นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ อดีตเลขาธิการ สำนักงานกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เผยแพร่ความคิดเห็นผ่านบัญชีเฟสบุ๊คส่วนตัวว่า ในโลกยุคใหม่ เราคงปฎิเสธไม่ได้ว่า คนไทยใช้บริการ OTT ( Over-The-Top) หรือบริการเหนือโครงข่ายโทรคมนาคมในรูปแบบสังคมออนไลน์กันมาก ซึ่งน่าจะมากกว่าครึ่งหนึ่งของประชากรก็ว่าได้
OTT ที่คนไทยนิยมใช้กันมากที่สุด คงเป็น Facebook YouTube TikTok Line Instagram Twitter เป็นต้น
ด้วยเทคโนโลยีในการวิเคราะห์บิ๊กดาต้า สามารถเก็บข้อมูลจากผู้ใช้โซเชียลมีเดียต่างๆ ระบบอัลกอริธึ่ม จะแสดงข้อความข่าว รูปภาพ วิดีโอ ความเห็นหรือ comment รวมถึงโฆษณาต่างๆที่เราชอบ ที่เราคิด ที่เราเชื่อและทำให้เราเห็นเรื่อยๆ จนสิ่งนั้นกลายเป็นความจริงหรือเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในสายตาของเราในที่สุด
ผลกระทบด้านการเมือง Social Media OTT จะมีอิทธิพลต่อความเชื่อทางการเมืองเป็นอย่างมาก ข้อมูลข่าวสาร ทั้งที่ถูกสร้างขึ้นโดยผู้ใช้งานหรือโฆษณาต่างๆที่สอดแทรกความเห็นทางการเมือง จะถูกบริหารจัดการให้ User ที่มีความเห็นคล้ายๆกัน ได้เห็น ได้แชร์ลึกขึ้นและในวงที่แคบลง แต่เข้าถึงคนหมู่มากได้รวดเร็ว ส่งผลให้คนเกิดความเชื่อเหมือนกัน คุยกันเชิงลึกในโซเชียลมีเดีย และแพลตฟอร์มเหล่านั้นก็เลือกข้อมูลที่ตรงกับความเชื่อมาให้เห็นอยู่เรื่อยๆ
OTT เหล่านี้จะส่งอิทธิพลต่อความคิดของคนมากขึ้นและมากขึ้นทุกวัน จนกระทั่งอาจจะเป็นโหรพยากรณ์การเมืองที่แม่นยำที่สุดก็ว่าได้ ใครจะชนะการเลือกตั้งบ้างพรรคการเมืองจะชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์หรือไม่อย่างไร ใครจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี ใครจะรัฐมนตรี โดยไม่ต้องไปพึ่งพาหมอดูที่ไหนอีกต่อไปแล้ว
ผลกระทบด้านเศรษฐกิจ ประเทศไทยยังไม่มีสตาร์ตอัพ OTTของไทยที่เป็นระดับสากล ใช้งานเอง(จะมีก็เป็นเพียง OTT ใช้งานในประเทศบ้างเล็กน้อย ซึ่งยังไม่ใช้งานในระดับสากล) จึงส่งผลให้เราต้องพึ่งพา OTT ต่างประเทศแทบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น Shoppee Lazada Grab Line Man เป็นต้น ส่งผลให้เงินจำนวนมาก ต้องไหลออกนอกประเทศมาโดยตลอดและจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศทั้งในเรื่องการขาดดุลการค้าและศักยภาพความสามารถในการแข่งขันของประเทศกับต่างประเทศต่อไป
OTT เหล่านี้ นอกนั้นจะดึงรายได้จำนวนมากออกนอกประเทศแล้ว เท่าที่ผ่านมา ประเทศไทยยังไม่สามารถจัดเก็บภาษี OTT ต่างชาติได้เลย หากปล่อยไปเช่นนี้เรื่อยๆ เราก็อาจจะเสมือนตกเป็น”ทาสเศรษฐกิจหรืออาณานิคมด้านเศรษฐกิจของโลกยุคใหม่”ก็เป็นได้
“ผมยังมีความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าว่า คนไทยเป็นคนเก่ง มีความรู้ มีความสามารถ ไม่แพ้ใครในโลกใบนี้ แต่เรายังขาดการสนับสนุนจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาชน ยังไม่เพียงพอเท่านั้นเองในการที่เราทุกคน จะร่วมกันขับเคลื่อน ผลักดันให้” สตาร์ตอัพ OTT ของไทย” ให้เกิดขั้นในเร็ววัน”
ถึงเวลารึยัง ที่เราทุกคน จะเร่งสนับสนุนและผลักดันจัดตั้ง”กองทุนสตาร์ตอัพ OTT ของไทย”เพื่อสร้าง”สตาร์ตอัพ OTT ไทย”ให้เกิดขึ้นจริงโดยมอบให้คนรุ่นใหม่ นิสิตนักศึกษาและมหาวิทยาลัยทั่วประเทศเป็นต้น ในการที่จะระดมความคิด ระดมมันสมอง จัดทำแพลตฟอร์ม สตาร์ตอัพ OTTของไทยให้สำเร็จในเร็ววัน หรือเราจะปล่อยให้ OTTต่างชาติครอบงำประเทศเราเช่นนี้ตลอดไปหรือครับ ร่วมกันสงสารประเทศไทยอันเป็นที่รักของเราทุกคนเถอะครับ”