พันตำรวจโท ดนัย ชุ่มอภัย รองผู้กำกับการสายตรวจ กองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ กล่าวว่า กรณีคนร้ายใช้อาวุธปืนกราดยิงหรือมีลักษณะคล้ายคลึงกัน แนวโน้มสถานการณ์วิกฤตในอนาคต มีโอกาสเกิด “มากขึ้น”และถี่ขึ้น” เนื่องจากพฤติกรรมเลียนแบบ สภาพสังคม การเลี้ยงดูที่เปลี่ยนไป สภาพเศรษกิจที่ตกต่ำ อาการป่วยทางจิต และการใช้สารเสพติด ทำให้เกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญ ในเหตุการณ์ที่ผ่านมา การบริหารเหตุวิกฤต กรณี คนร้ายใช้อาวุธปืนกราดยิงในสถานศึกษา ในห้าง หรือในอนาคต อาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันในสถานศึกษา ทางสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ติดต่อประสานข้อความร่วมมือในการให้ความรู้และฝึกการบริหารเหตุวิกฤต กรณีคนร้ายใช้อาวุธปืนกราดยิง (Active Shooter) จึงได้นำมาสู่การอบรมแผนฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุ Active Shooter ให้กับครูผู้ดูแลเด็ก ศูนย์พัฒนาเด็กปฐมวัย เจ้าหน้าที่บุคลากรในสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อให้เกิดทักษะในการป้องกัน ช่วยเหลือเด็ก เมื่อเผชิญเหตุเบื้องต้นจะต้องทำอย่างไร การรับรู้สถานการณ์ บอกต่อ/แจ้งเตือน ควบคุมความตื่นตระหนก จนนำมาซึ่งการฝึกทักษะ หนี /ซ่อน/ (สู้+แจ้ง) และทราบถึงกระบวนการในการป้องกันและการเผชิญเหตุในพื้นที่ เพื่อให้ผู้เผชิญเหตุรอดปลอดภัยจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
หนี
- 1. ไม่ว่าคุณจะเดินทางไปที่ไหน ให้มองหาทางออกที่มากกว่าหนึ่งทางเสมอ
- 2. ให้ทาการอพยพอย่างรวดเร็วและระมัดระวังไปในทิศทางตรงกันข้ามกับคนร้าย
- 3. อย่าตื่นตระหนก ให้มีสติอยู่เสมอ
- 4. ให้สังเกตและจดจำ หน้าต่างทุกบานและทางออกฉุกเฉิน
- 5. ทิ้งสัมภาระไว้ ไม่ต้องนาติดตัวมา
- 6. ยกมือเปล่าๆ ให้อยู่ในตำแหน่งที่เห็นได้อย่างชัดเจน เพื่อแสดงถึงการไม่ได้ถืออาวุธ
- 7. ปฏิบัติตามคาแนะนาทุกขั้นตอนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
- 8. อย่าหยุด อพยพหลบหนี จนกว่าคุณจะมั่นใจว่าอยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัย
ซ่อน
- 1. ถ้าเส้นทางอพยพไม่ปลอดภัย ให้ค้นหาที่ซ่อนที่ดีที่สุดที่จะทำได้
- 2. พิจารณาถึงหลักการเป็นที่ “กำบัง” หรือ “ซ่อนพราง”
- 3. ปิดล๊อคประตู และหาสิ่งของมาขวางประตูเพื่อความแข็งแรงมั่นคง
- 4. อยู่ให้ห่างจากประตูมากที่สุดเท่าที่ทำได้
- 5. ปิดเสียงโทรศัพท์ (รวมถึงสิ่งที่จะก่อให้เกิดเสียงทุกชนิด)
- 6. เตรียมแผนสำหรับการตั้งรับ ในกรณีคนร้ายบุกเข้ามา
สู้
- 1. การต่อสู้ เป็นหนทางสุดท้าย
- 2. ให้ใช้สิ่งของที่มีอยู่ใกล้ตัวดัดแปลง เป็นอาวุธแสวงเครื่อง
- 3. ใช้ Teamwork สร้างความประหลาดใจ ในการร่วมมือซุ่มโจมตี สามารถช่วยหยุดยั้งคนร้ายได้
- 4. จงคิดไว้ว่า คุณสู้เพื่อการเอาตัวรอด ไม่ต้องคำนึงถึงความยุติธรรมในการต่อสู้
ทางสถาบันฯจึงได้ตระหนักถึงความสำคัญและความปลอดภัยของเด็กนักเรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษาจึงได้เกิดเป็นโครงการ “การฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุ Active Shooter หนี ซ่อน (สู้)” ให้กับครู ผู้ดูแลเด็กและบุคลากรทางการศึกษาในสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยลัยมหิดล เพื่อที่จะได้เป็นต้นแบบให้กับหน่วยงานทางการศึกษา บริษัท ฯลฯ ที่สนใจสามารถนำไปเป็นส่วนหนึ่งในการปฏิบัติเพื่อความปลอดภัยของเด็กนักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ ผู้ดูแลเด็กตลอดจนผู้ปกครองและผู้มารับบริการ
รองศาสตราจารย์นายแพทย์อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ ผู้อำนวยการ สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล หัวหน้าศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ได้กล่าวว่า ผู้ดูแลเด็กทุกประเภท เวลาวางแผนการจัดการ โรงเรียน หรือ ศูนย์พัฒนาเด็ก ต่างๆ ต้องให้ความสำคัญกับการวางแผนเผชิญเหตุ และการป้องกันเหตุร้ายจากบุคคลด้วย รวมทั้งการวางแผน กิจกรรม นอกสถานที่ ต้องมีแผนความเสี่ยง ประกอบแผนการเรียนรู้ด้วย อีกเรื่อง ที่ผู้ดูแลเด็กต้องช่วยกันออกแบบ คือ เรื่องการสื่อสารกับเด็ก เมื่อมีเหตุเกิดขึ้นในสังคม ซึ่งความสามารถในการรับรู้ของเด็กจะแตกต่างกันไปตามพัฒนาการ ตามอายุของเด็ก การฝึกทักษะป้องกันภัยให้กับเด็ก เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน แต่ต้องออกแบบกิจกรรม และวิธีการสื่อสารอย่างเหมาะสม ให้เด็กได้รับรู้อย่างสนุกสนาม ไม่เกิดภาพจำที่หวาดกลัว แต่เป็นภาพจำที่ใช้เพื่อการควบคุมสติและควบคุมตนเองได้ เมื่อประสบภัย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม รศ.นพ. อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ ผู้อำนวยการสถาบันฯ โทร 0816828772 นายนฤชิต ตันประยูร นักประชาสัมพันธ์ โทร 089-1239182