19 พ.ย.65 - กรมป่าไม้ร่วมมือพันธมิตร พัฒนาคุณภาพชีวิตคู่การอนุรักษ์ยั่งยืน ยกพื้นที่ต้นแบบ ป่าสงวนแห่งชาติกองแขก จ.เชียงใหม่ แห่งแรก
กรมป่าไม้ และกลุ่มภาคเอกชน เช่น มูลนิธินวัตกรรมเกษตรอินทรีย์ไทย (TOF), องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (สำนักงานประเทศไทย) เป็นต้น ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการอนุรักษ์ดินและน้ำ ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 และ 2 ตามกรอบมาตรการมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 26 พ.ย.2561 เพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศ ด้วยแนวคิดการพัฒนาระบบอาหารเพื่อท้องถิ่น (Local Food System) การดำรงชีพอย่างยั่งยืน (sustainable livelihood) และความมั่นคงทางอาหาร (Food Security) ณ องค์การบริหารส่วนตำบลกองแขก อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่
นายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า กรมป่าไม้ เร่งรัดดำเนินงานตามแนวนโยบายรัฐบาลและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ต้องการให้ราษฎรในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติได้ “อยู่อาศัยและทำกินถูกต้องตามกฎหมายอย่างยั่งยืน ฟื้นฟูคุณภาพชีวิต เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” โดยมีการมอบ “แผนการจัดการทรัพยากรที่ดินและป่าไม้ระดับพื้นที่” ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติตำบลกองแขก อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ เป็นพื้นที่นำร่อง ซึ่งผลสัมฤทธิ์การดำเนินงานจะช่วยให้ราษฎรผู้เข้าร่วมโครงการมั่นใจและมั่นคงในการดำรงชีวิต สามารถประกอบอาชีพในพื้นที่อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
สามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นได้ อีกทั้ง ภาครัฐยังสามารถแก้ไขปัญหาการอยู่อาศัยทำกินในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติได้อย่างยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติชั้นคุณภาพลุ่มน้ำชั้นที่ 1 และ 2
สำหรับการดำเนินการในวันนี้ กรมป่าไม้ ได้ร่วมมือกับกลุ่มองค์กรและนักธุรกิจภาคเอกชน ในการพัฒนาพื้นที่นำร่องเพื่อเป็นต้นแบบในการใช้ประโยชน์พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติที่ได้รับอนุญาตให้สามารถใช้ประโยชน์ได้ครบทุกมิติ รวมถึงการอนุรักษ์ดินและน้ำตามแนวพระราชดำริป่าสามอย่างประโยชน์สี่อย่าง การทำการเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมควบคู่กับการฟื้นฟูระบบนิเวศป่าต้นน้ำที่เสื่อมโทรม
องค์กรภาคเอกชน ภาคประชาสังคม องค์กรพัฒนาเอกชน ภาคธุรกิจด้านค้าปลีก และด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ จะช่วยสนับสนุนและส่งเสริมพัฒนาอาชีพและการตลาดให้แก่ราษฎรในโครงการ เพื่อเปิดโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับราษฎรได้มีอาชีพทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทำการเกษตรที่ยั่งยืน มีตลาดรองรับผลผลิต ได้ผลตอบแทนสูงกว่าการดำรงชีวิตแบบเดิมแบบครบวงจร ปรับเปลี่ยนการเกษตรเชิงเดี่ยวที่ทำลายสิ่งแวดล้อมมาสู่การทำเกษตรในรูปแบบการอนุรักษ์ดินและน้ำ ราษฎรในพื้นที่ได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีภายใต้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่สมดุล
การดำเนินงานภายใต้บันทึกความเข้าใจดังกล่าว สะท้อนแนวนโยบายรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนที่ดินของราษฎรให้เป็นอย่างเป็นรูปธรรมแล้ว ยังเป็นการประยุกต์แนวคิดโมเดลเศรษฐกิจใหม่หรือเศรษฐกิจสีเขียว BCG ของรัฐบาล สนับสนุนการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในการบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน และการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์ ทั้งนี้ ตนได้หารือกับพันธมิตรในการขยายผลในพื้นที่อื่น ๆ รวมถึงการถอดบทเรียนในพื้นที่ต้นแบบแห่งนี้ เพื่อพัฒนาต่อยอดสู่การดำเนินงานในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติพื้นที่อื่นต่อไป
นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ติดตามและดำเนินงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับทุกภาคส่วนและสำรวจพื้นที่อื่นที่มีความพร้อมในการขยายผลการดำเนินงาน โดยคาดว่าจะมีอีกหลายชุมชนที่มีความต้องการร่วมโครงการ ซึ่งกรมป่าไม้จะได้ประสานงานและเร่งรัดดำเนินงานเพื่อสร้างประโยชน์ให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่อื่น ๆ ต่อไป