วัดบางคลาน หรือ วัดหิรัญญาราม ที่กำลังมีกรณีพิพาทวุ่นวายอยู่ในขณะนี้ มีความเป็นมาที่ศักดิ์สิทธิ์เป็นตำนานคู่กับหลวงพ่อเงิน พระเกจิอาจารย์ผู้เรืองวิทยาคมเป็นที่เคารพของผู้คนมาช้านาน
ตำนานวัดบางคลานเกิดขึ้นโดยหลวงพ่อเงิน หลวงพ่อเงินนั้นท่านบรรพชาและอุปสมบทที่วัดชนะสงคราม แล้วได้รับนิมนต์ให้มาจำพรรษาที่วัดคงคาราม (วัดบางคลานใต้) เพื่อที่จะได้ใกล้ชิดญาติโยมพี่น้อง และไปเยี่ยมอาการป่วยไข้ของโยมปู่ของท่าน ต่อมาท่านคิดจะย้ายไปหาที่สงบบำเพ็ญเพียร พอออกพรรษาเมื่อรับงานกฐินเสร็จ จัดการรวบรวมเครื่องอัฐบริขารเดินตรงมาที่หน้าโบสถ์ แล้วเข้าไปกราบพระประธาน ตั้งจิตอธิษฐานบอกกล่าวเป็นการอำลาไปอยู่สถานที่แห่งใหม่ เมื่อออกจากโบสถ์มาก็ตรงไปที่ต้นโพธิ์ใหญ่หน้าโบสถ์พร้อมกับหักกิ่งโพธิ์ติดมือไปด้วยแล้วลงเรือข้ามแม่น้ำไปยังฝั่งเหนือแถบหมู่บ้านวังตะโกได้พบสถานที่รกร้างว่างเปล่าแห่งหนึ่งอยู่ริมแม่น้ำ มีความเงียบสงัดเหมาะที่จะบำเพ็ญเพียรเจริญภาวนา จึงตัดสินใจยึดสถานที่แห่งนี้เป็นที่พำนักอาศัย แล้วตั้งจิตอธิษฐานว่า หากต่อไปในกาลข้างหน้าถ้าสถานที่แห่งนี้เจริญรุ่งเรืองเป็นดินแดนศาสนาธรรม ขอให้กิ่งโพธิ์ที่นำมาปักจงเจริญงอกงาม ด้วยอานิสงส์บารมีอันยิ่งใหญ่ไพศาล ดลบันดาลให้กิ่งโพธิ์นั้นเจริญงอกงามอย่างรวดเร็ว เป็นที่แปลกใจแก่ชาวบ้านในย่านนั้น เพราะปกติต้นโพธิ์จะปลูกขึ้นด้วยเหตุผลสองประการคือ การปลูกโดยการเพาะเมล็ดและการตอน
การที่หลวงพ่อเงินเข้ามาอยู่ในเขตหมู่บ้านวังตะโกครั้งแรก ชาวบ้านได้มาช่วยท่านปลูกกุฏิให้พักอาศัย โดยการปลูกเป็นเพิงหมาแหงนหลังคามุงหญ้าแฝก ข้างฝาขัดไม้ไผ่ พอที่จะบังแดดบังลมกันฝนได้ก็เพียงพอแก่สมณสงฆ์ผู้ปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัด จากสำนักสงฆ์วังตะโก โดยมีหลวงพ่อเงินเพียงองค์เดียวในพรรษาแรก ต่อมาก็มีพระที่เป็นลูกชาวบ้านจากที่อื่นบวชมาจำพรรษาอยู่ที่นี่ เพื่อสะดวกแก่ญาติ พี่น้อง ในการทำบุญใส่บาตร เพียงระยะเวลาไม่กี่ปีก็กลายเป็นวัดที่สมบูรณ์แบบ มีทั้งศาลาการเปรียญ โบสถ์ กุฏิสงฆ์ ศาลาหอฉัน โดยชาวบ้านแถวนั้นเรียกนาม วัดแห่งนี้ว่าวัดวังตะโกหรือวัดบางคลานเหนือ ต่อมาวัดวังตะโกได้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น วัดหิรัญญาราม หรือวัดบางคลาน ตำบลบางคลาน อำเภอโพทะเล
จะเห็นว่าไม่เพียงองค์หลวงพ่อเงินที่ศักดิ์สิทธิ์วัดบางคลานนั้นมีที่มาไม่ธรรมดา หลวงพ่อเงินท่านมีความเมตตาอารีแก่บุคคลและสัตว์ทั่วไป วัดของท่านจึงมีบุคคลนำสัตว์มาถวายให้ท่านมิได้ขาด ท่านก็รับเลี้ยงไว้ในวัดของท่านจนกระทั่งวัดแทบจะเป็นสวนสัตว์ สัตว์ที่ชาวบ้านนำมาถวายก็มีช้าง กระทิง หมูป่า เก้ง กวาง ลิง ชะนี นก หมี จระเข้ ชื่อเสียงของหลวงพ่อเงินได้ขจรไปทั่วทุกทิศานุทิศ มีประชาชนเคารพ นับถือท่านมาก มีคนมาหาท่านมิได้ขาดเพื่อถวายตัวเป็นลูกศิษย์ เพื่อขอเครื่องรางของขลังเพื่อรักษาโรคภัยไข้เจ็บเพื่ออาบน้ำมนต์ มีเรื่องเล่าว่าน้ำมนต์ของท่าน ที่ประชาชนอาบไหลลงสู่แม่น้ำไม่ขาดสาย ต่อมาหลวงพ่อเงินได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์และได้สมณศักดิ์ เป็นท่านเจ้าคุณฝ่ายวิปัสสนาจารย์
หลวงพ่อเงินจำพรรษาที่วัดบางคลานจนละสังขารเมื่ออายุ114 ปีนับเป็นเกจิท่ี่ได้รับความเคารพนับถือมาอย่างยาวนานแม้ท่านจากไปนานแล้ว ความเลื่อมใสศรัทธาความศักดิ์สิทธิ์ในวัตถุมงคล หรือแม้เรื่องราวเล่าขาน เรื่องน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์และยารักษาโรคของท่านเป็นที่พึ่งให้ขาวบ้านมาตราบนานเท่านาน ความเชื่อมั่นยังคงมีอยู่และมั่นคงไม่เสื่อมคลายด้วยบารมีของท่านยังคงมีคนไปที่วัดบางคลานเพื่อกราบสักการะท่านตลอดเวลา ด้วยสิ่งที่คนในยุคหลังเสริมเติมเข้าไปจนเกินกว่าแก่นแท้ของธรรมมะ นี่เองเป็นที่มาของ ผลประโยชน์ ที่มำให้เกิดความวุ่นนวายในวันนี้