อยุธยาเมืองมรดก เป็นอีกเมืองของไทยและของโลกที่เต็มไปด้วยโบราณสถานสวยงามมากมาย แต่สถานที่แห่งนี้ก็ยังมีมุมที่อีกหลายคนไม่เคยเห็น มาร่วมออกเดินทางไปงมความงดงามของโบราณสถานในยามค่ำคืนใน “หลงรักไทย Lost in Thai Mystery”
อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ยังมีอีกมุมที่หลายคนอาจยังไม่เห็น “หลงรักไทย Lost in Thai Mystery” จึงพาทุกคนร่วมออกเดินทางไปยังพระนครศรีอยุธยาด้วยกัน แต่การเดินทางครั้งนี้อาจต่างไปจากเดิมเล็กน้อย เพราะเป็นการ ไปชมความงามของแสงสีอยุธยาในยามค่ำคืน ที่บรรยากาศนั้นราวกับพาเราหลงไปในอดีต
ที่แรกที่เราจะพามาก็คือ วัดไชยวัฒนาราม วัดเก่าแก่สมัยอยุธยาตอนปลายในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2173 โดยพระเจ้าปราสาททอง กษัตริย์กรุงศรีอยุธยาองค์ที่ 24 ซึ่งวัดนี้ถือเป็นหนึ่งในโบราณสถานที่งดงามที่สุดของอยุธยา และเป็นสถานที่ฝังพระศพของเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร (เจ้าฟ้ากุ้ง) และเจ้าฟ้าสังวาล ที่ต้องพระราชอาญาในรัชสมัยของพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ โดยบรรยากาศภายในวัดแห่งนี้จะเห็นได้ว่ามีผู้คนมากมายทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติต่างเปลี่ยนชุดไทยมาถ่ายภาพในวัด จนให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในยุคกรุงศรีอยุยาเลยก็ว่าได้
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจันทรเกษม หรือ วังจันทรเกษม ก็เป็นอีกสถานที่ที่ห้ามพลาดหสกเมื่อมีการเปิดให้เข้าชมในเวลากลางคืน โดยตามประวัติวัดแห่งนี้สร้างในสมัยสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราชประมาณ พ.ศ.2120 เพื่อให้เป็นที่ประทับของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และเคยใช้เป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์หลายพระองค์ แต่เมื่อคราวเสียกรุงครั้งที่2 ได้ถูกเผาทำลายเสียหาย และถูกทิ้งร้าง จนถึงสมัยรัชกาลที่ 4 ได้โปรดเกล้าฯ ให้ซ่อมแซม ไว้เป็นที่ประทับเมื่อเสด็จประพาสพระนครศรีอยุธยาและพระราชทานนามว่า “พระราชวังจันทรเกษม”
วัดพระราม หนึ่งในวัดสวย ที่มีความงดงามด้วยศิลปะแบบอยุธยาในสมัยตอนต้น โดยพระปรางค์ประธานนั้น จะเป็นทรงฝักข้าวโพดที่ได้รับอิทธิพลมาจากศิลปะแบบละโว้ ข้างๆยังมีบึงพระราม บึงน้ำขนาดใหญ่ และเป็นที่สัญจรในสมัยโบราณตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี
วัดมหาธาตุ เป็นอีกวัดที่มีความงดงามอย่างยิ่ง โดยเศียรพระพุทธรูปหินทราย เศียรพระที่มีรากไม้ต้นโพธิ์ปกคลุมอยู่ ที่ถือเป็น Unseen ระดับโลก จนถึงขนาดยูเนสโก้ นำภาพถ่ายไปประดับไว้ที่สำนักงานใหญ่ ในกรุงปารีส จนกลายเป็นสิ่งมหัศจรรย์อีกสิ่งหนึ่งของพระนครศรีอยุธยา และเป็นแลนด์มาร์กที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกต้องมาชม
ใกล้ๆกันนั้นยังมี วัดราชบูรณะ หนึ่งในวัดที่ใหญ่และมีความเก่าแก่มากที่สุดในอยุธยา ที่เคยมีเรื่อเล่าว่า ครั้งหนึ่งเคยถูกกลุ่มคนร้าย ลักลอบขุดกรุภายในพระปรางค์ประธานชิงทรัพย์สมบัติหลบหนีไปจนคิดว่าไม่มีสมบัติหลงเหลืออยู่แล้ว แต่เวลาต่อมาเมื่อ กรมศิลปากรก็ได้ทำการบูรณะ กลับพบสมบัติอีกจำนวนมากหลงเหลืออยู่ จึงมีการนำไปเก็บภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ
ทั้งนี้ การเที่ยวเมืองเก่าอย่างอยุธยาในตอนกลางคืนกับตอนกลางวันก็ให้ความรู้สึกที่แตกต่างกัน เพราะหากได้มากลางคืนก็จะทำให้เราได้เห็นอีกมุมมองแปลกตาที่เรายังไม่เคยเห็นมาก่อน มา“หลงรักไทย Lost In Thai Mystery” ไปด้วยกัน