จากกรณีเครื่องบินโบอิง 737 พร้อมผู้โดยสารและลูกเรือรวม 132 คน เดินทางจากเมืองคุนหมิงสู่เมืองกว่างโจว ตกลงในพื้นที่ภูเขาใกล้หมู่บ้านโม่ล่าง อำเภอเถิงเซี่ยน เมืองอู๋โจวของกว่างซี เมื่อราว 14.38 น. ของวันที่ 21 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมานั้น นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์สะเทือนใจ เพราะ “เครื่องบิน” ขึ้นชื่อว่าเป็นการเดินทางที่ปลอดภัยที่สุด วันนี้ Backbone MCOT จึงขอรวบรวมเอา 5 วิธีเอาตัวรอด เมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันบนเครื่องบินมาฝากทุกคนกันค่ะ
1. ก้มศีรษะลงให้ต่ำกว่าเบาะด้านหน้า เพื่อป้องกันวัตถุหน้าห้องโดยสารที่อาจกระเด็นมาโดน
2. เมื่อไฟดับให้หมอบต่ำ เคลื่อนที่ไปตามเส้นสะท้อนแสงเพื่อออกจากเครื่องด้วยทางออกที่ใกล้ที่สุด
3. กรณีมีควันไฟใช้ผ้าปิดจมูก ก้มตัวต่ำกว่าปกติ เพื่อป้องกันการสูดควันไฟ
4. ทิ้งสัมภาระ เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินบนเครื่องบิน ควรทิ้งของทุกอย่างไว้ เพราะจะทำให้ช้าลง และยังส่งผลต่อผู้อื่นอีกด้วย นอกจากนี้การทิ้งสัมภาระจะช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการเอาตัวรอดอีกด้วย
5. มีสติและทำตามคำแนะนำของแอร์โฮสเตส เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินขณะอยู่บนเครื่องบิน จะต้องตั้งสติและปฎิบัติตามคำแนะนำของแอร์โฮสเตสอย่างเคร่งครัด
นอกจากวิธีเอาตัวรอดเบื้องต้นแล้ว เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินบนเครื่องบิน อุปกรณ์ช่วยเหลือต่าง ๆ ก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่จะทำให้เราสามารถเอาชีวิตรอดได้ เช่น
หน้ากากออกซิเจน
- หน้ากากจะตกลงมาหากภายในห้องโดยสารมีความดันอากาศผิดปกติ กระตุกแล้วสวมครอบจมูกรัดให้แน่น สวมให้ตัวเองก่อนสวมให้ผู้อยู่ภายใต้การดูแล
เสื้อชูชีพ
- เสื้อชูชีพจะอยู่ใต้ที่นั่งของทุกท่าน นำสายคล้องมาคาดข้างหน้า ก่อนออกจากเครื่องกระตุกเชือกสีแดงเพื่อให้ชูชีพพองลมอัตโนมัติ หากเสื้อไม่พองลม สามารถเป่าที่ท่อได้
อุปกรณ์สไลด์เบาะลม
- กรณีสามารถใช้ประตูเป็นทางออกได้ ตรงประตูจะมีอุปกรณ์สไลด์เบาะลม ผู้โดยสารต้องปฏิบัติตามคำสั่งของลูกเรือ หากสไลด์กางทุกจุดจะสามารถนำคนออกจากเครื่องได้
**90 วินาที ระยะเวลาแห่งการเอาชีวิตรอด**
เวลา 90 วินาที เป็นเวลาที่สำคัญมาก ที่ลูกเรือจะต้องช่วยผู้โดยสารอพยพออกมาจากเครื่องบินได้ทันเวลา เนื่องจากเป็นระยะเวลาที่คนยังสามารถกลั้นหายใจได้ โดยไม่สูดเอาควันไฟเข้าไป หรือสูดเข้าไปไม่มากจนเกินไป ทำให้ยังมีสติในการอพยพ ฉะนั้น “ห้ามนำสัมภาระติดตัว ถอดรองเท้าส้นสูง ตรงไปที่ทางออกฉุกเฉินที่ใกล้ที่สุด”