14 พ.ย.67 – เคยได้ยินหรือไม่! “เทวตำนานการกวนเกษียรสมุทร” กำเนิดของทิพย์วิเศษ 14 อย่าง ความมัศจรรย์ของตำนานโบราณ สู่จุดท่องเที่ยวไฮไลท์อีกแห่งของสวนนงนุช
สวนนงนุช พัทยา จ.ชลบุรี ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องสวนสวย สวยที่ไม่ธรรมดาเพราะสวนที่นี่สวยติดรางวัลระดับโลก โดยได้รับการการันตีว่า “สวนนงนุช” คือ สวนสวยติด 1 ใน 10 ของโลก แต่ช้าก่อนที่นี่ไม่ได้มีดีแค่โชว์ความสวยของสวนต้นไม้สวนดอกไม้เท่านั้นนะ แต่ที่สวนนงนุชจริงๆก็น่าจะถูกใจเหล่าสายมูเช่นกัน ซึ่งมีจุดแลนด์มาร์คใหม่ๆ ที่ชูเรื่ององค์เทพ หรือเล่าเรื่องตำนานต่างๆ อยู่รอบพื้นที่ 1,700 ไร่
หนึ่งในนั้นคือประติมากรรม “เทวตำนานการกวนเกษียรสมุทร” ที่การกวนเกษียรสมุทรนั้นมีความหมายที่ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว มีเรื่องเล่าดังนี้ “เทวตำนานการกวนเกษียรสมุทร” นั้นมีพระนารายณ์ได้เสด็จมาเป็นองค์ประธาน แล้วตรัสให้เหล่าเทวาอสูรช่วยกัน ถอนเขามันทระ อันเป็นแหล่งกำเนิดแห่งมณีนพรัตน์ มาตั้งลงในกลางทะเลน้ำนมที่สถิตย์อยู่ในไวกูณฑ์สวรรค์ แล้วให้ช่วยกันเก็บหาสมุนไพรนานาชนิดมาผสมลงในเกษียรสมุทร
และมอบหมายให้พญานาควาสุกรี ใช้ลำตัวมาเป็นเสมือนเชือกพันรอบเขามันทระต่างสายชักโยง โดยออกอุบายยกยอให้เกียรติอสูรว่าพวกใดมีกำลังเข้มแข็งที่สุดในไตรภพให้มาชักทางฝั่งเศียรนาค เหล่าอสูรหลงกลรีบตรงเข้ายึด ชักทางเศียรพญานาควาสุกรีทันที ฝ่ายเทวดาก็มาชักทางหาง ทั้งเทวดาและอสูรช่วยกันชักดึงให้ภูเขานั้นหมุนเพื่อกวนสมุนไพรให้เข้ากับน้ำนมในทะเล
•
ระหว่างนั้นพญานาควาสุกรีซึ่งเจ็บและเหนื่อยล้าจากการที่ร่างกายถูกเสียดสีจากการพันรอบภูเขาตลอดเวลา ก็อ้าปากคายพิษร้ายเป็น ไฟกรดกระเด็นไปถูกเหล่าอสูร ด้วยความร้อนของพิษทำให้เหล่าอสูรปวดแสบปวดร้อนและอ่อนแรงไปตามๆ กัน เหล่าอสูรยังได้สำรอกพิษออกมา พระศิวะจึงปรากฎกายดูดเอาพิษร้ายไว้ เพราะถ้าพิษลงไปโลกมนุษย์ สัตว์โลกจะตายกันหมด ฝ่ายพระแม่ปรวาตีเห็นพระสวามีกลืนพิษร้ายจึงกดพระศอของพระศิวะไว้เพื่อไม่ให้พิษไหลลงในพระอุทร ยังผลให้พระศอของพระศิวะเป็นสีดำ
•
การที่เกษียรสมุทรถูกภูเขามันทระกวนเป็นเวลานาน พระนารายณ์ทรงเห็นแจ้งด้วยทิพยญาณจึงแบ่งภาคอวตารไปเป็นเต่ายักษ์ ใช้กระดองหนุนก้นภูเขาไว้ไม่ให้เจาะลงไปกระทบกับก้นเกษียณสมุทรและดันจนทะลุโลกได้ จึงเป็นที่มาของ “กูรมาวตาร” อันเป็นปางหนึ่งในนารายณ์สิบปาง
•
โดยการกวนเกษียรสมุทร ดำเนินไปถึง 1,000 ปี และทำให้เกิดของทิพย์วิเศษ 14 อย่าง ตามลำดับ ได้แก่
1.พิษร้าย “หราหระ” และฝูงพญานาค
2.วัวตัวเมียชื่อ “กามเธนุ”
3.ม้าสีขาวชื่อ “อุจเจศรวัศ”
4.ช้าง “เอราวัณ” หรือ ไอราพต
5.เพชร “เกาสตุภมณี”
6.ต้นไม้ทิพย์ “กัลปพฤกษ์”
7.ธนู “หริธนู”
8.เทพธิดา “พระลักษมี”
9.พระจันทร์เสี้ยว “พระโสมะ”
10.เทพธิดา “พระแม่ลักษมี”
11.เทพธิดา “วารุณีเทพเทพีแห่งเหล้า”
12. “นางอัปสร 35 ล้านองค์”
13.เทพบุตร “ธนวันตรี เทวะแพทย์ผู้วิเศษ”
14. “น้ำอมฤต”
•
ทั้ฃนี้ด้วยความกลัวพวกอสูรจะรู้สึกตัวขึ้นจากความลุ่มหลงในความงามของนางอัปสร 35 ล้านองค์ พระนารายณ์จึงอวตารเป็นนางฟ้าเบี่ยงเบนความสนใจเหล่าอสูรออกจากน้ำอมฤต เป็นกุศโลบายให้เหล่าเทวดาได้ดื่มน้ำยอมฤต รวมทั้งราหูอสูรผู้มีสติปัญญาเฉียบแหลม นอกจากจะไม่ลุ่มหลงเหล่านางอัปสร ยังไม่หลงกลของพระนารายณ์ แต่พระอาทิตย์และพระจันทร์ ซึ่งเห็นราหูปลอมตัวมาเป็นเทพ จึงได้ไปฟ้องพระนารายณ์ เมื่อพระนารายณ์ทรงทราบจึงขว้างจักรสุทรรศนะออกไปตัดร่างราหูออกเป็นสองท่อน ในขณะที่กำลังดื่มกินน้ำอมฤตอยู่ แต่ราหูก็ไม่ตายเนื่องจากได้ดื่มน้ำอมฤตเป็นอมตะไปแล้ว จึงเป็นที่มาว่า “ราหู” จึงโกรธแค้นพระอาทิตย์และพระจันทร์ และได้สาบานว่าจะจับกินทุกครั้งที่โคจรมาพบกัน จนเกิดเป็นราหูอมจันทร์ และราหูกินพระอาทิตย์ สุดท้ายฝ่ายเทวดาซึ่งได้ดื่มน้ำอมฤตเรียบร้อยแล้วก็ขับไล่ฝ่ายอสูรทั้งหมดลงจากสวรรค์ไปได้สำเร็จ
•
ขอบคุณที่มา : สวนนงนุช พัทยา