ช่วงฤดูฝนแบบนี้ เราต้องเจอ “ฝนตก น้ำท่วม รถติด” เป็นเรื่องปกติของคนกรุง และฝนที่ตกลงมาบ้างครั้งอาจเกิดการระบายไม่ทัน และด้วยวิถีชีวิตของคนกรุงนั้นอาจจะต้องมีการผ่าน้ำท่วมเพื่อดำเนินชีวิต ซึ่ง น้ำที่ท่วมขังนั้นมักจะมีเชื้อโรคปะปนอยู่และสิ่งสกปรกเหล่านั้นจะทำให้เกิดโรคทางผิวหนังที่ชื่อว่า “โรคน้ำกัดเท้า” วันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกัน
ช่วงหน้าฝนอาจกิดน้ำท่วมขัง ทำให้ต้องเดินลุยน้ำหรือย่ำน้ำบ่อยมากขึ้น จนทำให้ผิวหนัง
บริเวณเท้าเกิด “ภาวะน้ำกัดเท้า”
อาการ
- ผิวหนังที่เท้ามีอาการระคายเคือง คัน แดง เปื่อย และหลุดลอก หรือมีกลิ่น
- มักเป็นบริเวณซอกนิ้ว จมูกเล็บหรืออาจเป็นทั้งเท้าได้ หากมีการติดเชื้อราแทรกซ้อนจะมีผื่นผิวหนังลอกคันเป็นวง ๆ หรือมีตุ่มน้ำใส หรือเมื่อมีการติดเชื้อแบคทีเรีย มักจะมีอาการปวด บวม แดงร้อน กดเจ็บ หรือมีไข้ได้
การป้องกัน
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสน้ำบ่อย ๆ หากต้องแช่น้ำเป็นเวลานานหรือเดินย่ำน้ำ ควรสวมรองเท้าบูท
- รักษาความสะอาดของเท้าอยู่เสมอ โดยการล้างเท้าและฟอกสบู่ ตัดเล็บให้สั้น
- รีบเช็ดเท้าให้แห้งทุกครั้งหลังเท้าเปียก โดยเฉพาะตามซอกนิ้วเท้า และทาครีมให้ความชุ่มชื้นทุกครั้ง
- ปรึกษาแพทย์เมื่อมีอาการผิดปกติของผิวหนังบริเวณเท้า
ขอบคุณที่มา : โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ สภากาชาดไทย