กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข แนะวิธีป้องกันโรคน้ำกัดเท้าที่มักมากในช่วงน้ำท่วม หรือเมื่อเดินย่ำน้ำหรือยืนแช่น้ำบ่อยๆ ซึ่งเป็นที่มาของเท้าเปื่อย โดยเฉพาะบริเวณซอกเท้าบริเวณที่ผิวหนังเปื่อยนี้เป็นจุดอ่อนทำให้เชื้อโรคที่มากับน้ำเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย ในระยะแรกเมื่อผิวหนังมีการแช่น้ำนานๆ จะเกิดอาการเปื่อย ทำให้เกิดอาการระคายเคืองจากสิ่งสกปรกหรือสิ่งระคายเคืองต่างๆ ทำให้ผิวหนังเกิดการอักเสบบวม แดง คัน แสบและทำให้เชื้อโรค เช่น แบคทีเรียหรือเชื้อรา เข้าสู่ผิวหนังทำให้ติดเชื้อได้ ซึ่งหากผิวหนังมีการติดเชื้อแบคทีเรียจะมีอาการปวด บวม แดง ร้อน แต่ถ้าเป็นเชื้อราจะมีลักษณะเป็นขุยสีขาว มีกลิ่นเหม็น และมีอาการคัน
วิธีป้องกันโรคน้ำกัดเท้า
1.หลีกเลี่ยงการแช่เท้าในน้ำนานๆ หรือสวมรองเท้าบูทเมื่อต้องลุยน้ำ
2.ล้างเท้าให้สะอาดด้วยน้ำสบู่เช็ดให้แห้งและทาครีมบำรุงผิว
3. ถ้ามีผื่นแดงแสบหรือคันควรทายาตามอาการ
4. ถ้าอาการไม่ดีขึ้นควรรีบพบแพทย์
ที่สำคัญคือการดูแลป้องกันโรคเชื้อราที่เท้าไม่ให้กลับเป็นซ้ำอีก โดยรักษาความสะอาดให้เท้าแห้งอยู่เสมอ และดูแลบริเวณซอกนิ้วเท้า เช็ดให้แห้งแล้วให้ทายารักษาโรคเชื้อรา แต่ถ้ามีอาการรุนแรงและเรื้อรัง ทายาไม่ได้ผลควรไปพบแพทย์ ที่สำคัญคือไม่ควรซื้อยารับประทานเอง ซึ่งอาจจะมีผลข้างเคียงต่อตับไต และควรรักษาอย่างต่อเนื่อง ไม่ควรหยุดยาเองแม้ว่าจะดีขึ้น การหยุดยาเร็วเกินไปขณะที่เชื้อยังไม่หมด มีโอกาส กลับเป็นซ้ำอีกได้ง่าย