3 พ.ย.64 - ไทยทำได้ เจาะบ่อบาดาลลึกกว่า 1,000 เมตร ได้ครั้งแรกของไทยและอาเซียน ดึงน้ำสะอาดขึ้นมาใช้ช่วยแก้ปัญหาประชาชนในพื้นที่ภัยแล้ง จ.ขอนแก่น
กรมทรัพยากรน้ำบาดาล โชว์ศักยภาพทีมขุดเจาะน้ำบาดาล ลงพื้นที่บ้านหินขาว ต.สาวะถี อ.เมือง จ.ขอนแก่นโครงการเจาะบ่อบาดาลลึก 1,000 เมตร ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (แอ่งนครราชสีมา-อุบลราชธานี แอ่งอุดรธานี-สกลนคร และแอ่งเลย) ซึ่งถือเป็นการเจาะบ่อน้ำบาดาลได้ในระดับความลึกที่มากที่สุดครั้งแรกของประเทศไทยและในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กล่าวว่า จากการทดสอบนำ E - log หรือเครื่องหยั่งธรณีฟิสิกส์หลุมเจาะ หย่อนไปในบ่อที่เปิดปากหลุม 8 นิ้ว เพื่อวัดขนาดความลึกของบ่อและเก็บข้อมูลเพื่อนำมาประมวลผลด้วยคอมพิวเตอร์ ปรากฎว่า สามารถวัดความลึกได้ที่ 1,014 เมตร หรือลึกเกิน 1 กิโลเมตร
โดยความสำเร็จนี้เป็นหนึ่งในความร่วมมือกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กนช.) และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เดินหน้าเร่งจัดหาแหล่งน้ำบาดาลระดับลึก เพื่อการอุปโภคบริโภค และน้ำบาดาลเพื่อการเกษตรให้กับประชาชน เพื่อให้ประชาชนมีน้ำกินน้ำใช้ทุกครัวเรือน ตามแผนบริหารจัดการน้ำของประเทศ (พ.ศ. 2561 – 2580)
กรมทรัพยากรน้ำบาดาล จึงได้ดำเนิน “โครงการศึกษาเพื่อการพัฒนาแหล่งน้ำบาดาลระดับลึกพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (แอ่งนครราชสีมา-อุบลราชธานี แอ่งอุดรธานี-สกลนคร และแอ่งเลย) เจาะหาน้ำบาดาลระดับลึก พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เริ่มตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
ซึ่งในการเจาะสำรวจน้ำบาดาล ณ บ้านหินขาว ม.15 ต.สาวะถี อ.เมือง จ.ขอนแก่น ที่ทีมขุดเจาะกรมทรัพยากรน้ำบาดาลสามารถเจาะได้ลึกถึง 1,014 เมตร พบชั้นน้ำบาดาลใหม่ ๆ หลายชั้น สลับกับชั้นน้ำกร่อยและน้ำเค็ม ที่ระดับความลึกตั้งแต่ 180-190, 260-320, 540-550, 590-610, 750-770, 840-860 และ 970-990 เมตร
โดยในชั้นที่พบน้ำบาดาลมากที่สุดคือ 540 - 600 เมตร สามารถนำมาใช้ได้ที่ 100 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง
•
โดยขั้นตอนจากนี้ จะมีการทำบ่อที่เจาะพบชั้นน้ำที่ระดับความลึกกว่า 1 กิโลเมตรให้เรียบร้อย ใช้เวลาประมาณ 2 เดือนจากนี้ เพื่อพัฒนาแหล่งน้ำบาดาลคุณภาพดี ศักยภาพสูง ขึ้นมาใช้เพื่อการอุปโภคบริโภคขนาดใหญ่ให้กับประชาชน ใน ต.สาวะถี อ.เมือง จ.ขอนแก่น ได้มีน้ำสำหรับอุปโภคบริโภค ไม่น้อยกว่า 10,000 คน
พร้อมทั้งเตรียมแผนขยายผลไปยังพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ และพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้แก่ จ.นครราชสีมา ขอนแด่น อุดรธานี หนองคาย มุกดาหาร นครพนม บุรีรัมย์ สุรินทร์ และ ศรีสะเกษ ให้ทุกพื้นที่ได้รับการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง และเลิกขาดแคลนน้ำ
นายศักดิ์ดา กล่าวอีกว่า การเจาะบ่อน้ำบาดาลที่ระดับความลึกกว่า 1,000 เมตร เป็นความท้าทายของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เพื่อช่วยประชาชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำจากสภาวะฝนทิ้งช่วงเป็นประจำทุกปี
ซึ่งสภาพพื้นที่บริเวณกลางแอ่งรองรับด้วยชั้นเกลือหินใต้ดิน ส่งผลให้ชั้นน้ำบาดาลมีคุณภาพกร่อย-เค็มในบางพื้นที่เช่น จ.ขอนแก่น มหาสารคาม และร้อยเอ็ด เป็นต้น
•
นอกจากนี้น้ำบาดาลยังกักเก็บในรอยแตกหรือรอยต่อของชั้นหินแข็งระดับลึก ภายใต้โครงสร้างทางธรณีที่ซับซ้อน ส่งผลให้การเจาะและพัฒนาน้ำบาดาลระดับตื้นมักจะไม่ประสบผลสำเร็จ มีปริมาณน้ำไม่เพียงพอ ทำให้ชาวบ้านต้องใช้น้ำจากแหล่งน้ำผิวดิน ซึ่งมีโอกาสเกิดการปนเปื้อนจากสารเคมีทางการเกษตรหรือแบคทีเรียได้ง่าย และอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ขาดโอกาสในการเข้าถึงทรัพยากรน้ำที่เหมาะสมต่อการอุปโภคบริโภค ขาดความมั่นคงด้านน้ำ ขาดโอกาสที่จะพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น
ภารกิจนี้จะทำให้ปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค เกษตร อุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการหมดไปจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งยังสามารถรองรับความต้องการใช้น้ำด้านอุปโภคบริโภค เศรษฐกิจ สังคม เกษตรกรรม และในภาคอุตสาหกรรมได้ในอนาคต