23 พ.ย.67 – เที่ยวพัทยาใน 1 วัน กับการหลงไปเจอกับความยิ่งใหญ่ และอลังการงานสร้าง 1 ในสถาปัตยกรรมที่ทั่วโลกยกนิ้วให้ “ปราสาทสัจธรรม” ปราสาทไม้แกะสลักด้วยวิธีโบราณทั้งหลัง ที่ไม่มีวันสร้างเสร็จ และอีกสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตยามค่ำคืนริมชายหาดพัทยา ชิมอาหารสตรีทฟู้ดกับถนนที่ไม่เคยหลับ ที่ “วอล์คกิ้งสตรีทพัทยา”
ชลบุรียังมีที่เที่ยวอีกเพียบ โดยเฉพาะที่นี่หนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์สุดอันซีนของเมืองไทย “ปราสาทสัจธรรม” ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น “ปราสาทไม้แกะสลักที่ใหญ่ที่สุดในโลก” หนึ่งในสถาปัตยกรรมงานไม้แกะสลักที่โชว์ความสามารถของช่างไม้ไทยให้ทั่วโลกต้องมาทึ่งกับความงดงามสุดอลัง ความยิ่งใหญ่ของ “ปราสาทสัจธรรม” ที่ได้ชื่อว่าเป็นปราสาทไม้แกะสลักที่ใหญ่ที่สุดในโลก เริ่มจากโรงไม้แกะสลักจุดนี้ที่เหล่าช่างแกะสลักฝีมือดีกำลังลงค้อนตอกสิ่ว แกะสลักจากแผ่นไม้ชิ้นใหญ่ๆ ให้เกิดเป็นรูปทรงเปลี่ยนเป็นรูปภาพที่มีมิติวิจิตรสวยงามตามที่จินตนาการร่างแบบเอาไว้
ในจุดโรงแกะสลักไม้นี้ “ปราสาทสัจธรรม” เปิดให้นักท่องเที่ยวลองมานั่งแกะสลักไม้กับช่างไม้ได้ด้วย ขอคำแนะนำจากช่างแกะสลักไม้ได้ว่าจะเริ่มจากจุดไหน ทำไม้ทำมืออย่างไร แต่ขอแนะนำหน่อยนะว่าต้องใจเย็นๆ ค่อยๆ ทำ ค่อยๆ เรียนรู้จากช่างที่จะแนะนำอยู่ใกล้ๆ เพื่อจะได้ชิ้นงานสวยๆ และชิ้นงานเหล่านี้ที่เราได้ลงมือแกะสลักลลงไปก็จะเป็นส่วนหนึ่งในการ นำไปใช้ประดับตกแต่ง เป็นชิ้นส่วนที่นำไปเปลี่ยนกับชิ้นงานเดิมที่มีการชำรุดตามกาลเวลา นี่แหละจุดกำเนิดของความยิ่งใหญ่และสวยงามของปราสาทสัจธรรม อ้อ! ส่วนหนึ่งคือปราสาทสัจธรรม แห่งนี้อยู่ติดกับทะเล แน่นอนว่าลมทะเล ไอเค็มจากน้ำทะเล เป็นตัวเร่งปฏิกิริยากับเนื้อไม้อย่างมาก ทำให้เกิดการชำรุดได้โดยตลอด จึงต้องมีการซ่อมแซม หรือเสริมงานไม้เข้าไปแทนชิ้นไม้ที่ชำรุด จึงเป็นที่มาของการตั้งสมญานามของปราสาทไม้แกะสลักแห่งนี้ว่าเป็น “ปราสาทไม้แกะสลักที่มีวันสร้างเสร็จ” “เอ่อ...แปลกดี!”
ถัดมาคือโครงสร้างจำลองของ “ปราสาทสัจธรรม” ซึ่งความละเอียดของงานก่อสร้างส่วนหนึ่งเราเห็นได้จากแบบจำลองนี้ เพราะทำให้เห็นถึงกรรมวิธีในการก่อสร้างไม้แต่ละชิ้นจะเชื่อมต่อกันด้วยวิธีงานไม้โบราณ ตัวอาคารเป็นงานไม้แกะสลักล้วนที่ไม่มีการเชื่อมต่อด้วยตะปูเลยแม้แต่จุดเดียว และแบบจำลองนี้ยังเป็นเหมือนแปลนการก่อสร้างที่ให้ช่างได้ศึกษา จุดต่างๆ เพื่อให้การแซ่มแซมแต่ละจุดมีความปลอดภัย และตรงตามรูปแบบเดิม
มองจากด้านนอกเราจะได้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ และสวยงาม แต่เมื่อเราได้เข้ามาภายในของปราสาทสัจธรรม สิ่งที่ได้เห็นคือความวิจิตรตระการตา ตามสโลแกนที่ว่า “สัมผัสคุณธรรมที่สำแดงตนบนงานไม้แกะสลัก สูงสุดเสียดฟ้า วิจิตรงดงามดังเทพนฤมิต”
จากข้อมูลของพิพิธภัณฑ์ปราสาทสัจธรรม บอกไว้ว่า ปราสาทสัจธรรม เป็นอาคารที่สร้างด้วยไม้แกะสลักทั้งหลังเป็นทรงไทยจตุรมุข ด้านล่างของฐานเป็นลักษณะฐานสิงห์ ห้องโถงและหน้าต่างเปิดให้ลมและแสงสว่างเข้าออกทั้ง 4 ด้าน ศิลปะตบแต่งปราสาทเป็นศิลปะแนวความคิดสมัยใหม่ที่ผสมผสานกันตั้งแต่อยุธยาตอนต้นจนถึงศิลปะรัตนโกสินทร์ หลังคาซ้อนลดหลั่นกันสี่ด้าน ยอดเป็นสัญลักษณ์พระปรางค์ ยอดสูงทั้งสี่ด้านมีรูปแกะสลักลอยตัวสัญลักษณ์ของเทพยืนบนยอดทั้ง 4 ทิศ การมาที่นี่อาจทำให้เราได้ค้นพบสัจธรรมชีวิตก็ได้ ซึ่งคำตอบอาจร้อยเรียงผ่านงานประติมากรรมไม้แกะสลักภายในปราสาทสัจธรรมแห่งนี้ ผ่านเส้นทางการค้นพบสัจธรรมชีวิตทั้ง 7 ประการ ได้แก่ สัจธรรมที่ 1 "เราเป็นใครมาจากไหน?", สัจธรรมที่ 2 "ดำรงชีวิตได้อย่างไร?, สัจธรรมที่ 3 "การดับสูญ", สัจธรรม ที่ 4 อารยบุคคลตัวอย่าง, สัจธรรมที่ 5 "อะไรเป็นเป้าหมายของชีวิต?", สัจธรรมที่ 6 "สังคมเปรียบเสมือนเหรียญสองด้าน", สัจธรรมที่ 7 "จุดเริ่มต้นของสังคม"
ยิ่งได้ลองเดินดูประติมากรรมงานไม้แกะสลักแบบใกล้ๆ ยิ่งได้เห็นถึงความตั้งใจและฝีมือของงานแกะสลักไม้ แต่ละชิ้นมีความสวยงามแตกต่างกันไป บอกเล่าเรื่องราวที่ต้องการถ่ายทอดผ่านสัจธรรมต่างๆ ของชีวิต ไม่ว่าจะการกำเนิดของชีวิต เราเป็นใครมาจากไหน เป้าหมายของชีวิต หรือแม้กระทั้งการดับสูญ แม้แต่เสาต้นใหญ่ๆ ทุกตารางนิ้วร้อยเรียงประติมากรรมต่างๆ ไว้ได้อย่างสอดคล้อง ดูเท่าไรก็ไม่มีเบื่อร้อยต่อเนื่องไปด้วยกัน แม้แต่ด้านบนเพดานก็ประดับประดาไปด้วยงานศิลป์ ที่มีความหมายลึกซึ้ง ชวนให้ยิ้มกับความยิ่งใหญ่แห่งหนึ่งที่อยู่ในเมืองไทย คือสิ่งที่ประติมากรรมที่งดงามเหล่านี้พยายามบอกต่อความหมาย และให้ทุกคนได้เรียนรู้และเข้าใจชีวิตมากยิ่งขึ้น อาจได้เจอกับสัจธรรมชีวิตของตัวเองที่ทำให้ชีวิตของเรามีความสุขมากขึ้นอีก
ที่นี่ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจอีกเพียบ เช่น นั่งพักเหนื่อยลงเรือแจวขุดแบบโบราณที่นักท่องเที่ยวอย่างเราสามารถเพลิดเพลินกับเสียงนกเสียงไม้ รับลมชิลๆ ฮีลใจเติมความสุขให้กันและกัน , นั่งรถไม้ ขี่ช้าง , สวนศิปะป่าหิมพานต์ เป็นต้น และก่อนกลับอย่าลืมมาปิดจ็อบเก็บบรรยากาศสวยๆ ของปราสาทสัจธรรมกันด้วยละ หรือจะมาเดินรับลมริมหาด เก็บความรู้สึกดีๆ กลับไปดำเนินชีวิตที่มีความหมายมาหขึ้นกันอีกครั้ง
ความสุข ความสนุกของพัทยา ชลบุรี ยังไม่หมดกันง่ายๆ หลายต่อหลายเสียงบอกว่ามาแล้วจ้องแวะมาอีกหนึ่งที่ ที่หลายคน หลงไหลกับความสนุกสุดพิเศษของถนนเส้นนี้ “วอล์คกิ้งสตรีท พัทยา” ถนนที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาทันที่ที่พระอาทิตย์ค่อยๆ ลับขอบฟ้า เปลี่ยนเป็นแสงสีเสียง ที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวมาสนุกกันต่อตลอดค่ำคืน ทั้งอาหารการกิน ดนตรี กิจกรรมบันเทิง อัดแน่นตลอดถนนวอล์คกิ้งสตรีท แห่งนี้
ตลอดเส้นทางของ “วอล์คกิ้ง สตรีท พัทยา” เต็มไปด้วยแสงสี และสีสันของร้านค้า ผับบาร์ต่างๆ ที่จูงใจเชิญชวนต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยกิจกรรมต่างๆ ซึ่งก็ต้องไปพิสูจน์กันเองละนะ แต่จะเดินเล่นๆ ก็ไม่มีเหงา เพราะมีร้านสตรีทฟู้ดต่างๆ ปักหลักรอต้อนรับลูกค้าเข้ามาอุดหนุนยาวทั้งคืน แถมมีการละเล่นสไตล์ไทยๆ ท้าทายความสนุกที่เป็นสีสันให้นักท่องเที่ยวมาแล้วไม่มีเบื่อแน่นอน
เราได้เห็นความสนุก ความสุข และรอยยิ้มจากนักท่องเที่ยว เห็นอีกการท่องเที่ยวที่แตกต่างไป คล้ายๆ กับชีวิตของคนเราเหมือนกันนะ ที่ต่างก็มีความความชอบ ต่างก็มีความเชื่อ ต่างก็มีรูปแบบการใช้ชีวิต และเลือกที่หาความสุขเติมพลังให้กับตัวเอง เติมประสบการณ์ใหม่ๆ ได้เรียนรู้จากอะไรบางอย่าง ก็นับว่าเป็นประสบการณ์ดีๆ อีกแง่มุม เป็นอีกที่ที่เติมประสบการณ์ทอ่งเที่ยวอีกด้านหนึ่งให้กับชีวิตเราสักครั้ง