10 เม.ย.67 - กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับจังหวัดเพชรบูรณ์ กระทรวงวัฒนธรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดงานมอบใบประกาศนียบัตรรับรองการขึ้นทะเบียน เมืองโบราณศรีเทพ และโบราณสถานสมัยทวารวดีที่เกี่ยวข้อง เป็นมรดกโลก วันที่ 26 เมษายน 2567
นายเถลิงศักดิ์ เพ็ชรสุวรรณ รองปลัดกระทรวงทรัพยากธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะโฆษกกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แถลงข่าวการจัดงานมอบใบประกาศนียบัตรรับรองการขึ้นทะเบียน เมืองโบราณศรีเทพ และโบราณสถานสมัยทวารวดีที่เกี่ยวข้อง เป็นมรดกโลก ว่า ตามที่คณะกรรมการมรดกโลก มีมติในการประชุมสมัยสามัญ ครั้งที่ 45 เมื่อเดือนกันยายน 2566 ณ กรุงริยาด ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย เห็นชอบให้ขึ้นทะเบียนแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมของไทย จำนวน 1 แหล่ง คือ เมืองโบราณศรีเทพ และโบราณสถานสมัยทวารวดีที่เกี่ยวข้อง เป็นมรดกโลก ขณะนี้ศูนย์มรดกโลก ได้จัดส่งใบประกาศนียบัตรรับรองการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกอย่างเป็นทางการ ผ่านสำนักงานผู้แทนถาวรไทยประจำยูเนสโก ณ กรุงปารีส และได้จัดส่งให้สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหน่วยประสานงานกลางอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองมรดกโลกทางวัฒนธรรมและทางธรรมชาติแล้ว ดังนั้น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับจังหวัดเพชรบูรณ์ กระทรวงวัฒนธรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงได้กำหนดจัดพิธีมอบ
ใบประกาศดังกล่าวขึ้น ในวันที่ 26 เมษายน 2567 ณ โบราณสถานเขาคลังนอก อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์
โดยในพิธีดังกล่าวได้รับเกียรติจาก พลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานในพิธี และเป็นผู้มอบใบประกาศนียบัตรให้กับ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ในฐานะหน่วยงานเจ้าของแหล่งอย่างเป็นทางการ นอกจากนี้ ยังมีการจัดกิจกรรมเพื่อร่วมเฉลิมฉลองจากภาคส่วนต่าง ๆ เกี่ยวข้องและหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงวัฒนธรรม ภายใต้ชื่อ “ย้อนอดีตเมืองโบราณศรีเทพ สู่อนาคตแหล่งมรดกโลกอย่างยั่งยืน”
นางกิตติมา ยินเจริญ ผู้อำนวยการกองจัดการสิ่งแวดล้อมธรรมชาติและศิลปกรรม กล่าวว่าในปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยกรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหน่วยงานหลัก ได้ดำเนินการจัดทำเอกสารนำเสนอเมืองโบราณศรีเทพ เป็นมรดกโลกขึ้น และต่อมา เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2566 ในระหว่างการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกครั้งที่ 45 คณะกรรมการมรดกโลกได้มีมติเห็นชอบ ให้ขึ้นทะเบียนเมืองโบราณศรีเทพ และโบราณสถานสมัยทวารวดีที่เกี่ยวข้อง เป็นมรดกโลก โดยเมืองโบราณศรีเทพฯ เป็นแหล่งมรดกโลกแหล่งที่ 7 และเป็นแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมแหล่งที่ 4 ของราชอาณาจักรไทย มีพื้นที่นำเสนอแบบต่อเนื่อง จำนวน 3 พื้นที่ ประกอบด้วย (1) พื้นที่อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ และพื้นที่โดยรอบ
(2) โบราณสถานเขาคลังนอก และ (3) เขาถมอรัตน์ ตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ แบ่งเป็นพื้นที่นำเสนอ 5,415 ไร่ และพื้นที่กันชน 23,900 ไร่ ภายใต้หลักเกณฑ์คุณค่าความโดดเด่นอันเป็นสากล จำนวน 2 ข้อ ได้แก่ เกณฑ์ข้อที่ 2 การแลกเปลี่ยนในพื้นที่ในวัฒนธรรมผ่านการพัฒนาด้านสถาปัตยกรรม การวางแผนผังเมืองหรือการออกแบบภูมิทัศน์ และเกณฑ์ข้อที่ 3 เป็นประจักษ์พยานของประเพณีวัฒนธรรมหรืออารยธรรมทั้งที่ยังคงอยู่หรือสูญหายไปแล้ว โดยมีลักษณะและเอกลักษณ์โดดเด่น คือ (1) เมืองโบราณศรีเทพ มีรูปแบบผังเมืองที่มีคูน้ำคันดินล้อมรอบ โดยผังเมืองขยายเป็น 2 ชั้นซ้อนกัน เรียกว่า เมืองในและเมืองนอก (2) ศาสนสถานเขาคลังนอก แสดงถึงความเป็นมณฑลจักรวาล (3) ศาสนสถานถ้ำถมอรัตน์ ที่มีความสำคัญของศาสนสถานประเภทถ้ำ และ (4) ประติมากรรมสกุลช่างศรีเทพ
ที่มีความโดดเด่น และแตกต่างจากประติมากรรมในยุคสมัย โดยการที่เมืองโบราณศรีเทพฯ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลก นอกจากเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีต่อประเทศในเวทีนานาชาติ และก่อให้เกิดความภาคภูมิใจให้กับประชาชนในพื้นที่และภาคส่วนที่เกี่ยวข้องแล้ว ยังก่อให้เกิดประโยชน์ ในด้านต่าง ๆ เช่น การก่อให้เกิดรายได้และการสร้างงานทั้งทางตรงและทางอ้อมอันเนื่องมาจากการท่องเที่ยว การส่งเสริมการอนุรักษ์แหล่งมรดกทางวัฒนธรรม และปกป้องคุ้มครองอัตลักษณ์ของท้องถิ่นซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแหล่งมรดกโลก และการยกระดับการวิจัยในด้านต่าง ๆ ร่วมกันระหว่างประเทศต่าง ๆ ในการปกป้อง คุ้มครอง อนุรักษ์และบริหารจัดการแหล่งฯ เป็นต้น