X
ทิศทางดอลลาร์จะเป็นอย่างไร กราฟราคาทองคำจะไปต่อหรือไม่ เมื่อมีสัญญาณปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้น

ทิศทางดอลลาร์จะเป็นอย่างไร กราฟราคาทองคำจะไปต่อหรือไม่ เมื่อมีสัญญาณปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้น

14 พ.ค. 2564
3000 views
ขนาดตัวอักษร

    เป็นที่ทราบกันดีว่าอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันอยู่ในระดับต่ำถึงต่ำมาก โดยเฉพาะอัตราดอกเบี้ยที่ประกาศโดยธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟด ณ ปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 0.00% - 0.25% (ข้อมูล ณ วันที่ 6/5/2021 https://th.investing.com/central-banks/) โดยในเดือนมิถุนายน 2521 จะมีการประชุมในครั้งถัดไปและคาดว่าอาจมีการปรับดอกเบี้ยขึ้นในเร็ววันนี้ ภายหลังจากระบบเศรษฐกิจสหรัฐกลับมาสดใสอีกครั้ง หลังจากประชาชนมากกว่า 107,346,533 คนหรือ 32.3% ของประชากรทั้งหมดได้รับวัคซีนครบโดสและอีก 148,562,891 คนหรือ 44.7% ได้รับวัคซีนไปแล้วอย่างน้อยคนละ 1 โดส ซึ่งเหลือเพียงอีกแค่ 1 โดสเท่านั้น ส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาสแรก GDP โตถึง 6.4% ภายหลังจากที่ทางการสหรัฐเดินหน้า เร่งฉีดวัคซีนให้กับประชาชนชาวสหรัฐอย่างหนักหน่วง เพื่อต้องการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในชาติและฟื้นฟูเศรษฐกิจ ภายหลังจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในช่วงต้นปี 2020 ที่ผ่านมา ทำให้เศรษฐกิจที่กำลังซบเซาถึงกับต้องดิ่งเหวลงไปอีกครั้ง โดยเฉพาะการล็อคดาวน์และปิดธุรกิจเกือบทุกภาคส่วน จนส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง 

    สำหรับใครที่จะเทรดทองคำ แนะนำให้จับตาดู XAUUSD ให้ดี เพราะมีความผันผวนสูง หากพิจารณา กราฟราคาทองคำ ด้านเทคนิค จะเห็นได้ว่าในระยะสั้นกำลังก่อตัวเพื่อทำรูปทรงถ้วยกาแฟ หรือ CUP & Handle แต่ในภาพใหญ่ยังมองเป็นทิศทางขาลง หรือออกอาการ side way down เพราะถ้าหากไม่สามารถขึ้นมายืนเหนือราคา 1,800 ดอลล่าร์/ออนซ์ ได้แล้วนั้น โอกาสที่ราคาจะมีการอ่อนตัวลงไปได้สูง ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางของค่าเงินดอลล่าร์ที่มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นนั่นเอง

    แม้จะสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนจำนวนมากได้ แต่ใช่ว่าเศรษฐกิจจะกลับมาดีขึ้นในทันทีถ้าไม่ได้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ด้วยการอัดฉีดงบเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจมากกว่า 1.9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ จนสร้างความเชื่อมั่นและให้เศรษฐกิจฟื้นฟูกลับมาได้อีกครั้ง โดยมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นถึง 9.1 แสนคน ทำให้อัตราการว่างงานลดลงไปถึง 6% ทีเด็ดสุดเห็นจะไม่พ้นประธานธนาคารกลางสหรัฐ นางเจเนต เยลเลน ออกมาแสดงความคิดเห็นถึงอัตราดอกเบี้ยที่ควรจะปรับขึ้น เพื่อลดความร้อนแรงทางเศรษฐกิจของสหรัฐที่มากจนเกินไป ส่งผลให้ค่าเงินดอลล่าร์กลับมาแข็งค่าในทันทีเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก จนเป็นเหตุให้ กราฟราคาทองคำ ไปไม่ถึงฝันเนื่องจากไม่ผ่านแนวต้านสำคัญที่ 1,800 ดอลลาร์/ออนซ์ ได้ 


การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก 

    ภายหลังจากการผลิตวัคซีนโควิด-19 และเริ่มฉีดให้กับประชนทั่วโลก เศรษฐกิจเริ่มกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งหนึ่ง ไม่เฉพาะที่สหรัฐอเมริกาเท่านั้น แต่รวมถึงจีนคู่แข่งของสหรัฐที่มีการอนุญาตให้นำเข้าเหล็กจากต่างประเทศได้ ภายหลังจากที่เหล็กในประเทศไม่เพียงพอต่อการใช้งาน รวมถึงประเทศไทยที่มีปริมาณการใช้เหล็กเพิ่มมากขึ้นในช่วงปลายปี 2563 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ราคาเหล็กปรับตัวขึ้นสูงจนมีผู้ประกอบการยักษ์ใหญ่ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลห้ามส่งออกเศษเหล็ก เพราะเกรงว่าจะไม่พอต่อความต้องการภายในประเทศ หลังจากจีนประกาศลดการส่งออกเหล็กและนำเข้าเหล็กจำนวนมาก ซึ่งถือว่าเป็นสัญญาณการขยายตัวทางเศรษฐกิจในทิศทางที่ดีภายหลังจากที่ซบเซามาตลอดในช่วง 3-5 ปีที่ผ่านมา


ความผันผวนในตลาดฟอเร็กซ์ 

    ไม่เพียงแต่ค่าเงินดอลล่าร์ที่มีผลต่อราคาทองคำโลก แต่ยังมีผลต่อการเทรดฟอเร็กซ์อีกด้วย โดยเฉพาะค่าเงินสกุลหลักที่จับคู่กับ USD เพราะถ้าหากเศรษฐกิจของสหรัฐกลับมาฟื้นตัวได้ตามปกติ อัตราดอกเบี้ยมีการปรับตัวขึ้นแบบมีนัยยะย่อมส่งผลต่อตลาดเงินทั่วโลกอย่างแน่นอน หากคุณเป็นนักเทรดมืออาชีพไม่ว่าค่าเงินจะขึ้นหรือจะลงก็สามารถที่จะทำกำไรได้ทั้ง 2 รูปแบบ เพียงเข้าใจในกลไกตลาดและความผันผวนที่เกิดขึ้น เช่น หากมั่นใจว่าค่าเงินสหรัฐจะแข็งค่าขึ้นก็ให้ทำการซื้อเงิน USD แต่ถ้าค่าเงินดอลล่าร์จะอ่อนตัวลงก็ให้ทำการขายออกก็เพียงเท่านั้น 

    หากใครยังมองภาพไม่ออกว่าค่าเงินดอลล่าร์มีความแข็งค่ามาน้อยแค่ไหน ให้ดูกราฟคู่เงิน USDJPY เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2564 ที่ผ่านมาถึงปัจจุบัน (6 พฤษภาคม 2564) จะเห็นได้ว่าอัตราแลกเปลี่ยนเงินระหว่างดอลล่าร์สหรัฐกับเงินเยนของญี่ปุ่นจะอยู่ที่ 107.51เยน/ดอลล่าร์ ขึ้นมาเป็น 109.33เยน/ดอลล่าร์ หรือ 2 เยนกว่า แม้จะเป็นปริมาณอันน้อยนิดในมุมมองจากภายนอก แต่ด้วยอัตราทดที่อาศัยค่าเลเวอเรจที่มากสามารถที่จะเปลี่ยนส่วนต่างจาก 2 เยนกว่านี้กลายเป็นกำไรได้มากกว่า 20,000 – 200,000 เยน ได้ภายในระยะเวลา 14 วันเท่านั้น นอกจากปัจจัยในด้านเศรษฐกิจสหรัฐที่มีแนวโน้มที่ดีขึ้น อัตราดอกเบี้ยที่คาดว่าจะมีการปรับขึ้นไม่ช้าก็เร็วนี้ หากคุณเป็นหนึ่งในนักลงทุนจะเลือกลงทุนในสินทรัพย์ใด ไม่เพียงแต่ค่าเงินเยนที่ได้รับผลกระทบต่อการแข็งค่าของค่าเงินดอลล่าร์เท่านั้น หากแต่ยังมีค่าเงินสกุลหลักอย่างฟรังก์สวิสและเงินบาทไทยอีกด้วย เพราะเมื่อต้นปี 2021 อัตราแลกเปลี่ยนเงินระหว่างเงินดอลล่าร์สหรัฐกับเงินบาทไทยอยู่ที่ 29.00บาทโดยประมาณ แต่ในปัจจุบันข้อมูล ณ วันที่ 6 พฤษภาคม 2564 อัตราแลกเปลี่ยนเงินระหว่าดอลล่าร์สหรัฐกับเงินบาทไทยขยับมาเป็น 31.14 บาท/ดอลล่าร์ ตรงจุดนี้นักลงทุนและธุรกิจต่างๆ จะต้องคอยระมัดระวังให้ดี โดยเฉพาะกรณีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ อาจส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนตัวลงไปมากประกอบกับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้น ยิ่งเป็นตัวเร่งให้ค่าเงินอ่อนลงแบบฉับพลัน ซึ่งเคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้มาแล้วในช่วงวิกฤตต้มยำกุ้ง   

การเทรดโลหะมีค่าอื่นๆ นอกจากทองคำ 

    ในหมู่นักลงทุนและนักเก็งกำไรโดยส่วนใหญ่จะนิยมเทรดโลหะมีค่าอย่างทองคำ แต่ในความเป็นจริงยังมีโลหะมีค่าชนิดอื่นๆ ให้ได้เลือกเทรดกันอยู่ ดังนี้ 

  • XAUUSD การเทรดโลหะทองคำเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลล่าห์สหรัฐ
  • XAGUSD การเทรดโลหะเงินเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลล่าห์สหรัฐ
  • XPDUSD การเทรดโลหะพาลาเดียมเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลล่าห์สหรัฐ 
  • XPTUSD การเทรดโลหะแพลทตินัมเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลล่าห์สหรัฐ

    ขนาด lot ในการเทรดก็จะมีค่าที่แตกต่างกัน นักลงทุนควรศึกษาและทำความเข้าใจก่อนการลงทุน เพราะสินทรัพย์บางประเภทอาจมีการเคลื่อนไหวแตกต่างกัน แต่ส่วนต่างที่สามารถทำได้ไม่เป็นสองรองใครอย่างแน่นอน โดยทิศทางและราคาการเทรดโลหะมีค่าจะแปรผันตรงกับค่าเงินดอลล่าร์ หรืออาศัยการดูราคาทองคำเป็นหลักก็ได้ 


ลดความเสี่ยงกับคู่หูมืออาชีพ 

    หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มีความสนใจและต้องการที่จะเรียนรู้วิธีการเทรดฟอเร็กซ์อย่างถูกวิธี แต่ยังไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร Liteforex สามารถให้คำตอบกับคุณได้ ด้วยทีมงานมืออาชีพและมีประสบการณ์ในตลาดฟอเร็กซ์มากกว่า 10 ปี มีบริการบัญชี ECN ที่จะทำให้คุณสามารถเทรดค่าเงินส่งคำสั่งซื้อขายเข้าในตลาดใหญ่ได้โดยตรง ทำให้คำสั่งซื้อขายเป็นไปอย่างรวดเร็ว ไม่พลาดการทำกำไรแม้แต่วินาที ด้วยค่าสเปรดที่ลอยตัวและกลยุทธ์การเทรดที่ไม่จำกัด เงินฝากเริ่มต้นที่ $50 ค่าเลเวอเรจ 1:500 หรือจะเลือกเปิดบัญชีแบบ Classic ที่ให้โบนัสเงินฝากสูงถึง 30% ที่มาพร้อมแพลตฟอร์มการเทรดแบบมืออาชีพที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดในโลกอย่าง MT4 และ MT5 ทั้งเวอร์ชั่นบนมือถือและเว็บไซต์สำหรับคอมพิวเตอร์ สะดวก ทันสมัย ด้วยเทคโนโลยี copy trade จะช่วยให้คุณสามารถลงทุนได้อย่างมั่นใจ ด้วยเครื่องมือมากกว่า 145 ตัวที่มืออาชีพเลือกใช้  

    Liteforex มีช่องทางการฝากเงินที่หลากหลายให้เลือกใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต, เงินฝากธนาคารเงินฝากระบบออนไลน์ หรือสกุลเงินดิจิตอลอย่างบิทคอยน์ก็สามารถเข้าร่วมลงทุนได้ รวมถึงโลหะมีค่าต่างๆ จากทั่วโลกทั้ง เงิน, ทอง, พาลาเดียมและแพลทตินัม อัปเดตข้อมูลการเทรดแบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมง เพราะทุกวินาทีของคุณมีค่าเกินกว่าจะเสียไปได้ ดังนั้นไม่ว่าจะลงทุนในสินทรัพย์ใดๆ ก็ตาม การเลือกพาร์ทเนอร์ถือว่ามีความสำคัญที่สุด ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับความรู้ ความสามารถของผู้เทรดเองว่าจะสามารถเอาตัวรอดและทำกำไรในตลาดนี้ได้หรือไม่
Terms of Service © 2025 MCOT.net All rights reserved นโยบายข้อมูลส่วนบุคคล นโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเว็บไซต์ นโยบายเว็บไซต์ของ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)