ธปท. แจงเหตุผู้ที่เงินถูกตัดจากบัญชีผิดปกติบางกลุ่มยังไม่ได้เงินคืน
อาจเกิดภายหลัง 17 ต.ค. หรือคนละกรณีกัน ธนาคารจะตรวจสอบและคืนเงินให้ไม่เกิน 5
วันหลังทราบเรื่อง
แม้ก่อนหน้านี้ทาง ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)
และ สมาคมธนาคารไทย ได้ออกมาชี้แจงร่วมกันแล้วว่าธนาคารได้ดำเนินการคืนเงินเข้าบัญชีของลูกค้าบัตรเครดิตตัดถูกตัดจากบัญชีผิดปกติทั้งหมดแล้วตั้งแต่วันที่
23 ต.ค. ที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่ามีลูกค้าบัตรเดบิตธนาคารหลายแห่งออกมาระบุว่ายังไม่ได้รับเงินคืน
หรือได้ไม่ครบตามจำนวน
ทาง ธปท. ได้ชี้แจงว่า หากเป็นธุรกรรมผิดปกติที่มีลักษณะที่เข้าข่ายกรณีสุ่มข้อมูลบัตรและนำไปสวมรอยทำธุรกรรมผ่านร้านค้าออนไลน์ต่างประเทศ
ที่ไม่มีการใช้ OTP ในช่วงวันที่
1-17 ต.ค. ลูกค้าบัตรเดบิตต้องได้รับเงินคืนเข้าบัญชีแล้วก่อนวันที่ 23 ต.ค. ที่ผ่านมา
หากยังไม่ได้รับเงินคืน อาจเป็นกรณีที่เกิดภายหลัง 17 ต.ค.
ซึ่งธนาคารจะดำเนินการคืนเงินภายใน 5 วัน หลังจากวันที่ตรวจสอบพบ
เนื่องจากเป็นกรณีธุรกรรมที่ผิดปกติจำนวนมาก
จึงมีมาตรการแก้ไขเร่งด่วนเพื่อลดผลกระทบต่อประชาชน
ส่วนกรณีธุรกรรมผิดปกติรูปแบบอื่นๆ
ธนาคารจะเร่งประสานกับผู้ให้บริการเครือข่ายบัตรเดบิต และร้านค้าปลายทางโดยเร็ว นอกเหนือจากกรณีข้างต้น
ยังมีธุรกรรมทุจริตอีกหลายรูปแบบ ซึ่งประเภทของความเสียหายอาจต่างกรณีกัน
ธนาคารจึงจำเป็นต้องพิจารณารูปแบบและข้อเท็จจริงเพิ่มเติมก่อนดำเนินการคืนเงิน
ก่อนหน้านี้ทางธนาคารได้คืนเงินกลุ่มลูกค้าบัตรเดบิตและเครดิต
ที่ถูกสวมรอยทำธุรกรรมช่วงระหว่าง 1-17 ต.ค. ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แบ่งเป็น ลูกค้าบัตรเดบิตจำนวน
4,800
ใบ จำนวนเงิน 30 ล้านบาท โดยธนาคารได้ดำเนินการคืนเงินเข้าบัญชีของลูกค้าทั้งหมดเสร็จสิ้นแล้วตั้งแต่
23 ต.ค. ที่ผ่านมา ส่วนลูกค้าบัตรเครดิต 5,900 ใบ จำนวน 100 ล้านบาท
ได้ดำเนินการตั้งพักยอด และจะดำเนินการยกเลิกรายการ
โดยลูกค้าไม่ต้องชำระเงินตามยอดเรียกเก็บที่ผิดปกติและไม่มีการคิดดอกเบี้ย
ทั้งนี้ ธปท. ยืนยันการทำธุรกรรมออนไลน์ของธนาคารมีความปลอดภัยเป็นไปตามมาตรฐานสากล
โดยจากข้อมูลล่าสุด อัตราการทำธุรกรรมทุจริตผ่านบัตรชำระเงิน (เดบิต/เครดิต)
ของไทยอยู่ในเกณฑ์ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาค
และหากมีการทุจริตที่ลูกค้าไม่เกี่ยวข้อง ธนาคารจะเป็นผู้รับผิดชอบ โดยธนาคารจะร่วมมือกับ
ธปท. และผู้ให้บริการเครือข่ายบัตรในการยกระดับการป้องกัน ในเรื่องการเฝ้าระวัง
ตรวจสอบ ป้องกัน และดูแลรับผิดชอบความเสียหายอย่างต่อเนื่อง
หากมีข้อสงสัยขอให้ลูกค้าติดต่อผ่านช่องทางบริการต่างๆ
ของธนาคารผู้ออกบัตรเพื่อความรวดเร็ว
กรณีไม่ได้รับความสะดวกสามารถติดต่อศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธปท.
(โทร. 1213) เพื่อประสานส่งข้อมูลและหลักฐานให้กับธนาคารต่อไป