติธรรม