สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง(สจล.) โชว์ตัวอย่างนวัตกรรมด้านสุขภาพ ช่วยบุคลากรทางการแพทย์ต่อสู้โควิด-19 อาทิ เอไอตรวจโควิดกลายพันธุ์ ที่สามารถตรวจพบและระบุตำแหน่งโควิดกลายพันธุ์ได้ถึง 8 สายพันธุ์ และ เอไอวัดสัญญาณชีพทางไกล ที่ช่วยให้แพทย์สามารถติดตามอาการผู้ป่วย ณ โรงพยาบาลสนามได้
ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดี สจล. เปิดเผยว่า สจล. ได้ผลักดันการศึกษาวิจัยและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ทางวิชาการ กลุ่ม “นวัตกรรมทางการแพทย์” ผ่านการสนับสนุนการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ในหลายมิติ ทั้งการตรวจคัดกรองโควิด-19 ในเชิงรุก การรักษา คลอดจนการติดตามอาการผู้ป่วย โดยมุ่งเน้นอำนวยความสะดวกในการทำงานและการป้องกันเชื้อของทีมแพทย์ โดยที่ผ่านมานักวิจัย สจล. ได้พัฒนานวัตกรรมหลากรูปแบบส่งต่อถึงโรงพยาบาลและหนวยงานสาธารณสุขจำนวนมาก ภายใต้ศูนย์นวัตกรรม KMITL GO FIGHT COVID-19
ศ.นพ.อนันต์ ศรีเกียรติขจร คณบดี คณะแพทยศาสตร์ สจล. กล่าวว่า สจล.
ได้เดินหน้าพัฒนานวัตกรรมทางการแพทย์ หรือ Health Tech เพื่อรองรับการรักษาในยุคดิจิทัล
ผ่านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเอไอ(AI) มาช่วยในการรักษาทางการแพทย์ในวิกฤตโควิด-19
โดยนักวิจัย สจล. สามารถพัฒนาเอไอ ที่มีประสิทธิภาพสูง เช่น
เอไอตรวจโควิดกลายพันธุ์ ที่สามารถตรวจพบและรบุตำแหน่งโควิดกลายพันธุ์ที่น่ากังวล(VOCs) ได้ถึง 8 สายพันธุ์ ซึ่งล่าสุดสามารถตรวจเจอโควิดสายพันธุ์ลูกผสม
อินเดีย-อังกฤษ ได้แล้ว โดยประสิทธิภาพของเอไอในระบบดังกล่าวให้ความแม่นยำสูงถึงกว่า
99% และใช้ความเร็วในการตรวจหาได้สูงถึง 1,000 ตัวอย่างในครึ่งนาที
นอกจากนี้ สจล. ยังมีนวัตกรรม เอไอวัดสัญญาณชีพทางไกล ที่ช่วยสามารถติดตามอาการผู้ป่วย ณ โรงพยาบาลสนามได้แบบใกล้ชิดและไร้การสัมผัส , แอปพลิเคชั่น ตรวจเชื้อโควิดแบบเรือนแสง ช่วยแพทย์รู้ผลผู้ติดเชื้อภายใน 45 นาที และ ข้าวกล่องกระตุ้นภูมิคุ้มกัน-ป้องกันโควิด ที่มีสมุนไพรไทยเป็นองค์ประกอบในอาหาร ให้สารสำคัญที่มีส่วนเสริมภูมิคุ้มกันและป้องกันโควิดจำนวนมาก
