สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติได้ประกาศให้เป็น “วันมันฝรั่งสากล” ครั้งแรกของโลก บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด (เป๊ปซี่โค ประเทศไทย) ผู้ผลิตเลย์ มันฝรั่งทอดกรอบยอดนิยมของเมืองไทย และเป็นหนึ่งในองค์กรที่ส่งเสริมการปลูกมันฝรั่งของไทยอย่างยาวนานถึง 28 ปี ตอกย้ำพันธกิจในการส่งเสริมเกษตรกรปลูกมันฝรั่งของไทยก้าวสู่ความยั่งยืน พร้อมตั้งเป้าในปี 2573 ให้เกษตรกรที่ทำสัญญากับเป๊ปซี่โค ประเทศไทย ปฏิบัติตามแนวทางเกษตรยั่งยืนและมีรายได้เพิ่มขึ้น 15%
30 พฤษภาคม “วันมันฝรั่งสากล”
เมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2566 สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติมีมติให้ วันที่ 30 พฤษภาคม ของทุกปีเป็นวันมันฝรั่งสากล โดยในปี 2567 นี้จะเป็นปีแรกของการประกาศ เพื่อสร้างความตระหนักในคุณค่าทางโภชนาการ พลังงาน สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจ และสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ SDGsของสหประชาชาติ ซึ่งได้แก่ การขจัดความหิวโหยบรรลุความมั่นคงทางอาหารและยกระดับโภชนาการและส่งเสริมเกษตรกรรมอย่างยั่งยืน รวมทั้งยังส่งเสริมโอกาสด้านอาชีพและเศรษฐกิจที่ยั่งยืนตลอดทั้งห่วงโซ่การผลิต
ข้อมูลจากองค์การสหประชาชาติ หรือ The United Nations* ระบุว่ามันฝรั่งซึ่งเป็นหนึ่งในห้าพืชอาหารหลักที่บริโภคในโลก มีการปลูกอยู่ใน 159 ประเทศทั่วโลก ซึ่งในหลายประเทศจะมีวันมันฝรั่งแห่งชาติ เช่น สหรัฐอเมริกา แคนาดา เปรู ฯลฯ โดยประชากร 2 ใน 3 ของโลกบริโภคมันฝรั่ง และภายในปี 2573 คาดว่าปริมาณผลผลิตทั่วโลกจะมีมากถึง 750 ล้านตัน หรือเพิ่มขึ้น 112% ทั้งนี้มันฝรั่งนอกจากจะสร้างความมั่นคงทางอาหาร ยังเป็นส่วนหนึ่งของการผลิตพลังงานชีวภาพ และเป็นพืชที่เป็นมิตรต่อสภาพอากาศ เนื่องจากผลิตการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในระดับต่ำเมื่อเทียบกับพืชอื่นๆ
มันฝรั่งเป็นพืชที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงประกอบไปด้วยแร่ธาตุหลากหลายชนิดและมีใยอาหาร จึงเป็นพืชอาหารหลักที่มีความสำคัญและได้รับความนิยมในหลายประเทศ
*ข้อมูลจากเว็บไซต์องค์การสหประชาชาติ (The United Nations): https://www.un.org/en/observances/potato-day
เป๊ปซี่โคประเทศไทย ตั้งเป้าสร้างความยั่งยืนทางเกษตรและรายได้ให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกมันฝรั่ง
เป๊ปซี่โคประเทศไทย ผู้ผลิตเลย์ มันฝรั่งทอดกรอบยอดนิยมของเมืองไทย ได้ทำงานร่วมกับเกษตรกรผู้ปลูกมันฝรั่งมานานถึง 28 ปี โดยส่งเสริมห่วงโซ่การผลิตตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เริ่มจากตั้งแต่การปลูกมันฝรั่ง ด้วยการส่งเสริมศักยภาพของเกษตรกร เพิ่มผลผลิตด้วยการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เช่นการติดตั้งระบบชลประทานน้ำหยด การใช้เทคโนโลยีอินฟราเรดเพื่อตรวจสอบสภาพดิน รวมถึงการใช้โดรนเพื่อประเมินโรคและตรวจสอบสภาพพื้นที่ปลูกมันฝรั่ง ทำให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพส่งเข้ากระบวนการแปรรูปเป็นมันฝรั่งทอดกรอบ
ในแต่ละปี “เลย์” ใช้มันฝรั่งประมาณ 1 แสนตันต่อปีในการผลิตมันฝรั่งทอดกรอบที่จำหน่ายในไทย โดยเป็นผลผลิตในประเทศ 70% สร้างรายได้ให้เกษตรกรมากถึง 1,500 ล้านบาท ทั้งนี้ภายในปี 2573 เป๊ปซี่โคประเทศไทย ตั้งเป้าส่งเสริมผลผลิตในประเทศให้ได้ 85% และเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรอีก 15%
ปัจจุบัน เป๊ปซี่โค ประเทศไทย ส่งเสริมการปลูกมันฝรั่งเพื่อใช้ในการผลิตเลย์ ใน 10 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน ตาก เพชรบูรณ์ สกลนคร และนครพนม บนเนื้อที่กว่า 38,000 ไร่ โดยส่งเสริมเกษตรกรไทยมากกว่า 5,800 คน ผ่านการจัดทำฟาร์มต้นแบบ (model farm) จำนวน 19 แห่งและได้ร่วมมือกับพันธมิตรและภาครัฐในการส่งเสริมเกษตรกร
เป๊ปซี่โค ประเทศไทย ให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตควบคู่กับแนวคิดในการสร้างความยั่งยืนเพื่อสิ่งแวดล้อม สังคม และการมีธรรมาภิบาลหรือ ESG และพร้อมเดินหน้าสานต่อพันธกิจในการส่งเสริมการปลูกมันฝรั่งและเกษตรกรไทยพร้อมถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมเร่งยกระดับการเพาะปลูกมันฝรั่งและมีการรับประกันการซื้อที่แน่นอนภายใต้ระบบพันธสัญญา โดยมุ่งหวังว่าภายในปี 2573 ให้เกษตรกรทั้งหมดที่ทำสัญญากับเป็ปซี่โค ประเทศไทย จะบรรลุการทำการเกษตรอย่างยั่งยืน ทั้งการจัดการดินและน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงจัดการศัตรูพืชแบบผสมผสาน เพื่อสร้างความยั่งยืนทางการเกษตรและรายได้ให้เกษตรกรผู้ปลูกมันฝรั่งของไทย