24 ม.ค.68 - นักวิจัยไทย ทำจริง! คว้าของเหลือทิ้ง “เปลือกหอยแมลงภู่” แปลงโฉมวิจัยเป็นวัสดุเซรามิก ได้ผลลัพธ์ทั้งสวย และทนทาน 1 ในงานวิจัยที่คว้ารางวัลระดับชาติ ปี 2568 จากผลงานสิ่งประดิษฐ์กว่า 1,000 ผลงาน พร้อมโชว์ตัวในงาน “วันนักประดิษฐ์ 2568”
สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ประกาศความพร้อมในการจัดงาน “วันนักประดิษฐ์ ประจำปี 2568” (Thailand Inventors’ Day 2025) ปีที่ 26 เพื่อน้อมรำลึกถึงวันประวัติศาสตร์ การทูลเกล้าฯ ถวายสิทธิบัตรการประดิษฐ์ “กังหันน้ำชัยพัฒนา”เครื่องกลเติมอาการที่ผิวน้ำหมุนช้าแบบทุ่นลอย แด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร “พระบิดาแห่งการประดิษฐ์ไทย” โดยในปีนี้มีผลงานสิ่งประดิษฐ์คิดค้นจากนักประดิษฐ์ไทยและนานาชาติส่งผลงานเข้าร่วมกว่า 1,000 ผลงาน ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2 - 6 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 09.00 - 17.30 น. ณ Event Hall 101 – 104 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพฯ
โดผลงานวิจัยและสิ่งประดิษฐ์ที่น่าสนใจจากกว่า 1,000 ผลงาน ส่วนหนึ่งนำมาโชว์ตัวในครั้งนี้ด้วย อย่างเช่น
1. นวัตกรรมผลิตภัณฑ์เซรามิกสร้างสรรค์ จากลักษณะเฉพาะของขยะเปลือกหอยแมลงกู่ รางวัลระดับดีมาก สาขาปรัชญา โดยรศ. ดร.พิมพ์ทอง ทองนพคุณ และคณะมหาวิทยาลัยบูรพา ซึ่งนวัตกรรมผลิตภัณฑ์เซรามิกสร้างสรรค์ จากลักษณะเฉพาะของขยะเปลือกหอยแมลงภู่ ผลิตจากขยะเปลือกหอยแมลงคู่ของชุมชนที่นำมาแปรรูปด้วยกระบวนการเป็นนมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้ได้ผงเปลือกหอยหลายขนาด นำมาผสมร่วมกับดินเซรามิกได้ทั้งผสมในเนื้อดินและน้ำเคลือบ ทดแทนผงแคลเซียมที่ใช้ทั่วไปได้ นำมาสร้างสรรค์ผลงานด้วยแนวคิดที่เปลือกหอยแมลงคู่มีลักษณะเฉพาะที่มีความแข็งแรงของโครงสร้างผลึก “เปลือกหอยเป็นแคลเซียมคาร์บอเนทประเภทอะราโกไนท์ ซึ่งต่างจากหอยนิดอื่น ๆ และมีความวาวของเปลือกหอยตามขนาดที่ต่างกัน ผลิตตภัณฑ์เซรามิกที่ผลิตขึ้นจึงมีความแข็งแรงสูงและมีลวดลายพื้นผิวตามธรรมชาติเปลือกหอย กระบวนการผลิตไม่ซับซ้อน สามารถผลิตเป็นงานศิลป์แลผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย สร้างคุณค่าความงามของงานศิลป์ผ่านการออกแบบ เพิ่มมูลค่าจากความงามตามธรรรมชาติและความยั่งยืน อีกทั้งผลิตภัณฑ์มีศักยภาพในการนำไปสร้างผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืนได้อีกมาก
2.การศึกษาและรวบรวมการใช้พันธุ์ไม้ประดับลายหม้อปูรณฆฎะในศิลปกรรมล้านนา รางวัลระดับดีเด่น สาขาปรัชญา โดยผศ.ฐาปกรณ์ เครือระยา
มหาวิทยาลัยแม่โจ้ โดยการศึกษาและรวบรวมการใช้พันธุ์ไม้ประดับลายหม้อปูรณฆฎะในศิลปกรรมล้านนา เป็นงานวิจัยเชิงคุณภาพ โดยการเก็บรวมรวมรูปแบบลวดลายปูรณฆฎะในศิลปกรรม ผลการศึกษาพบว่าในวัฒนธรรมของล้านนา มีการใช้พันธุ์ไม้ตามธรรมชาติมาออกแบบจนเกิดเป็นลวดลายประดับในงานศิลปะที่รับใช้ศาสนา ซึ่งลวดลายดังกล่าวปรากฏในรูปของหม้อปูรณฆฎะ หรือในพื้นที่เรียกว่า ลายหม้อดอก โดยนำเอารูปแบบพันธุ์พฤกษามาออกแบบเป็นงานศิลป์ ทั้งงานจิตรกรรม งานประติมากรรม งานภาพพิมพ์ นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นถึงเอกลักษณ์ของลายในแต่ละพื้นที่ เห็นถึงพัฒนาการและปรับใช้ในยุคสมัยต่าง ๆ โดยการเก็บลายหม้อดอก จำนวน 184 วัด กับอีก 6 แหล่งมรดกวัฒนธรรม ปรากฎลวดลายหม้อดอก 483 ลาย สู่การทำความเข้าใจรูปแบบลายและความหมาย ผ่านการประดับลายในตำแหน่งต่างๆ ในเขตพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดลำพูน จังหวัดลำปาง จังหวัดแพร่ จังหวัดน่าน
จังหวัดเชียงราย จังหวัดพะเยา และจังหวัดแม่ฮ่องสอน จากการเก็บข้อมูลพบแทคนิคการสร้างงาน 3 อันดับแรก คือ งานลายคำ งานปูนปั้น และงานไม้แกะสลัก นอกจากเทคนิคงานช่างแล้ว พบลวดลายหม้อดอกมากที่สุดในจังหวัด 3 อันดับแรก คือ จังหวัดลำปาง จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดแพร่ และลวดลายหม้อดอกถูกสร้างขึ้นมาในการเป็นสัญลักษณ์ของการบูชาพระธรรมมากที่สุดโดยปรากฏบนหีบธรรม ธรรมมาสน์ และหอธรรม จากการศึกษาลายหมือปูรณฆฎะ ถือเป็นงานศิลปะที่เกิดขึ้นจากการผูกพันกับธรรมชาติในสังคมล้านนา โดยนำเสนอเทคนิคงานช่างที่ใช้ในการสร้างสรรค์ ทำให้เข้าใจการเชื่อมโยงและเห็นถึงที่มาของการใช้ลวดลายหม้อดอกสมบูรณ์ ซึ่งเป็นประโยชน์และสร้างองค์ความรู้ใหม่ ว่าด้วยเรื่องหม้อปูรณฆฎะในศิลปกรรมล้านนา ให้ผู้สนใจและสามารถนำรูปแบบลวดลายที่ได้เก็บรวบรวมไว้นี้ ไปพัฒนาและปรับใช้ในอนาคตต่อไป
3.คุณค่าคัมภีร์ใบลานอักษรธัมม์ มรดกธรรมจากพุทธกาล รางวัลระดับดี สาขาปรัชญา โดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ดวงแข บุตรกูล และคณะ
วิทยาลัยอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ สำหรับผลงานนี้เป็นการผสมผสานระหว่างปรัชญา ศาสนาและความงดงามของการออกแบบที่สร้างสรรค์ ผ่านการสืบทอดมรดกทางวัฒนธรรมจากคัมภีร์ใบลาน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของปัญญาและศรัทธาในพุทธศาสนา การใช้
วัสดุอัลลอยด์เงินและทองคำคู่กับพลอยเนื้อแข็งสีเขียวตองอ่อน สื่อถึงความสมดุลของธรรมชาติและจิตวิญญาณ ความงดงามของสีเขียวที่สงบเย็นและเต็มไปด้วยพลังชีวิต ช่วยเติมเต็มความหมายแห่งสิริมงคล ขณะที่แท่นวางไม้สักที่ออกแบบอย่างประณีตสะท้อนถึงความเชื่อมโยงระหว่างธรรมชาติ การออกแบบเชิง Deconstruction ที่ใช้เทคโนโลยี 3 มิติ นำพาผู้ชมเข้าสู่มิติใหม่ของการสร้างสรรค์ ที่ไม่เพียงคงไว้ซึ่งอัตลักษณ์ดั้งเดิม แต่ยังเปิดทางสู่การตีความที่ทันสมัย ผลงานนี้
จึงเป็นมากกว่าวัตถุที่สวยงาม แต่เป็นสัญลักษณ์แห่งการเชื่อมต่อระหว่างจิตวิญญาณและโลกแห่งวัตถุผ่านความงามที่แฝงด้วยความหมายเชิงศรัทธาและปรัชญาทางศาสนาอันลึกซึ้ง
4.การแปรรูปเส้นใยสับปะรด ให้เป็นวัสดุทดแทนการใช้งานหนังสัตว์ ผลงานสิ่งประดิษฐ์สู่การใช้ประโยชน์ กลุ่มเรื่อง : นวัตกรรมสีเขียว โดยดร.รังสิมา ชลคุป และคณะ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผลิตภัณฑ์หนังเทียมจากเส้นใยสับปะรดเป็นทางเลือกในการทดแทนการใช้หนังสัตว์ โดยสามารถผลิตได้ในระดับชุมชนเพื่อส่งเสริมการแปรรูปเส้นใยสับปะรด ซึ่งเป็นวัสดุเหลือทิ้งจากการเกษตร และช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับเส้นใยสับปะรด ทำให้ผลิตภัณฑ์มีความน่าสนใจ และมีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงขึ้น รูปลักษณ์ และเนื้อสัมผัสของวัสดุยังคงสะท้อนถึงความเป็นเส้นใย สับปะรด นอกจากนี้ยังช่วยลดการใช้หนังสัตว์ และลดการ
ทารุณกรรมสัตว์ อีกทั้งสามารถผลิตได้ในวิสาหกิจชุมชนจึงช่วยกระจายรายได้สู่ชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
5.การผลิตไข่ต้มจากพืชไร้สารก่อภูมิแพ้ ผลงานสิ่งประดิษฐ์สู่การใช้ประโยชน์ กลุ่มเรื่อง: การเกษตรสร้างมูลค่า (เกษตรแปรรูป) โดยรองศาสตราจารย์ยุพกนิษฐ์ พ่วงวีระกุล และคณะคณะเทคโนโลยีอาหาร มหาวิทยาลัยรังสิต โดย “ไข่ต้มจากพืช” แก้ปัญหาผู้แพ้ไข่ให้สามารถกลับมากินไข่ได้อย่างมีความสุข ตอบโจทย์ความต้องการผู้รักสุขภาพ เพราะมีสารอาหารเทียบเท่าไข่จริงทั้งโปรตีนและสารฟังชันนอลแต่มีไขมันและโซเดียมต่ำ ไม่มีโคเลสเตอรอล สามารถบริโภคได้ทันทีและเก็บรักษาได้นานโดยไม่ต้องแช่เย็นหรือ แช่แข็งใช้ทดแทนไข่จริงได้ทุกเมนูทั้งกินสด และสามารถต้มหรือทอดซ้ำได้โดยไม่ละลายเสียรูป
6.การยกระดับกระเป้าจักสานมรดกไทย เพื่อยกระดับเศรษฐกิจและสร้างรายได้ของชุมชน ผลงานสิ่งประดิษฐ์สู่การใช้ประโยชน์ กลุ่มเรื่อง: นวัตกรรมสีเขียว โดยนายพุฒิภัสร์ กิติธณาวัฒนพงษ์ และนายรีระพงศ์ ทองบุตร บริษัท ไทยมรดก อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เป็นการนำก้านของบัวหลวงมาสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยการนำก้านบัวหลวงที่เหลือทิ้งมาทำเป็นเส้นสำหรับงานจักสานและยังนำมาอัดแห้งเป็นแผ่น รวมไปถึงการผลิตกระดาษ อีกทั้งศึกษาคิดค้นและทดลอง ที่จะทำให้ก้านของบัวหลวงสามารถนำมาเป็นวัสดุในการทำผลิตภัณฑ์งานประดิษฐ์ต่าง ๆ ได้อีกชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับก้านบัวหลวงซึ่งเป็นวัสดุในท้องถิ่น สามารถใช้เป็นวัสดุทดแทนไม้ไม่ไผ่ ไม้หวาย ซึ่งนับวันจะขาดแคลนหายาก และราคาแพงขึ้น ทั้งยังสามารถนำองค์ความรู้มาพัฒนา สร้างงางาน สร้างอาชีพให้กับชุมชน และสร้างรายได้เพิ่มให้กับเกษตรกร นักแปรรูป และนักการตลาด ถือเป็นการสร้างอาชีพทางเลือกใหม่ และเป็นการสร้างรายได้ตั้งแต่เกษตรกรต้นน้ำถึงปลายน้ำ
ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า “งานวันนักประดิษฐ์ 2568” ในปีนี้จัดขึ้น ภายใต้แนวคิด “สิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมไทย : ความท้าทายของประเทศ” ถือได้ว่าเป็นเวทีระดับชาติที่ยิ่งใหญ่เวทีหนึ่ง ที่เปิดโอกาสให้ผลงานด้านการประดิษฐ์คิดค้นของคนไทย ได้รับการเผยแพร่ออกสู่สาธารณชนในวงกว้าง อีกทั้งยังเป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการประดิษฐ์คิดค้น การวิจัย และนวัตกรรม ระหว่างนักประดิษฐ์ไทยกับนักประดิษฐ์นานาชาติ จะเป็นผลให้เกิดแรงจูงใจแก่เยาวชนและนักประดิษฐ์รุ่นใหม่ ในการสร้างสรรค์ผลงานที่มีคุณภาพ ซึ่งยุทธศาสตร์ด้านการวิจัยและนวัตกรรมเป็นการบูรณาการทุกภาคส่วน เพื่อให้เกิดความเชื่อมโยงและความเป็นเอกภาพ ทำให้เกิดการขับเคลื่อนที่รวดเร็ว เชื่อมโยง และสอดคล้องกันอย่างเป็นระบบนี้จะสามารถยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขัน สู่การสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งให้กับนักประดิษฐ์และนักวิจัยไทย ให้เดินหน้าสู่เวทีระดับนานาชาติต่อไป
ภายในงานปีนี้จะจัดให้มีพิธีมอบรางวัลการวิจัยแห่งชาติสาขาต่าง ๆ ที่สร้างผลงานอันทรงคุณค่าและมีคุณประโยชน์ทั้งทาง ด้านวิชาการ วิทยาการและการนำไปประยุกต์ใช้ เพื่อเป็นแบบอย่างและแรงบันดาลใจที่ดีแก่เหล่านักประดิษฐ์และนักวิจัยต่อไป
การจัดงานปีนี้ ประกอบด้วย นิทรรศการ “พระบิดาแห่งการประดิษฐ์ไทย” และ นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ กิจกรรมไฮไลท์ อาทิ เมืองนักคิด Smart Town และ Clever Land นิทรรศการแสดงผลงานสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมมากกว่า 1,000 ผลงาน จาก 6 กลุ่มเรื่อง ได้แก่ ด้านความมั่นคง เกษตรสร้างมูลค่า อุตสาหกรรมและบริการแห่งอนาคต นวัตกรรมการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพ สังคมผู้สูงวัยและผู้พิการ และนวัตกรรมสีเขียว นิทรรศการรางวัลการวิจัยแห่งชาติ นิทรรศการสิ่งประดิษฐ์สู่การใช้ประโยชน์ การประกวดสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรม “2025 Bangkok International Intellectual Property, Invention, Innovation and Technology Exposition" (IPITEx 2025) การประกวดสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมระดับเยาวชน I-New Gen Award 2025 การประกวดโครงงานนักประดิษฐ์รุ่นจิ๋ว I-New Gen Junior Award 2025 และตลาดสินค้าและนวัตกรรมนอกจากนี้ยังจัดให้มีการเสวนาการฝึกอบรมเชิงวิชาการและปฏิบัติการมากกว่า 100 หัวข้อ อาทิ การเสวนาในหัวข้อการส่งเสริมพัฒนาสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรม การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการด้านการประดิษฐ์คิดค้น และ การฝึกอบรมอาชีพอีกด้วย
วช. ขอเชิญชวนประชาชน นักเรียน นิสิต นักศึกษา และผู้สนใจทั่วไป ลงทะเบียนเข้าร่วมชมงานและสำรองสิทธิ์เข้าร่วมการประชุมสัมมนาในหัวข้อที่น่าสนใจ ภายใน งานวันนักประดิษฐ์ 2568 (Thailand Inventors’ Day 2025) ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2 - 6 กุมภาพันธ์ 2568 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา อย่าพลาดโอกาสสำคัญที่จะได้สัมผัสนวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์ล้ำสมัย พร้อมเปิดโลกแห่งการเรียนรู้และสร้างแรงบันดาลใจให้กับทุกคน ลงทะเบียนเข้าร่วมงานฟรีได้แล้ววันนี้ที่ http://inventorsdayregis.com