X
ครม. ถอนป่าสงวนฯ ระนอง 2 แห่ง ยุติปัญหายืดเยื้อ 30 ปี ใช้ประโยชน์ในที่ป่าชายเลน

ครม. ถอนป่าสงวนฯ ระนอง 2 แห่ง ยุติปัญหายืดเยื้อ 30 ปี ใช้ประโยชน์ในที่ป่าชายเลน

15 มี.ค. 2566
1370 views
ขนาดตัวอักษร

15 มี..66 - คนระนอง เฮ!! กระทรวง ทส.เสนอ ครม.เห็นชอบเพิกถอนป่าสงวนแห่งชาติ ป่าคลองหัวเขียวและป่าคลองเกาะสุย หลังยืดเยื้อกว่า 30 ปี ด้าน “วราวุธ” ย้ำสร้างความเข้าใจให้ปชชร่วมกันดูแลพื้นที่ป่าชายเลน


นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า จากปัญหาการขอใช้ประโยชน์ที่ดินป่าชายเลนชุมชนเมืองระนองที่ยืดเยื้อมากว่า 30 ปี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ได้มีความมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้ดีขึ้น ตั้งแต่ที่ตนได้มีโอกาสเข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในห้วงปี .. 2563 มีความมุ่งมั่นตั้งใจ ต้องการลดความเหลื่อมล้ำและแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยของประชาชน โดยการจัดที่ดินให้แก่ผู้ยากไร้ที่ไม่มีที่ดินอยู่อาศัยและทำกิน มุ่งให้สิทธิทำกินเพื่อสร้างความมั่นคงในชีวิต โดยเป้าหมายทั้งหมดนี้เพื่อให้ประชาชนมีที่อยู่และทำกินอย่างถูกต้อง เพื่อชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี หาเลี้ยงชีพได้อย่างถูกกฎหมาย 


โดยก่อนหน้านี้ ได้มีโอกาสลงพื้นที่เพื่อรับฟังปัญหาจากพี่น้องประชาชน ซึ่งตนก็ไม่ได้นิ่งนอนใจพร้อมเดินหน้าศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหามาโดยตลอด จากรายงานข้อมูลของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ทราบว่า พื้นที่ชุมชนเมืองระนอง อำเภอเมือง จังหวัดระนอง มีประชาชนเข้าอยู่อาศัยโดยไม่มีเอกสารสิทธิที่ดิน ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตป่าชายเลนตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2530 วันที่ 22 สิงหาคม 2543 และวันที่ 17 ตุลาคม 2543 (ห้ามมิให้อนุญาตการใช้ประโยชน์พื้นที่ป่าชายเลนทุกกรณีทั้งภาครัฐและเอกชนและอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าคลองหัวเขียวและป่าคลองเกาะสุย โดยพื้นที่บางส่วนกรมป่าไม้เคยอนุญาตให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดระนอง และเทศบาลเมืองระนอง เพื่อจัดให้ราษฎรเข้าอยู่อาศัยและจัดให้เป็นย่านการค้าและอุตสาหกรรม มีเนื้อที่รวม 484 ไร่ ซึ่งได้สิ้นสุดการอนุญาตแล้ว และปัจจุบันพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในความรับผิดชอบของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง 


นอกจากนี้ กระทรวงฯ ได้แต่งตั้งคณะทำงานศึกษาการใช้ประโยชน์ที่ดินป่าชายเลนชุมชนเมือง จังหวัดระนองขึ้นพร้อมกับมอบหมายให้นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เร่งรัด ติดตามประสานการดำเนินงานทุกขั้นตอน และกำชับให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) หารือกับกรมธนารักษ์ กรมที่ดิน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการเพิกถอนป่าสงวนแห่งชาติ (บางส่วนและส่งมอบให้กรมธนารักษ์รับไปดำเนินการบริหารจัดการพื้นที่ชุมชนเมืองระนองตามกฎหมาย อีกทั้งประสานเตรียมความพร้อมด้านข้อมูลของพื้นที่ดังกล่าว เพื่อนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) เสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาในประเด็นการเพิกถอนและประกาศพื้นที่ราชพัสดุของกรมธนารักษ์ ในการเร่งดำเนินการให้เกิดผลสัมฤทธิ์ แก้ไขปัญหาและปลดล็อกกฎหมายที่เกี่ยวข้อง


จากนั้น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เดินหน้าผลักดันกฎกระทรวงเพิกถอนป่าสงวนแห่งชาติ ป่าคลองหัวเขียวและป่าคลองเกาะสุย บางส่วน ในท้องที่ตำบลเขานิเวศน์ และตำบลบางริ้น อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง .. .... เข้าในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาเห็นชอบ กระทั่งในวันนี้ (14 มีนาคม 2566) คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่ กระทรวง ทสเสนอ พร้อมทั้งให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้วดำเนินการต่อไป และนับเป็นนิมิตหมายอันดีที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ประกาศกฎกระทรวงเพิกถอนป่าสงวนแห่งชาติ ป่าคลองหัวเขียวและป่าคลองเกาะสุย (บางส่วนตามที่คณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณา 

ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนได้เข้าไปใช้ประโยชน์ในที่ดินป่าชายเลนชุมชนเมืองระนองได้อย่างถูกต้อง จึงสั่งการให้กรมทชดำเนินการประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจแก่ประชาชน ให้สามารถอาศัยอยู่ในพื้นที่ของรัฐได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย รวมถึงสามารถพัฒนาระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน และในส่วนของภาคอุตสาหกรรมที่ประกอบธุรกิจในพื้นที่ สามารถดำเนินการเข้าไปใช้ประโยชน์ตามที่รัฐอนุญาตต่อไป


ด้านนายอภิชัย เอกวนากุล รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบและดูแลด้านการบริหารจัดการพื้นที่ป่าชายเลนเมืองระนอง รู้สึกยินดีและขอขอบคุณทางรัฐบาลและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่มุ่งเน้นและให้ความสำคัญในการร่วมกันแก้ไขปัญหาการใช้ประโยชน์ที่ดินป่าชายเลนชุมชนเมืองระนองที่ยืดเยื้อกันมาอย่างยาวนานจนประสบความสำเร็จ สานฝันให้พี่น้องชุมชนเมืองระนองได้มีที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกิน 


โดยหลังจากนี้จะส่งมอบพื้นที่ที่เพิกถอนให้กรมธนารักษ์รับไปดำเนินการตามกฎหมายให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่ได้ให้ความสำคัญกับการจัดสรรที่ดินทำกินให้กับประชาชน สร้างความเท่าเทียม พัฒนาส่งเสริมอาชีพและการใช้ประโยชน์จากที่ดินทำกินให้ได้มากที่สุด เพื่อก่อให้เกิดความคุ้มค่า สร้างรายได้ และพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดระนอง เพื่อให้พี่น้องประชาชนมีความมั่นคงปลอดภัยในชีวิต มีที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย อีกทั้งมีอาชีพที่รัฐส่งเสริมและสนับสนุนในปัจจัยด้านต่างๆ สร้างประโยชน์และรายได้แก่ชุมชนตลอดจนพี่น้องประชาชนทั้งทางตรงและทางอ้อม เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ได้มีโอกาสใช้ประโยชน์อย่างสูงสุดจากพื้นที่ 

พร้อมช่วยกันดูแลฟื้นฟูสภาพป่าชายเลนของจังหวัดระนองและบริเวณใกล้เคียง ผ่านกระบวนการปลูกและบำรุงพื้นที่ป่าชายเลนที่เสื่อมโทรมหลังจากใช้ประโยชน์ให้กลับคืนสู่สภาพดังเดิม ผสานกับการมีส่วนร่วมจากหน่วยงานราชการองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สัมฤทธิ์ผลทุกมิติ และบรรลุตามเป้าหมายต่อไป 

ด้านนายคงกฤษ ฉัตรมาลีรัตน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดระนอง กล่าวว่า ตนในนามตัวแทนพี่น้องชาวระนองต้องขอขอบคุณรัฐบาลพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตลอดจนนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมนายโสภณ ทองดี อดีตอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และนายอภิชัย เอกวนากุล รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ที่ได้ร่วมกันผลักดันและนำเรื่องการขอใช้ประโยชน์ที่ดินป่าชายเลนชุมชนเมืองระนอง ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองหัวเขียว - ป่าคลองเกาะสุยเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2566  พร้อม ครม.ให้ความเห็นชอบกรณีดังกล่าวแล้วนั้น   ทั้งนี้ พี่น้องชาวระนองอยากให้พื้นที่นี้เป็น “ระนองโมเดล” ในการแก้ไขปัญหาการใช้ประโยชน์ที่ดินป่าชายเลนแปลงอื่น  ของจังหวัดระนอง ซึ่งปัจจุบันไม่มีสภาพป่าแล้ว หากได้รับการผลักดันและแก้ไขปัญหาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเป็นประโยชน์กับพี่น้องชาวระนองและประเทศไทยในการพัฒนาเศรษฐกิจและรองรับ SEC ที่จะเกิดขึ้นต่อไป


อ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ..คิดอย่างไรกับเรื่องนี้ เขียนเลย
Terms of Service © 2025 MCOT.net All rights reserved นโยบายข้อมูลส่วนบุคคล นโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเว็บไซต์ นโยบายเว็บไซต์ของ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)