X
ย้าย “น้องมีนา” ไปอยู่กับ “น้องตุลา” หลังฝูงช้างไม่กลับมารับ

ย้าย “น้องมีนา” ไปอยู่กับ “น้องตุลา” หลังฝูงช้างไม่กลับมารับ

5 เม.ย 2566
4040 views
ขนาดตัวอักษร

เจ้าหน้าที่เตรียมย้าย “น้องมีนา” ลูกช้างป่าพลัดหลง ไปอยู่กับ “น้องตุลา” อีกหนึ่งลูกช้างป่าพลัดหลงขวัญใจชาวโซเชียลฯ ที่ ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 2 (กระบกคู่) หลังรออยู่หลายวันฝูงช้างก็ไม่กลับมารับน้องมีนากลับเข้าป่า รวมถึงเหตุผลด้านความปลอดภัยของตัวลูกช้างจากอากาศร้อนจัด-สัตว์นักล่าบริเวณใกล้เคียง


นางสาวมัชฌมณ แก้วพฤหัสชัย หัวหน้าศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 2 (กระบกคู่) รายงานว่า ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 2 (กระบกคู่) ร่วมกับสัตวแพทย์ประจำส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 7 (นครราชสีมา) เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ป่าเขากระป็อด เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ และสัตวบาลจากสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าช่องกล่ำบน เข้าติดตามอาการและดูแลลูกช้างป่า "น้องมีนา" ณ หน่วยพิทักษ์ป่าเขากระป็อด เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ จังหวัดบุรีรัมย์


จากการตรวจสุขภาพพบว่า สุขภาพโดยรวมของลูกช้างป่าปกติ แต่ยังถือว่ามีภาวะเกณฑ์ขนาดตัวต่ำกว่ามาตรฐาน และร่างกายขาดน้ำ ส่วนพฤติกรรมลูกช้างร่าเริง ตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อมได้ดี กินนม และขับถ่ายได้ปกติ ทำการเสริมวิตามินซีและแคลเซียมให้กิน สำหรับการนอนหลับลูกช้างนอนหลับได้ดีในช่วงกลางวัน สามารถแสดงพฤติกรรมตามธรรมชาติได้ดี แต่เริ่มมีพฤติกรรมติดคน ติดพี่เลี้ยงและวิ่งเข้าหาคน 


และเมื่อคืนวันที่ 30, 31 มีนาคม 1, 2 เมษายน 2566 ได้ทำการตามหาช้างฝูงที่มีลูกช้าง โดยได้รับความอนุเคราะห์โดรนตรวจจับความร้อนจากกลุ่ม save ฅน save ช้าง เพื่อหาโอกาสกลับเข้าฝูง ซึ่งพบว่ามีช้างฝูงอยู่ 1 ฝูง (ประมาณ 18 ตัว มีลูกช้างป่าเล็กๆ อยู่ด้วย คาดว่าเป็นฝูงเดียวกับที่ลูกช้างป่า "น้องมีนา" พลัดหลงออกมา) ที่อยู่ใกล้ๆ หน่วยพิทักษ์ป่าเขากระป็อด แต่ฝูงช้างป่าดังกล่าวไม่มารับลูกช้างป่ากลับฝูง 


ด้านนายภัทรพล มณีอ่อน นายสัตวแพทย์ชำนาญการพิเศษ หัวหน้ากลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่า ได้เข้าเยี่ยมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ พร้อมทั้งหารือแนวทางในการจัดการและดูแลน้องมีนาต่อไป ในกรณีปล่อยคืนสู่ธรรมชาติไม่สำเร็จ ทั้งนี้เพื่อป้องกันการเกิดภาวะวิกฤตของลูกช้างป่าที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เพราะเกรงว่าลูกช้างป่าจะเกิดการบอบช้ำและมีความเครียดทำให้เกิดอาการป่วยหรือทรุดลงได้ จึงเห็นควรพิจารณาเคลื่อนย้ายลูกช้างป่าไปทำการรักษาและอนุบาลฟื้นฟูร่างกายในพื้นที่ที่เหมาะสมต่อไป


เหตุผลที่ต้องมีการวางแผนในการเคลื่อนย้ายนั้นเนื่องจากข้อกำจัดที่พบ คือ สภาพอากาศในพื้นที่มีอากาศร้อนจัดในเวลากลางวัน อาจทำให้ลูกช้างป่าเกิดภาวะขาดน้ำได้ ประกอบกับในบริเวณใกล้เคียงมีผู้ล่า ได้แก่ เสือโคร่ง และมีช้างป่าโทน เดินวนเวียน ซึ่งอาจทำอันตรายต่อลูกช้างป่าในคอกชั่วคราวได้ ระหว่างนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและดูแลตลอด 24 ชั่วโมง


ทั้งนี้จากข้อสั่งการของผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่าและความเห็นทางการแพทย์เห็นตรงกันที่จะให้ทำการเคลื่อนย้าย "น้องมีนา" ไปรักษาและอนุบาลฟื้นฟูร่างกาย ณ ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 2 (กระบกคู่) ซึ่งสัตวแพทย์ประจำสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 7 (นครราชสีมา) ได้เข้าทำการเจาะเลือดตรวจสุขภาพและตรวจเชื้อไวรัสเฮอร์ปีส์เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2566 ก่อนทำการเคลื่อนย้าย 


อ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ..คิดอย่างไรกับเรื่องนี้ เขียนเลย
Terms of Service © 2025 MCOT.net All rights reserved นโยบายข้อมูลส่วนบุคคล นโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเว็บไซต์ นโยบายเว็บไซต์ของ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)