16 พ.ย.67 - เที่ยว 1 วัน ที่เมืองชล ไปเที่ยวสวนสวยอันดับ 1 ใน 10 ของโลกแบบไม่เจอสวน แต่เจอกับอะไรนะ! และสัมผัสวัตถุล้ำค่าที่ได้รับมอบจากเมืองจีน ที่เหมือนหลงกลับไปยุคจิ๋นซีฮ่องเต้ “เอ่อ…แปลกดี”
จังหวัดชลบุรี 1 ในจังหวัดชายทะเลที่ยอดฮิตสุดๆของไทยเรา ยิ่งช่วงวันหยุด หรือเทศกาลไหนๆ ชลบุรีก็เป็นหมุดหมายของนักเดินทางจากทั่วประเทศ และทั่วโลก นอกจากความครบเครื่องของแหล่งท่อฃเที่ยวทางทะเล “เมืองชล” ยังมีที่เที่ยวที่โดดเด่น แถมชื่อเสียงระดับโลกอีกด้วย ครั้งนี้จะพาไปเที่ยวชลบุรีใน 1 วัน “เที่ยวสวน เจอเซียน” เอ่อ…แปลกดี
จากถนนมอร์เตอร์เวย์ เลี้ยวเข้าชลบุรี พัทยา วิ่งตามถนนสุขุมวิท แต่ถ้าชัวร์สุดคงต้องเปิด Google Map ระบุไปเลยว่า “สวนนงนุช” รับลองไม่มีหลง แต่อาจงงเพราะดันเข้าได้หลายเส้นทาง แต่รับรองว่าถึงแน่นอน “สวนนงนุช” ชื่อนี้ได้ยินมาตั้งแต่รุ่นพ่อ โด่งดังมานานแล้ว และก็ขึ้นชื่อในด้านการจัดสวนที่สวยมากบนพื้นที่นับพันไร่ จนได้รับการการันตีจากวงการสวนระดับโลกว่า “สวนนงนุช สวยติด 1 ใน 10 ของโลก” ความสวย ความงดงามของสวน ของไม้ดอกไม้ประดับที่นี่ รวมถึงไม้หายากถูกประดับตกแต่งตามพื้นที่สวนนานาประเภท เห็นด้วยตาแล้วต้องยกนิ้วให้ แต่ที่นี่ยังมีอะไรดีๆ ทีาเรียกว่าเป็นที่สุดอีกอย่างของสวนนงนุชเลย
เริ่มต้นด้วย “ใหญ่ที่สุด”
ใหญ่ที่สุดต้องเจ้าหนูนี่เลย “พาตาโกไททัน” ไดโนเสาร์ซอโรพอตกินพืชที่มาขนาดใหญ่ที่สุด ด้วยความยาวกว่า 35 เมตร และหนักร่วม 80 ตัน ซึ่งมีชีวิตอยู่ในช่วงต้นยุคครีเทเชียส ซึ่งฟอสซิลถูกค้นพบที่อาเจนติน่าในปี 2013 ใหญ่อลังการงานสร้างสุดๆ
ตำนานที่มีของวิเศษมากสุดๆ
ก็ต้องตำนานนี้เลย “เทวตำนานการกวนเกษียรสมุทร” จุดกำเนิดของทิพย์วิเศษ 14 อย่าง โดยการกวนเกษียรสมุทร ดำเนินไปถึง 1,000 ปี และทำให้เกิดของทิพย์วิเศษ 14 อย่าง ตามลำดับ ได้แก่
1.พิษร้าย “หราหระ” และฝูงพญานาค
2.วัวตัวเมียชื่อ “กามเธนุ”
3.ม้าสีขาวชื่อ “อุจเจศรวัศ”
4.ช้าง “เอราวัณ” หรือ ไอราพต
5.เพชร “เกาสตุภมณี”
6.ต้นไม้ทิพย์ “กัลปพฤกษ์”
7.ธนู “หริธนู”
8.เทพธิดา “พระลักษมี”
9.พระจันทร์เสี้ยว “พระโสมะ”
10.เทพธิดา “พระแม่ลักษมี”
11.เทพธิดา “วารุณีเทพเทพีแห่งเหล้า”
12. “นางอัปสร 35 ล้านองค์”
13.เทพบุตร “ธนวันตรี เทวะแพทย์ผู้วิเศษ”
14. “น้ำอมฤต”
พระพิฆเนศพันกร ที่สูงที่สุด
“โอม ศรีคะเนศายะ นะมะฮา” บทสวดถึงพระพิฆเนศพันกร ที่เปรียบเสมือน ชัยชนะเหนืออุปสรรคทุกสิ่ง ความสำเร็จทุกประการ ทั้งในด้านการเงินมั่งคั่ง การงานมั่นคง ครอบครัวที่อบอุ่น และความรักที่สมหวังทรงเป็นทั้งผู้ให้ ผู้ปราบความชั่วร้าย และทรงเป็นผู้ปกป้องความยุติธรรมในเวลาเดียวกัน ผู้บูชาปางนี้จึงสามารถขอพรได้ทุกสิ่งที่ต้องการในทางที่ดีงามในคติศาสนาฮินดูนั้นเน้นเรื่อง "การทำความดีถวายองค์เทพ" เป็นอย่างมาก
ตำนาน 9 พญานาคราช
น้อยครั้งที่จะเห็นที่ไหนสร้างประติมากรรม 9 พญานาคราชรวมไว้ในที่เดียว เป็นอีกจุดที่ไม่ควรพลาดมาชมความยิ่งใหญ่ของ “ตำนาน 9 พญานาคราช” จอมกษัตริย์นาคา 9 พระองค์ ผู้ปกครองพิภพบาดาล ได้แก่
1.พญาอนัตนาราช พาหนะคู่บารมีของพระนารายณ์ คำว่าอนันตะมีความหมายว่า อนันต์ ไร้จุดจบ มีความยาวมากถึงขนาดว่าสามารถพันรอบโลกได้
2.พญามุจลินทร์นาคราช พญานาคซึ่งปรากฏในพุทธประวัติ ผู้แผ่พังพานปกป้องพระโคตมพุทธเจ้าเมื่อเกิดพายุฝนเป็นเวลาเจ็ดวันขณะเสวยวิมุตติสุขใต้ต้นจิกในสัปดาห์ที่ 6 หลังการตรัสรู้ เป็นที่มาของพระพุทธรูปปางนาคปรก
3.พญาภุชงค์นาคราช เป็นพญานาคราชประจำองค์พระศิวะเทพ หรือ พระอิศวรเจ้า อยู่ในตระกลู วิรูปักษ์ มีพระวรกายเป็นสีเทาฮินดู พระนาภี และ พระเศียรเป็นสีแดง ชอบศึกษาธรรม
4.พญาศีรสุทโธนาคราช เป็นพญานาคราชขององค์อินทราธิราชเจ้า "มีพรหมประกายโลก" หรือวังนาคินทร์คำชะโนด อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี เป็นเวียงวังที่ประทับองค์นาคาธิบดีศรีสุทโธ มีวรกายสีเขียวมรกต เศียรสีทอง มีเมตตาสูงต่อผู้กราบไหว้บูชา หากอธิษฐานจิตขอในสิ่งที่ไม่เบียดเบียนผู้อื่นจะสัมฤทธิ์ผล
5.พญาศรีสัตตนาคราช เป็นหนึ่งในพญานาคผู้มีฤทธิ์ ทรงศักดาอานุภาพ ที่มาของชื่อเมืองศรีสัตตนาค
6.พญาเพชรภัทรนาคราช หรือ พญาเกล็ดแก้วนาคราช พญาเพชรภัทรนาคราช โอรสบุตร เพียง พระองค์เดียว ต่อองค์พญาอนันตนาคราช และ พระนางอุษาอนันตวดี เชี่ยวชาญด้านการรบ
7.พญานาคดำแสนสิริจันทรานาคราช ทรงเป็นพระราชโอรสพญาศรีสัตตะนาคราช กษัตริย์ฝั่งโขง 1 ในนาคาธิบดีทั้ง 9 พระวรกายสีดำอมส้มองค์นี้มีหอกทองคำปลายเป็นเพชร เป็นอาวุธ
8.พญายัสมัญนาคราช ทรงเป็นพระอนุชาสหายร่วมรบกับพญาเพชรภัทรนาคราช พญาภาคินทร์นาคราช และ พญานฤบดินทร์นาคราช เก่งวิชาทางรบ มนต์นาวี โดยพลังแห่งน้ำแล้วท่านถือเป็นเอกในด้านนี้
9.พญาครรตะศรีเทวานาคราช ทรงมีพระชายาคู่บารมีพระนางศิริมายานาคินีเทวี ราชธิดาพญาวาสุกรีนาคราช
พระเครื่องเยอะสุดๆ
สวนนงนุช ได้เปิดพิพิธภัณฑ์พระพุทธคุณ ออกแบบขึ้นเพื่อให้เป็นศูนย์กลางแห่งการเรียนรู้ ผ่านคอลเล็กชันวัตถุมงคลต่าง ๆ ที่รวบรวมไว้ เช่น พระพุทธรูป พระเครื่อง และวัตถุมงคลทางศาสนาอื่น ๆ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ยังรวบรวมวัตถุบางชิ้นที่มีอายุกว่าหลายร้อยปี ซึ่งเป็นการสื่อถึงความศรัทธาและประวัติศาสตร์อันยาวนานของพระพุทธศาสนา
เปลี่ยนบรรยากาศจากความสุด แบบจุกๆ กันแล้วขับรถกันต่ออีกนิด 15 นาทีจากสวนนงนุช เราจะได้เจอกับอาคารที่ดูคล้ายๆ ศาลเจ้า แต่ทำไมดูยิ่งใหญ่กว่านะ! เพราะที่นี่ก็คือ “อเนกกุศลศาลา หรือชื่อที่คุ้นกว่าเรียกว่า วิหารเซียน”
มาถึงที่วิหารเซียน ต้องบอกว่าโชคดีมากๆ วันนี้ได้เจอกับคุณวิชา กุลกอบเกียรติ หนึ่งในทายาทของ
อ.สง่า กุลกอบเกียรติ ตำนานเซียนด้านศาสตร์ฮวงจุ้ย และเป็นผู้ก่อตั้งวิหารเซียน คุณวิชาได้เล่าถึงความเป็นมาของวิหารเซียน สร้างขึ้นมาในปี 2531 โดยได้พระราชทานที่ดินจากในหลวงรัชกาลที่ 9 เกิดเป็นมูลนิธิเอนกกุศลศาลา ในพระสังฆราชูปถัมภ์ เพื่อให้อนุชนรุ่นหลังได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้ประวัติศาสตร์สายสัมพันธ์ระหว่างสองแผ่นดิน จะรวบรวมศิลปวัฒนธรรมทั้งไทยและจีนนี้ด้วย
เพียงแค่ก้าวผ่านประตูทางเข้า บอกได้เลยว่าที่นี่ไม่ธรรมดาจริงๆ สมกับความหมายที่ดีว่า “สถานที่ที่มีบรรยากาศดั่งสรวงสวรรค์” โดดเด่นด้วยปฏิมากรรม 8 เซียนข้ามทะเล ที่หล่อด้วยโลหะออกมาได้มีความละเอียด สวยงาม เซียนแต่ละองค์มีเอกลัษณ์เฉพาะ ดูแล้วคล้ายมีชีวิตจริงๆ ซึ่งผู้ที่มีความเชื่อก็มักมาขอพรกับเหล่าเซียน ณ ที่แห่งนี้เช่นกัน ส่วนตัวอาคารแน่นอนว่ายึดหลักฮวงจุ้ยเพื่อความเป็นมงคลโดยเฉพาะ และเราก็ไม่พลาดเหมือนกันนะ ขอไปรับพรดีๆ กันก่อนแล้วกันเนอะ
เข้ามาที่ด้านในอาคาร พูดได้เลยว่าตะลึงตื่นตาไปทั้งหมดเลย เต็มไปด้วยปฏิมากรรม รูปปั้นงานหล่อของช่างศิลป์ จัดเรียงไว้อย่างชวนทึ่งอลังการด้วยศิลปะผสมผสานแบบจีนไทย และศิลปวัตถุล้ำค่าที่น่าสนใจอยู่เพียบ เจออย่างแรกที่จะเลย ก็คือ “พระศรีอริยเมตรไตรย” ที่เชื่อว่าเป็นพระโพธิ์สัตว์ผู้จะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าพระองค์ที่ 5 ดูแล้วมีทั้งความสวยงามตามงานศิลป์ และมีความเข้มขลังได้ในองค์เดียวกัน สำหรับใครที่เป็นเหล่าสายมู มีความเชื่อความศรัทธาในพุทธคุณต่างๆ วิหารเซียนเป็นอีก 1 สถานที่ที่รวมทุกสิ่งที่เป็นมงคล ทั้งเรื่องโชคลาภ การงาน การเงิน ความรัก หลงกันมาได้นะ
แต่ที่ประทับใจสุดๆ ต้องโซนนิทรรศกาลนี้เลย “หุ่นทหารดินเผาจากสุสานจิ๋นซีฮ่องเต้” มรดกแห่งเมืองซีอาน ประเทศจีน ซึ่งเหล่าหุ่นปั้นเหล่านี้เป็นของจริง มีอายุกว่า 2,200 ปีจริง ซึ่งรัฐบาลจีนได้มอบให้จัดแสดงที่ “วิหารเซียน” เป็นการถาวร รูปปั้นหุ่นดินเผาที่จัดแสดงก็จะมีหลากหลายฐานะหลายตำแหน่ง บางตัวก็มีลักษณะถือดาบ จับธนู ได้มองใกล้ๆ จะเห็นลายละเอียดที่ชัดขึ้น บางครั้งก็จิตนาการไปไกลว่าหุ่นเหล่านี้มีชีวิตจริงๆ ยอมรับเลยว่าเป็นโอกาสดีจริงๆ ที่ได้มาเห็นโบราณวัตถุระดับโลกใกล้ชิดขนาดนี้ เอ่อ…แปลกดี
ซึ่งคุณวิชา บอกไว้ว่า วิหารเซียนน่าจะเป็นแห่งเดียวในโลกที่รัฐบาลจีนมอบให้ไว้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีชุดรถม้าสำริด สุสานจิ๋นซีฮ่งเต้ จำลอง และวัตถุล้ำค่าที่รัฐบาลจีนมอบไว้ให้รวมกว่า 328 รายการเลย
ยังไม่หมดแค่นี้ ขึ้นมาที่ชั้น 2 เป็นที่ตั้งของเทพองค์ประธานของวิหาร “เซียนลื่อท่งปิง” มีสัญลักษณ์เป็นกระบี่ 7 ดาว เชื่อว่าเป็นกระบี่วิเศษ มีอิธิฤทธิสามารถกำราบมารร้ายได้ นับเป็นอีกเซียนที่ชาวจีนให้ความเคารพอย่างมาก ส่วนด้านบนเพดาน มีสัญลักษณ์หลินหยางอยู่ เป็นอีกจุดที่มาขอพรรับพลังดีๆ กลับไปได้นะ
เรื่องของความเชื่อความศรัทธา ก็เป็นอีกสิ่งที่จูงใจให้การออกมาเที่ยวมีความหมายมากขึ้น ซึ่งจริงๆแล้ว สิ่งเหล่านี้ล้วนผ่านกระบวนการคิดและสร้างสรร และแฝงไปด้วยศิลปะ วัฒนธรรมบางอย่าง ที่แต่ละคนต้องมาค้นหาความหมายนั่นด้วยตัวเอง และเราอาจได้รู้จักตัวเองมากขึ้น