ตลาดน้อยถือเป็นย่านที่มีพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนที่มีความหลากหลายในเชื้อสายมากที่สุดแห่งหนึ่งในชุมชนของกรุงเทพฯ ตลาดน้อยมีทั้งแต้จิ๋ว ไหหลำ ฮกเกี้ยน และจีนแคะดังนั้นจึงมีวิถีวัฒนธรรมที่ผสมผสานหลากหลาย หนึ่งในสิ่งที่แสดงออกอย่างโดดเด่นคือ อาหาร ในเทศกาลวันไหว้บ๊ะจ่างเราจึงนำเอาร้าน บ๊ะจ่างมีชื่อ สุดเด็ดของตลาดน้อย 7 ร้าน มารีวิวกัน เริ่มด้วย เจ๊วัชรี เจ๊ยี้ เจ๊ไพ เฮียจั๊ว เจ๊หมวย เจ๊เกียว และ เจ๊ฮวง
ร้านเจ๊วัชรี ร้านบ๊ะจ่างที่ขายดีที่สุดในย่าน ร้านตั้งใจสืบทอดรายละเอียดต้นตำรับบ๊ะจ่างของตามสูตร ที่มีเนื้อหมูรวนไฟอ่อน มีเคล็ดลับจากซอสหลากรสกว่า 6-7 ชนิด จับเวลาหุงข้าวเหนียวจากก้านธูป หุงเสร็จแล้วผสมข้าวเหนียวกับเครื่องปรุงและเครื่องเทศ โดยเฉพาะ “บั๊วะ” ที่เหมือนเป็นซิกเนเจอร์ของบ๊ะจ่างที่นี่ด้วยไม้พายจากแรงผู้ชายที่ทำอย่างคุ้นเคยมาหลายสิบปีกลายเป็นบ๊ะจ่างสุดเด็ด
ร้านเจ๊ยี้ ร้านที่มาแรงที่สุดในย่าน มีเซอไพรซ์ด้วยกล่องบรรจุบ๊ะจ่างรูปเรือมังกร ที่เห็นแล้วเป็นใครก็ต้องอยากได้ กล่องบรรจุบ๊ะจ่างได้ 5 ลูก เหมาะนำไปเป็นของฝากเพิ่มเติมความประทับใจ ปีนี้เจ๊ยี้ได้เชื่อมสัมพันธไมตรี รับออเดอร์จากสถานทูตจีนด้วย ยิ่งช่วยการันตีคุณภาพ โดยเฉพาะเรื่องรสชาติ ทำทุกอย่างออกมาได้ลงตัว พอดีทั้งรสชาติและรสสัมผัส ข้าวนุ่มเรียงเมล็ด ใครอยากชิมบ๊ะจ่างรสเด็ดต้องจองล่วงหน้าสถานเดียว
ร้านเจ๊ไพ ปกติเป็นร้านกับข้าวจีนปนไทย ที่ปากตรอกตัน ริมถนนเจริญกรุงไฮไลท์ของบ๊ะจ่างอยู่ที่หมูสามชั้น กุนเชียงชิ้นใหญ่นึ่งแล้วแขวนอยู่หน้าปากตรอก ถ้าขับรถผ่านแต้เล่าจินเส็ง แล้วชำเลืองซ้าย ก็จะเห็นแขวนขายมาแต่ไกล ร้านเจ๊ไพจอดรถแวะซื้อง่าย ลูกค้าประจำซื้อเยอะคุยถูกอัธยาศัย เจ๊ไพมักคืนกำไร มีของอร่อยแถมให้อยู่เสมอ
ร้านเฮียจั๊ว ถนนวาณิช 2 (เยื้องตรอกเจ้าสัวสอน) อาเฮียจั๊วใจดี ยิ้มไปขายไปตลอดเวลา อาเฮียเล่าว่าที่บ้านทำอาหารไหว้เจ้าตามเทศกาลประเพณีในรอบปี รวมถึงบ๊ะจ่างมาตั้งแต่รุ่นแม่ สมัยก่อนนิยมทำบ๊ะจ่างแบบต้มเป็นหลัก พอเฮียมารับช่วงต่อก็เปลี่ยนสไตล์มาเป็นแบบนึ่ง นึ่งแบบนี้มา 30 กว่าปี รสชาติของบ๊ะจ่างเฮียจั๊วรสเข้มข้น ค่อนไปทางจัด ผสมผสานระหว่างความเป็นแต้จิ๋วกับความเป็นฮกจิว โดยมีพี่ต้า ภรรยาของอาเฮีย เป็นจีนฮกจิวจากอำเภอนาบอน รับหน้าที่เป็นแม่ครัวมือหนึ่งของบ้านนี้ ซึ่งทำเป็ดไก่ไหว้เจ้าตามเทศกาล เป็นหลักและทำบะหมี่หวานเซ็งซิมอี้ในเทศกาลกินเจ คู่รักนักปรุงแห่งตลาดน้อยทั้งสองท่านนี้ลงความเห็นกันว่า ในบรรดาอาหารไหว้เจ้าตลอดปี มีงานบ๊ะจ่างนี่แหละที่ถือว่าหนักที่สุด ใช้เวลาเยอะที่สุด ออเดอร์ลูกค้าก็มากที่สุดด้วย
ร้านเจ๊หมวย ถือเป็นคนที่ทำมานานที่สุดในรีวิวนี้คือ 60 ปีแล้ว เจ๊หมวยเล่าว่าตั้งแต่จำความได้ ตัวเองก็ช่วยแม่ห่อบ๊ะจ่งอยู่ที่ตลาดน้อยแล้ว เจ๊หมวยมีฝีมือทำขนมไหว้เจ้าต่างๆ โดยเฉพาะ ไช้เทาก๊วย (ขนมผักกาด) ที่ยังทำขายอยู่ตามเทศกาล ในขณะเดียวกัน ก็มีอีกหลายอย่างที่เลิกทำแล้ว เช่น อิ๋วก๊วยที่ไหว้กันตอนปลายปี ร้านเจ๊หมวยเน้นทีมงานสูงวัยรู้ใจกัน เป็นพี่น้องกับเพื่อนๆ มาช่วยกันลงมือทำบ๊ะจ่างอยู่กึ่งกลางตลาด หน้าศาลเจ้าปึงเถ่ากง เจ๊หมวยมีทักษะสูงในการทำบ๊ะจ่างระบบ manual ละเมียดละไม ค่อยๆ ใช้มือเกลี่ยข้าวเคล้ากับวัตถุดิบและเครื่องปรุงต่างๆ ให้ทั่วอย่างใจเย็น เคล็ดลับอย่างหนึ่งของบ๊ะจ่างเจ๊หมวยคือการเลือกใช้สันคอหมูติดมันห่อเข้าไปในใบจ่างขณะยังดิบกับข้าวเหนียวก่อนนึ่ง เพื่อให้รสชาติความหวานนัวของเนื้อหมูซึมเข้าไปในทุกอณูของเนื้อข้าว ดูเจ๊ทำได้แบบเพลินๆ ยาวๆ ไม่เบื่อเลย ระหว่างห่อก็มีคนมายุให้เจ๊ทำบ๊ะจ่างไส้ทุเรียนดู เห็นเจ๊คิดตามแล้วก็คงคิดหนัก 555
ร้านเจ๊ฮวง ริมถนนเจริญกรุง ก่อนถึงวัดญวนเป็นร้านขายกับข้าวเก่าแก่กว่า 20 ปี สำหรับบ๊ะจ่างร้านนี้ ประทับใจกุ้งแห้งตัวใหญ่มาก มีขั้นตอนการเตรียมวัตถุดิบคุณภาพอย่างดีพิถีพิถัน เน้นทำเครื่องเองแทบทั้งหมด โดยเฉพาะเกาลัดสดใหม่ แกะเองต้มเอง สมชื่อนักเลงตลาดน้อย ส่วนเผือกรสหวานชื่นใจตัดกับรสเค็มอ่อนๆ ของเนื้อหมูและข้าว รสสัมผัสของข้าวค่อนข้างนิ่มละมุนลิ้น ไม่จัดจ้าน เด็กทานได้ ผู้ใหญ่ทานดี ลูกละ 90 บาท แต่ทุกอย่างใหญ่บิ๊กไซส์ แต่ละลูกทำด้วยความตั้งใจ ซื้อกลับไปฝากญาติผู้ใหญ่รับรองไม่ผิดหวัง