X
7คน/วัน ผู้หญิงไทยถูกละเมิดทางเพศ-ทำร้ายร่างกาย

7คน/วัน ผู้หญิงไทยถูกละเมิดทางเพศ-ทำร้ายร่างกาย

8 มี.ค. 2565
880 views
ขนาดตัวอักษร

มี..65 - ถึงเวลาต้องช่วยกันแก้ไขเปิดสถิติหญิงไทยถูกละเมิดทางเพศ-กระทำความรุนแรง มากกว่า 7 คน/วันต้องส่งเสริมความเสมอภาค ขจัดความรุนแรงทุกรูปแบบ


เนื่องในวันสตรีสากล สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสสร่วมรณรงค์ให้เห็นความสำคัญและป้องกันไม่ให้เกิดการกระทำที่รุนแรงทั้งทางกายและจิตใจต่อผู้หญิง


นางภรณี ภู่ประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า ผู้หญิงทุกสังคมต้องเผชิญปัญหาความรุนแรงในครอบครัว และความรุนแรงทางเพศโดยประเทศไทยมีสถิติความรุนแรงต่อผู้หญิงสูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก พบว่า ผู้หญิงถูกละเมิดทางเพศ ถูกกระทำความรุนแรงทางร่างกายหรือจิตใจ ไม่น้อยกว่า 7 คน/วัน และมีสถิติผู้หญิงที่เข้ารับการบำบัดรักษา แจ้งความร้องทุกข์ประมาณปีละ 30,000 คน 


จากการสำรวจสถานการณ์ความรุนแรงต่อผู้หญิง และบุคคลในครอบครัวของไทยระดับประเทศ พบความรุนแรงต่อผู้หญิงและบุคคลในครอบครัว เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 34.6 ในปี 2560 เป็นร้อยละ 42.2 ในปี 2563 โดยประเภทความรุนแรงสูงสุดคือ ความรุนแรงทางด้านจิตใจ คิดเป็นร้อยละ 32.3 รองลงมาคือ ความรุนแรงทางร่างกายร้อยละ 9.9 และความรุนแรงทางเพศร้อยละ 4.5

เนื่องในวันสตรีสากล 8 มีนาคม สสสหวังว่า นอกจากการส่งเสริมสิทธิและความเสมอภาคของสตรีแล้ว ทุกภาคส่วนควรร่วมกันขจัดความรุนแรงต่อผู้หญิงในรูปแบบ เช่น ความรุนแรงในครอบครัว การข่มขืน ให้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals-SDGs) ของสหประชาชาติ ที่ระบุให้การขจัดความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็กหญิง ทั้งในที่สาธารณะและพื้นที่ส่วนตัว เป็นเป้าหมายที่ประเทศต่าง  ต้องให้ความสำคัญและทำให้บรรลุเป้าหมาย 


ทั้งนี้จากสถานการณ์โควิด-19 ที่ต้องเผชิญปัญหาทางเศรษฐกิจ ตกงาน มีภาระหนี้สิน ทำให้เกิดความเครียดสะสมและความรุนแรงในครอบครัวเพิ่มสูงขึ้น สสสได้ร่วมกับ โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ประจำประเทศไทย เปิดพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่แสดงความเห็นร่วมหาทางออกจากปัญหาดังกล่าวร่วมกัน โดยประกาศรับสมัครเยาวชนรุ่นใหม่ และผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมในช่วงปลายเดือนมีนาคม – เมษายน 2565 สามารถติดตามรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ www.นับเราด้วยคน.com


นางสาววรรณกนก เปาะอิแตดาโอะ นายกาสมคมเด็กและเยาวชนเพื่อสันติภาพชายแดนใต้ กล่าวว่า มีผู้หญิงอีกจำนวนมากที่ตกเป็นเหยื่อความรุนแรง โดยผู้หญิงในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ต้องเผชิญ 3 ปัญหา ได้แก่ 

  1. การถูกลิดรอนสิทธิ ถูกจำกัดสิทธิต่างๆ เช่น การเข้าไปมีส่วนร่วมระดับกลไกของรัฐ หรือระดับการเมืองท้องถิ่น ในการช่วยตัดสินใจ ช่วยแก้ปัญหา ซึ่งส่วนใหญ่ถูกมองว่าควรเป็นเรื่องของผู้ชาย
  2. สถานการณ์โควิด-19 ทำให้ความรุนแรงในครอบครัวสูง การหย่าร้างเพิ่มขึ้น กรณีเหล่านี้ถูกมองว่าเป็นเรื่องในครอบครัว คนนอกไม่ควรยุ่ง ขณะที่มีผู้หญิงจำนวนมากกล้าหาญไปขอความยุติธรรมจากหน่วยงาน แต่จะถูกบอกว่าให้อดทน 
  3. การไม่ยอมรับให้ผู้หญิงเป็นผู้นำ ทั้งที่ในพื้นที่ผู้ชายมีจำนวนน้อยลงจากการเสียชีวิตในเหตุการณ์ความไม่สงบ หลบหนีกระบวนการยุติธรรม หรือเจอคดียาเสพติด  ทำให้สัดส่วนจำนวนผู้หญิงมีมากกว่าผู้ชาย แต่ในระดับการตัดสินใจหรือกลไกต่างๆ กลับให้ผู้หญิงมีส่วนร่วมเพียงร้อยละ 0.05 สะท้อนการให้โอกาสที่น้อยมาก


การทำงานจุดประกายสิทธิผู้หญิงในชุมชน กลุ่มลูกเหรียงเป็นองค์กรภาคประชาสังคม ก่อตั้งมาเข้าปีที่ 20 ได้รับการสนับสนุนจาก สสสทำงานกับผู้หญิงที่เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ผู้นำที่เป็นผู้หญิง และเด็กผู้หญิง เพื่อให้เข้าถึงโอกาสทางการศึกษาที่ดีให้ได้มากที่สุด บนพื้นฐานที่เชื่อว่า เมื่อมีการศึกษาจะมีทางเลือกในชีวิตมากขึ้น 

ปัจจุบันพบสัดส่วนผู้หญิงในระบบการศึกษาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้สูงกว่าผู้ชาย นอกจากนี้ได้ทำงานร่วมกับผู้หญิง โดยเฉพาะผู้หญิงมุสลิม เช่น การเสริมศักยภาพองค์ความรู้ ผลักดันให้เป็นแกนนำ เพื่อไปอยู่ในกลไกต่างๆ  สนับสนุนให้ผู้หญิงลงเลือกตั้งการเมืองท้องถิ่น และสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ

นอกจากนี้ ยังได้ขับเคลื่อนงานสุขภาวะเด็กเยาวชนและครอบครัวในพื้นที่ชายแดนใต้ใน .ยะลาร่วมกับ สำนักสนับสนุนสุขภาวะเด็ก เยาวชนและครอบครัว(สำนัก 4) สสสอย่างต่อเนื่อง มุ่งเป้าให้เด็กและเยาวชนในพื้นที่มีสุขภาวะที่ดี เปิดโอกาสให้ชุมชนสร้างทีมทำงานเพื่อเด็กและเยาวชน เสริมพลัง และความมั่นคงทางเศรษฐกิจแก่ครอบครัว รวมถึงหนุนเสริมกิจกรรมที่เอื้อต่อการสร้างสุขภาวะ ตามแนวทางของภารกิจบูรณาการทุกภาคส่วนเพื่อสร้างระบบนิเวศน์รอบตัวเด็กให้เอื้อต่อการสร้างสุขภาวะ โดยใช้หลัก “ชุมชนนำ

ดึงทุกภาคส่วนในชุมชนเข้ามาเป็นเจ้าของเรื่อง ช่วยกันขับเคลื่อน จนเกิดผลลัพธ์ที่ดีแก่เด็กในพื้นที่ ทั้งเรื่องการสร้างความตระหนักเรื่องการแต่งงานของเด็กหญิง การปกป้องเด็กจากอันตราย การส่งเสริมให้เด็กได้รับวัคซีน การส่งเสริมพัฒนาการเด็กตามช่วงวัย ส่งเสริมการอ่านนิทานเพื่อพัฒนาสมอง และสร้างสัมพันธภาพในครอบครัว สะท้อนบทบาทการขับเคลื่อนจากพลังสตรีอย่างแท้จริงในพื้นที่ชายแดนใต้


อีกทั้งได้จัดตั้งกลุ่มผู้หญิงที่ให้คำปรึกษา และช่วยเหลือสำหรับผู้หญิงที่ต้องการเข้าถึงความยุติธรรม และได้รับความเคารพในความเป็นมนุษย์เท่ากัน

Terms of Service © 2018 MCOT.net All rights reserved นโยบายข้อมูลส่วนบุคคล