ในภาวะที่คนในสังคมประสบกับความเร่งรีบ ภารกิจรัดตัวการนั่งติดกับโต๊ะทำงานนานๆโฟกัสกับงานจนลืมหรือมองข้ามเรื่องการดูแลสุขภาพ
วันนี้เรามีข้อมูลมาเตือนให้รู้ถึงผลของการลืมใส่ใจกับการดื่มน้ำบริสุทธิ์ให้พอเพียงในแต่ละวัน
แพทย์หญิงวลีรัตน์ เศวตสุทธิพันธ์ ศัลยแพทย์ระบบทางเดินปัสสาวะ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ผู้ทำการศึกษาการเกิดภาวะกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ให้ข้อมูลว่าผู้หญิงจะเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้ง่ายกว่าผู้ชาย เนื่องจากผู้หญิงมีท่อปัสสาวะสั้นกว่าทำให้เชื้อโรคบุกรุกเข้าไปได้โดยง่าย ซึ่งจากการศึกษาข้อมูลพบว่า ผู้หญิงร้อยละ 50 จะมีประวัติติดเชื้อทางเดินปัสสาวะอย่างน้อย 1 ครั้งในชีวิต ส่วนที่ผู้ชายเกิดการติดเชื้อขึ้นมาก็จำเป็นต้องหาสาเหตุ เช่น นิ่ว หรือความผิดปกติของทางเดินปัสสาวะ
สาเหตุของการติดเชื้อ ได้แก่
1.ปัสสาวะออกน้อยลง ทำให้ไม่มีน้ำปัสสาวะไปชะล้างเชื้อโรคออกจากท่อปัสสาวะและกระเพาะปัสสาวะ
ภาวะนี้อาจเกิดจากการดื่มน้ำน้อย หรือทางเดินปัสสาวะอุดกั้น เช่น ท่อปัสสาวะตีบ
ต่อมลูกหมากโต
2.เกิดภาวะที่ทำให้เชื้อโรคไปสะสมมากขึ้นบริเวณปากท่อปัสสาวะ
ได้แก่ การมีเพศสัมพันธ์ ภาวะหมดประจำเดือน การใช้ยาฆ่าเชื้อโดยไม่จำเป็น
3.ภาวะที่ทำให้เชื้อโรคบุกรุกเข้าไปง่ายขึ้น
เช่น การใส่สายสวนปัสสาวะ การกลั้นปัสสาวะเป็นเวลานานๆ
จนทำให้มีปริมาณปัสสาวะในกระเพาะปัสสาวะเกิน 400 ซีซี
อาการที่ปรากฏพบ
ผู้ป่วยมีอาการปัสสาวะแสบขัด
เจ็บเวลาถ่ายปัสสาวะ ปัสสาวะบ่อย รู้สึกปัสสาวะไม่สุด ปวดท้องน้อย ปวดหลังล่าง
มักไม่ค่อยมีไข้ บางรายอาจมีปัสสาวะเป็นเลือดได้
ส่วนอาการปัสสาวะขุ่นหรือมีกลิ่นฉุนนั้นไม่ใช่อาการบ่งชี้ถึงการติดเชี้อ
การรักษา
เบื้องต้นเมื่อสาเหตุเกิดจากการดื่มน้ำน้อยก็ขอให้ดื่มน้ำมากๆ
และอย่ากลั้นปัสสาวะนาน หากอาการไม่ดีขึ้น แพทย์ผู้รักษาต้องพิจารณารับประทานยาปฏิชีวนะร่วม
สำหรับผู้ใหญ่วัยงานการคำนวณหาปริมาณน้ำที่คนเราควรดื่มต่อวันนั้น
มีสูตรคำนวณอยู่โดยให้เอาน้ำหนักตัว คูณด้วย 2.2 คูณด้วย 30 ก่อนหารด้วย 2
ก็จะได้ปริมาณน้ำที่ควรดื่มเป็นมิลลิลิตรต่อวัน เช่น น้ำหนักตัว 75 กิโลกรัม คูณด้วย
2.2 คูณด้วย 30 หาร 2 เท่ากับ 2,475 มิลลิลิตร นั่นเอง