พาไปดูหลักสูตร “มินิ วปอ.” หลักสูตรสุดฮ็อตที่ทายาทนักการเมือง นักธุรกิจ แห่กันไปสมัคร ไม่เว้นแม้กระทั้ง “แพทองธาร” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย หลักสูตรนี้มีอะไรดี ทำไมคนถึงแย่งกันเข้าเรียน มาดูกัน
กองทัพไทย สถาบันวิชาการปัองกันประเทศ ได้เปิดรับสมัครบุคคลเข้าร่วมหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร สำหรับผู้บริหารแห่งอนาคต (วปอ.บอ.) หรือ “มินิ วปอ.” รุ่นที่ 1 โดยเน้นไปที่ผู้บริหารที่เป็นคนรุ่นใหม่ เพิ่มตามจากเดิมที่ วปอ. เองที่มีการเรียนการสอนวิทยาการด้านการป้องกันราชอาณาจักรให้แก่ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทั้ง ฝ่ายทหาร และฝ่ายพลเรือน เพื่อให้เกิดความสำนึกและตระหนักในความรับผิดชอบร่วมกันในอันที่จะต้องป้องกัน ต่อสู้ การจัด สรรพกำลัง การปกครอง และการรักษา ความสงบของประเทศ แต่ที่ผ่านมาหลักสูตรนี้มักถูกครหาว่าเป็นหลักสูตรที่ไว้สำหรับการสร้างคอนเนคชั่น หรือเครือข่าย ในข้าราชการระดับสูง นักการเมือง และนักธุรกิจรายใหญ่ของประเทศ แล้วหลักสูตร “มินิ วปอ.” มีอะไรต่างจากเดิม
โดยนายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการเปิดหลักสูตร "มินิ วปอ." ว่า เป็นหลักสูตรใหม่ที่เปิดขึ้นมาเป็นรอบแรก ใช้โครงสร้างเหมือน วปอ.ใหญ่ เป็นหลักสูตรที่ดี ซึ่งการเอาคนเก่งแต่ละด้าน ที่อาจมีความคิดที่ต่างกัน มาปรับจูน ก็จะทำให้เกิดพลังของประเทศ โดยกลุ่มวัยกลางคนน่าจะได้รับประโยชน์ที่สุด และตอนนี้อยู่ในขั้นตอนคัดเลือก โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เข้าเรียนหลักสูตรด้วยนั้น ตามโควต้าการเมือง และมีการสอบสัมภาษณ์
วัตถุประสงค์ของหลักสูตร
1. เพื่อมุ่งส่งเสริมให้ผู้บริหารรุ่นใหม่ ทั้งจากส่วนราชการภาคเอกชน และบุคคลทั่วไปมีจิตสำนึกตระหนักถึงภัยคุกคามในมิติต่าง ๆ ที่มีผลต่อความมั่นคงแห่งชาติ และเข้ามามีบทบาทหรือมีส่วนร่วม หรือ ให้การสนับสนุนภาครัฐที่เกี่ยวข้องในการบริหารจัดการปัญหาที่กระทบต่อความมั่นคงในขอบเขตที่พึงกระทำได้
2. เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรม เข้าใจถึงปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงแห่งชาติ แนวคิด รูปแบบภัยคุกคามมิติต่าง ๆทั้งในระดับโลก ภูมิภาค และประเทศไทย สถานการณ์ความมั่นคงระหว่างประเทศ และภายในประเทศ สามารถวิเคราะห์ใช้เครื่องมือในการตรวจสอบ และบริหารจัดการความมั่นคงแห่งชาติได้อย่างเหมาะสม
3. เพื่อเสริมสร้างผู้บริหารรุ่นใหม่ให้มีสมรรณนะและความสามารถในการคิด วิเคราะห์ ประเด็นปัญหาวิกฤติภายในประเทศหรือระหว่างประเทศที่มีความสำคัญ อันส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของไทย วางแผน เสนอแนวทางบริหารจัดการปัญหาที่กระทบต่อความมั่นคงแห่งชาติได้อย่างเหมาะสมด้วยการมีส่วนร่วมกับชุมชนถือเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์เพื่อความมั่นคงแห่งชาติให้เกิดผลในเชิงปฏิบัติ และสร้างชุมชน สังคมให้เข้มแข็ง
4. เพื่อส่งเสริมและพัฒนาความเป็นผู้บริหารรุ่นใหม่ให้เป็นผู้นำ ผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อชุมชน สังคม ประเทศชาติและเป็นนักปฏิบัติการที่มีวิสัยทัศน์ด้านความมั่นคง มีคุณธรรม จริยธรรม มีจิตสำนึกเพื่อผลประโยชน์ของชาติและประชาชนส่วนรวมเป็นสำคัญ มากกว่าประโยชน์ส่วนตน
5 เพื่อเสิมสร้างเครือข่ายผู้บริหารรุ่นใหม่ระหว่างหน่วยงานทุกภาคส่วนทั้งภาคส่วนทหาร ตำรวจ ข้าราชการพลเรือน ส่วนราชการอิสระนักธุรกิจภาคเอกชน และบุคคลทั่วไป เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติงานร่วมกันอย่างเป็นเอกภาพ มีความสามัคคีมีความร่วมมือแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นและมีวิสัยทัศน์ร่วมกัน เปิดโอกาสในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ประสบการณ์และนำความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ในการประสานงานระหว่างกัน
เรียนแล้วได้อะไร
1. ความรู้ สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับความมั่นคงแบบองค์รวม
2. แลกเปลี่ยน เรียนรู้ กับวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ชั้นนำของประเทศ
3. พัฒนาความเป็นผู้นำ ผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อชุมชน สังคม ประเทศชาติ และเป็นนักปฏิบัติการที่มีวิสัยทัศน์ด้านความมั่นคง มีคุณธรรม จริยธรรม มีจิตสำนึกเพื่อผลประโยชน์ของชาติ
4. สนับสนุน การแก้ไขปัญหาสังคม ให้การช่วยเหลือสังคม ลดความเหลื่อมล้ำในมิติต่าง ๆ
5. มีจิตสำนึก ตระหนักถึงภัยคุกคามในมิติต่าง เ มีบทบาทหรือมีส่วนร่วม หรือให้การสนับสนุนภาครัฐที่เกี่ยวข้องในการบริหารจัดการปัญหาที่กระทบต่อความมั่นคงในขอบเขตที่พึงกระทำได้
6. เครือข่ายระหว่างหน่วยงานทุกภาคส่วนเพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติงานร่วมกันอย่างเป็นเอกภาพ
7. สร้างความมั่นคงองค์กร ชุมชน สังคม และประเทศชาติ
คุณสมบัติผู้สมัคร
1. อายุระหว่าง 35 - 42 ปี
2. สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี หรือเทียบเท่าขึ้นไป
3. ผู้เข้ารับการฝึกอบรมควรเป็นผู้ปฏิบัติงานในสายงานหลักของหน่วยงานและจะเป็นกำลังสำคัญของหน่วยงานในอนาคต โดยมีตำแหน่งข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้
3.1 ข้าราชการทหารชั้นยศ พ.ท.-พ.อ.(พ.) และตำรวจ ชั้นยศ พ.ต.ท.-พ.อ.(พ.) หรือเทียบเท่า
3.2 ข้าราชการทหารต้องสำเร็จการศึกษาหลักสูตรเสนาธิการจากโรงเรียนเสนาธิการเหล่าทัพ ภายในประเทศหรือต่างประเทศ หรือ หลักสูตรเสนาธิการร่วม
3.3 นายตำรวจสัญญาบัตรต้องสำเร็จการศึกษาในหลักสูตรผู้กำกับการ
3.4 ข้าราชการพลเรือน ตำแหน่งประเภทอำนวยการระดับต้น ประเภทวิชาการระดับชำนาญการพิเศษประเภททั่วไประดับอาวุโส (เทียบเท่าระดับ 8 เดิม)
3.5 พนักงานองค์การของรัฐ/ รัฐวิสาหกิจ/ องค์การมหาชน ตำแหน่งเทียบเท่าข้อ 3.4
3.6 ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองไม่ว่ามาจากการเลือกตั้งหรือแต่งตั้ง (ในวันเปิดรับสมัคร)
3.7 ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองท้องถิ่นในประเทศไทย (ในวันเปิดรับสมัคร)
3.8 นักธุรกิจซึ่งเป็นเป็นผู้บริหารรุ่นใหม่ของหน่วยงาน ดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่ารองกรรมการผู้จัดการ หรือผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ หรือผู้จัดการโรงงาน หรือ ผู้จัดการภูมิภาค หรือเทียบเท่า
3.9 บุคคลทั่วไป คือบุคคลที่มีอิทธิพลต่อความคิดและการตัดสินใจของกลุ่มเป้าหมาย (Influencer) มีชื่อเสียงในด้านความรู้ ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และเผยแพร่เรื่องราวต่าง ๆ บนโซเชียลมีเดีย มีผู้ติดตามและเป็นที่รู้จักจำนวนมากโดยเฉพาะกลุ่ม Generations Y Z AIpha สร้างสรรค์คอนเทนต์ที่ดีต่อสังคม อาทิ นักแสดงใน
วงการบันเทิง นักเขียนในวงการหนังสือ นักจัดรายการ โปรแกรมเมอร์ในวงการ IT ที่ปรึกษาในวิชาชีพต่างฯ เช่น ที่ปรึกษากฎหมายแรงงาน ฯลฯ โดยมีประสบการณ์ หรือ ทำงานเกี่ยวข้องกับความมั่นคงระดับชาติอย่างน้อย 3 ปี
4. เป็นผู้ที่ทางราชการไว้วางใจ ให้เข้าถึงความลับของทางราชการขั้น "ลับมาก" (เฉพาะข้าราชการทหาร ตำรวจข้าราชการพลเรือน)
5. ต้องไม่เป็นผู้กระทำผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงหรืออยู่ในระหว่างการดำเนินการคดีอาญาของศาล แม้คดียังไม่ถึงที่สิ้นสุด เว้นแต่คดีที่มีความผิดลทุโทษหรือคดีที่มีการปรับสถานเดียว
6. เป็นผู้ที่มีประสบการณ์หรือปฏิบัติงานเกี่ยวข้องกับความมั่นคงแห่งชาติ มีจิตสาธารณะสนับสนุนกิจกรรมเพื่อสาธารณประโยชน์ยินดีร่วมมือกับภาคส่วนต่าง ๆ ในการบริหารจัดการความมั่นคงระดับชาติสนับสนุนการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ
ทั้งนี้มีการประกาศรายชื่อผู้เข้าร่วมสัมภาษณ์หลักสูตร วปอ.บอ. รุ่นที่ 1 (ชุดที่1) รวมแล้วเกือบ 500 รายชื่อ จากจำนวนผู้สามารถเข้าเรียนได้ 100 คน โดยมีรายชื่อผู้ที่น่าสนใจ ได้แก่
-น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย
-นางรัดเกล้า สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลูกสาวนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี
-นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์
-นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตโฆษกประจำตัว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ
-นายอาทิตย์ หวังศุภกิจโกศล (หลานชายกำนันป้อ)
-พ.ต.ต.สงกรานต์ เตชะณรงค์ ทายาทโบนันซ่าเขาใหญ่
-นายพิรุณ ชินวัตร (หลานชายนายทักษิณ)
-นายพสุ ลิปตพัลลภ (นักธุรกิจโรงแรมในภูเก็ต และเป็นลูกชายนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ)
-นายรวิศ สอดส่อง ลูกชายของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง
-นายจิตภัทร พุ่มหิรัญ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด
-นายภัทรพงศ์ ภัทรประสิทธ์ ตระกูลดังเมืองพิจิตร หลานชาย นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง