ก่อนอื่นต้องบอกว่า เรื่องที่จะเล่าเป็นเรื่องความเเชื่อส่วนบุคคล แต่มีที่มาของข้อมูลที่ประจักษ์มีหลักฐานชัดเจนไม่ได้นั่งเทียนเขียนตามใคร เรื่องที่ Bck Bone สายมู จะเอามาเล่าตอนนี้ คือ สุดยอด Soft Power ของประเทศไทยกระแสหนึ่ง ที่แม้อาจจะไม่ได้อยู่ใน Soft Power ที่ส่งเสริม (เพราะสามารถส่งเสริมตัวเองได้) แต่ดังไกลถึงทั่วโลก ก็คือ ความเชื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์แบบไทย ขอย้ำ แบบไทย เพราะที่อื่นก็มีแต่ไม่ได้มี แบบนี้
พระพรหม ราชประสงค์ พระพม เอราวัณ พระพรหม ที่ คนต่างประเทศ โดยเฉพาะ คนจีน ต้องมากราบไหว้สักการะ เพราะเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ ประจักษ์ในสายตาของคนหลายชาติหลายภาษา ไม่เฉพาะคนไทย ว่ากันว่าของไหว้และของแก้บนที่เกิดขึ้นในศาลนี้ ร้อยละ 99 ในทุกวัน เป็นของชาวต่างชาติ มีของคนไทยบ้างแต่น้อย
จุดเริ่มต้นของพระพรหมเอราวัณ ไม่ได้เกิดขึ้นมาเพื่อสร้างความศักดิสิทธิ์ให้คนมากราบไหว้ แต่จุดเริ่มต้นมาจากการ แก้อาถรรพ์ ย้อนไปในปี 2499 บริษัทสหโรงแรมไทย และการท่องเที่ยว สร้างโรงแรมขึ้นที่สี่แยกราชประสงค์ แล้วตั้งชื่อว่า โรงแรมเอราวัณ พอสร้างไปยังไม่ทันเสร็จก็มีแต่เรื่อง มีอุบัติเหตุบ้าง มีเรื่องที่ยุ่งวุ่นวายหลายเรื่อง จนในที่สุดพลตำรวจเอกเผ่า ศรียานนท์ อธิบดีกรมตำรวจในเวลานั้น ได้ไปขอความช่วยเหลือจาก พลเรือตรีหลวงสุวิชานแพทย์ รน. แพทย์ใหญ่โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า มาถึงตรงนี้อย่าพึ่งแปลกใจ สร้างโรงแรม มีปัญหา ไปหาหมอทหารเรือ จะแก้ได้ยังไง
คุณหลวงสุวิชานแพทย์ ท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านวิปัสสนาธุระ การฝึกจิต การปฎิบัติธรรม ่ท่านอธิบายเหตุผลของเรื่องยุ่งยากว่า ที่ดินบริเวณราชประสงค์ เป็นที่ดินของเจ้านายหลายพระองค์ เป็นที่ดินที่แรง พอจะไปสร้างโรงแรมกลับไม่ขอให้ถูกวิธี แถมยังไปตั้งชื่อ เอราวัณ ช้างทรงของพระอินทร์ ก็เลยไปกันใหญ่ ทางแก้ ควรเชิญพระพรหม ซึ่งท่่านเป็นเทพผู้สร้าง มาสถิตย์รักษา เมื่อบริเวณนั้นเป็นพื้นที่ของเจ้านาย จึงเชิญ พรหมที่เคยมีฐานะเทียบเทียมกันมาสถิตย์ รักษา
ขอให้ตั้งศาลพระพรหมให้นายช่างกรมศิลากรออกแบบศาลและพระพรหม แล้วเชิญ บารมีท้าวมหาพรหมมาสถิตย์รักษา หลวงสุวิชานแพทย์ อธิบายว่า ผู้ที่มาสถิตย์รักษาที่ศาลนี้ คือ ท้าวเกสโร ดาวยพระวิญญาณของ พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้า หลังการตั้งศาลและทำพิธีอัญเชิญ โณงแรมเอราวัณ ก็ไม่เคยมีปัญหาอะไรอีกเลย โรงแรมผ่านเรื่องราวรุนแรงหลายครั้ง ทั้งการชุมนุมทางการเมือง การเผาห้ามสรรพสินค้า ระเบิด แม้แต่คนบ้าทุบองค์พระพรหม ก็ผ่านมได้หมดตัวโณงแรมไม่เคยเกิดเหตุร้ายอีกเลย
เรื่องความศักดิ์สิทธิ์ นั้นเป็นที่ประจักษ์ของผู้เคยไปขอบารมี มาที่วิธีการขอพรที่ บางท่านอาจไม่ทราบ
ขอความช่วยเหลือจากพระองค์ ณ ศาลท่านท้าวมหาพรหม ถ้าเป็นการกราบไหว้บูชาธรรมดาก็ใช้ดอกไม้สดหรือพวงมาลัยดอกไม้สด ธูป 7 ดอก เทียน 1 เล่ม หากเป็นการแก้บนจึงควรถวายด้วยพวงมาลัยที่ร้อยด้วยดอกไม้สดต่างๆ 7 สี ยาว 7 ศอก ธูป 9 ดอก เทียน 1 เล่ม สำหรับดอกไม้สดนั้น พระองค์ท่านโปรดดอกกุหลาบสีแดง และ... อันนี้สำคัญ พลเรือตรีหลวงสุวิชานแพทย์ ผู้ตั้งศาลและอัญเชิญพระบารมี บอกว่า ท้าวเกศโรพรหมนั้น ท่านจะเสด็จประทับยังศาลในตอนค่ำของทุกวัน ยกเว้นวันพระ เพราะพระองค์เสด็จไปเฝ้าพระพุทธองค์ ดังน้้น เวลาที่เควรไปไหว้ขอพระพรหมที่ถูกต้อง ตามความเชื่อนี้ คือ หลังหกโมงเย็นไปแล้วก่อนศาลปิด
จากหนังสืองานพระราชทานเพลิงศพ พลเรือตรีหลวงสุวิชานแพทย์ รน.