X
พะยูนฝูงใหญ่โชว์ตัวฉ่ำ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา จังหวัดสตูล

พะยูนฝูงใหญ่โชว์ตัวฉ่ำ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา จังหวัดสตูล

7 ก.ค. 2568
80 views
ขนาดตัวอักษร

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา ร่วมสำรวจพบพะยูนฝูงใหญ่และสัตว์ทะเลหายาก ชี้ทะเลสตูลยังคงสมบูรณ์


อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา จังหวัดสตูล เปิดเผยผลการสำรวจสัตว์ทะเลหายากระหว่างวันที่ 28-30 มิถุนายน 2568 ณ บริเวณเกาะลิดีเล็กและเกาะลิดีใหญ่ อำเภอละงู จังหวัดสตูล โดยความร่วมมือกับศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนล่าง (ทช.) พบการรวมตัวของพะยูนฝูงใหญ่ถึง 4 ตัว โดยเป็นคู่แม่ลูก 1 คู่ นอกจากนี้ยังพบโลมาหลังโหนก 6 ตัว (เป็นคู่แม่ลูก 1 คู่) และเต่าตนุอีก 6 ตัว ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีที่ชี้ให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศทางทะเลในพื้นที่


นายสุพล คำเสนาะ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา เปิดเผยว่า การสำรวจครั้งนี้ได้ใช้อากาศยานไร้คนขับ (โดรน) ในการบินสำรวจ ซึ่งช่วยให้การเก็บข้อมูลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และพบว่าพื้นที่รอบเกาะลิดียังคงมีแปลงหญ้าทะเลที่สมบูรณ์ ซึ่งเป็นแหล่งอาหารสำคัญของพะยูนและสัตว์ทะเลหายากชนิดอื่น ๆ


"การพบพะยูนจำนวนมากในครั้งนี้ ถือเป็นเครื่องยืนยันว่าพื้นที่บริเวณเกาะลิดีเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยและแหล่งอาหารที่สำคัญของสัตว์ทะเลหายาก อุทยานฯ มีแผนที่จะดำเนินการวางมาตรการประชาสัมพันธ์ให้ชุมชนและชาวประมงพื้นบ้านในพื้นที่ได้รับทราบเกี่ยวกับเขตเฝ้าระวังแหล่งอาศัยของพะยูน เพื่อให้เพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือและหลีกเลี่ยงการรบกวนสัตว์ทะเล"

นายสุพล กล่าว


นอกจากนี้ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตราจะเพิ่มความถี่ในการลาดตระเวนและเฝ้าระวังพื้นที่ พร้อมวางแผนการสำรวจติดตามประชากรพะยูนบริเวณเกาะลิดีอย่างต่อเนื่อง เพื่อเก็บข้อมูลเกี่ยวกับการแพร่กระจายและความถี่ในการปรากฏตัวของพะยูน ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการบริหารจัดการและอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลในระยะยาวต่อไป.


อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา-Mu ko phetra national park


พะยูน: สัตว์ทะเลที่กำลังถูกคุกคามและการอนุรักษ์เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน

พะยูน (Dugong dugon) หรือที่คนไทยรู้จักกันในชื่อ "หมูน้ำ" เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเลที่มีเอกลักษณ์และมีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศทางทะเล พวกมันเป็นสัตว์กินพืชเพียงชนิดเดียวในอันดับ Sirenia ที่อาศัยอยู่ในทะเล และมีความใกล้ชิดกับมานาที พะยูนมีรูปร่างที่อ้วนท้วม ผิวหนังเรียบเนียนสีเทาอมน้ำตาล มีหางแบนคล้ายใบพาย และมีจมูกที่โค้งงอลงด้านล่างซึ่งปรับให้เหมาะกับการกินหญ้าทะเล พะยูนสามารถมีชีวิตอยู่ได้นานถึง 70 ปี และใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเล็มหญ้าทะเล ซึ่งเป็นแหล่งอาหารหลักของพวกมัน

ประวัติและถิ่นที่อยู่ของพะยูน

พะยูนมีประวัติศาสตร์อันยาวนานบนโลก โดยมีบรรพบุรุษร่วมกับช้างในอดีตกาล พวกมันเป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ในเขตร้อนและกึ่งเขตร้อน พบได้ในมหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแปซิฟิก ครอบคลุมกว่า 40 ประเทศและดินแดน ตั้งแต่ชายฝั่งตะวันออกของแอฟริกาไปจนถึงหมู่เกาะโซโลมอน ในประเทศไทย พะยูนมักพบได้ในทะเลอันดามัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจังหวัดตรัง กระบี่ และสตูล ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีแหล่งหญ้าทะเลอุดมสมบูรณ์

พะยูนมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับระบบนิเวศหญ้าทะเล ซึ่งเป็นแหล่งอาหารและที่อยู่อาศัยที่สำคัญ หญ้าทะเลช่วยรักษาสมดุลของระบบนิเวศทางทะเล ลดการกัดเซาะชายฝั่ง และเป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำวัยอ่อน พฤติกรรมการกินหญ้าทะเลของพะยูนช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของหญ้าทะเล ทำให้แหล่งอาหารของสัตว์ทะเลอื่นๆ อุดมสมบูรณ์ขึ้น

สถานะการอนุรักษ์และความท้าทาย

ในอดีต พะยูนเคยถูกล่าเพื่อเอาเนื้อ ไขมัน และกระดูก แต่ในปัจจุบัน การคุกคามหลักต่อพะยูนมาจากการทำกิจกรรมของมนุษย์ การเพิ่มขึ้นของประชากรมนุษย์และการพัฒนาชายฝั่งอย่างรวดเร็วส่งผลให้แหล่งหญ้าทะเลถูกทำลายและเสื่อมโทรมลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นภัยคุกคามโดยตรงต่อแหล่งอาหารและที่อยู่อาศัยของพะยูน

ภัยคุกคามที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่:

  • การติดเครื่องมือประมง: พะยูนมักติดอวนลาก อวนลอย และเครื่องมือประมงอื่นๆ โดยไม่ตั้งใจ ซึ่งนำไปสู่การบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

  • มลพิษทางทะเล: ขยะพลาสติก สารเคมี และน้ำเสียที่ถูกปล่อยลงสู่ทะเลส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพของพะยูนและแหล่งหญ้าทะเล

  • การพัฒนาชายฝั่ง: การสร้างท่าเรือ รีสอร์ต และกิจกรรมอื่นๆ ที่เปลี่ยนแปลงสภาพชายฝั่ง ทำให้แหล่งหญ้าทะเลถูกทำลาย

  • การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ: การเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิน้ำทะเลและการเกิดพายุที่รุนแรงขึ้นส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของหญ้าทะเล

ด้วยเหตุผลเหล่านี้ พะยูนจึงถูกจัดอยู่ในบัญชีแดงของ IUCN (The International Union for Conservation of Nature) ว่าเป็น "ใกล้ถูกคุกคาม" (Vulnerable) ในระดับโลก และเป็น "ใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่ง" (Critically Endangered) ในบางภูมิภาค เช่น เอเชียตะวันออก

ความพยายามในการอนุรักษ์

ทั่วโลกมีความพยายามอย่างต่อเนื่องในการอนุรักษ์พะยูนและแหล่งที่อยู่อาศัยของพวกมัน หลายประเทศได้ออกกฎหมายคุ้มครองพะยูนและกำหนดให้เป็นสัตว์สงวน นอกจากนี้ ยังมีการดำเนินโครงการอนุรักษ์ต่างๆ เช่น:

  • การวิจัยและติดตาม: การศึกษาพฤติกรรม ถิ่นที่อยู่ และประชากรของพะยูน เพื่อทำความเข้าใจและวางแผนการอนุรักษ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • การฟื้นฟูแหล่งหญ้าทะเล: โครงการปลูกและฟื้นฟูหญ้าทะเล ซึ่งเป็นแหล่งอาหารหลักของพะยูน

  • การลดภัยคุกคามจากกิจกรรมประมง: การส่งเสริมการทำประมงที่ยั่งยืน การใช้อุปกรณ์ประมงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการสร้างความตระหนักรู้ให้กับชาวประมง

  • การจัดการมลพิษ: การรณรงค์ลดขยะทะเล การควบคุมการปล่อยน้ำเสีย และการบำบัดมลพิษก่อนปล่อยลงสู่ทะเล

  • การสร้างความตระหนักรู้: การให้ความรู้แก่สาธารณชนเกี่ยวกับความสำคัญของพะยูนและระบบนิเวศทางทะเล เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์

ในประเทศไทย มีหน่วยงานและองค์กรต่างๆ ที่ทำงานอย่างแข็งขันเพื่ออนุรักษ์พะยูน เช่น กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) มูลนิธิอันดามัน และชุมชนท้องถิ่นที่อาศัยอยู่ใกล้แหล่งพะยูน การมีส่วนร่วมของชุมชนถือเป็นหัวใจสำคัญในการอนุรักษ์ เพราะพวกเขามีความเข้าใจในสภาพพื้นที่และสามารถเป็นกำลังหลักในการดูแลรักษาทรัพยากรได้อย่างยั่งยืน

อนาคตของพะยูน

การอนุรักษ์พะยูนเป็นเรื่องที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรพัฒนาเอกชน และประชาชนทั่วไป การปกป้องพะยูนไม่ได้เป็นเพียงการรักษาสายพันธุ์สัตว์ชนิดหนึ่งไว้เท่านั้น แต่ยังเป็นการรักษาสมดุลของระบบนิเวศทางทะเลที่สำคัญ ซึ่งส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของมนุษย์ทุกคน หากเราไม่ลงมือทำในวันนี้ พะยูนอาจกลายเป็นเพียงตำนานในอนาคต

คุณสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์พะยูนได้ง่ายๆ ด้วยการลดการใช้พลาสติก การไม่ทิ้งขยะลงทะเล การเลือกบริโภคอาหารทะเลที่มาจากการทำประมงที่ยั่งยืน และการสนับสนุนโครงการอนุรักษ์ต่างๆ มาร่วมกันสร้างอนาคตที่พะยูนและสิ่งมีชีวิตในทะเลสามารถอยู่ร่วมกับมนุษย์ได้อย่างยั่งยืนกันเถอะ!


Terms of Service © 2025 MCOT.net All rights reserved นโยบายข้อมูลส่วนบุคคล นโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเว็บไซต์ นโยบายเว็บไซต์ของ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)