บริษัท เทิร์นคีย์ คอมมูนิเคชั่น เซอร์วิส จำกัด ( มหาชน ) หรือ TKC เปิดตัวบริการใหม่ภายใต้ชื่อ "ThaiCA" ซึ่งเป็นบริการที่ส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐานด้านความมั่นคงปลอดภัยและความเชื่อมั่นในการทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศไทย เป็นการตอบโจทย์การใช้งานทั้งในภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไปในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล
สำหรับแนวคิดหลักของ ThaiCA เป็นการมุ่งเน้นสร้างรากฐานความน่าเชื่อถือ และความปลอดภัยในการทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะเป็นระหว่างประชาชนกับหน่วยงานรัฐ หรือระหว่างองค์กรธุรกิจด้วยกัน ที่ลงนามในสัญญามูลค่าสูงระหว่างภาคธุรกิจ
"ThaiCA" ใช้สำหรับการออกใบรับรองดิจิทัลให้กับบุคคลทั่วไป องค์กร หรือพนักงานองค์กร เวลามีการลงนามตรวจเอกสารออนไลน์ เพื่อยืนยันว่าเป็นบุคคลนั้น ๆ จริง ใช้งานคู่กับระบบลายเซ็นดิจิทัล ( Digital Signing Software ) เป็นบริการที่พัฒนาขึ้นเพื่อสนับสนุนกระบวนการยืนยันตัวตน และตรวจสอบความถูกต้องของเอกสาร สร้างความเชื่อมั่นในธุรกรรมสำคัญ ซึ่งออกแบบให้สอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องและมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล ให้ผู้ใช้งานสามารถดำเนินการได้อย่างมั่นใจ ปลอดภัย และถูกต้องครบถ้วน ป้องกันการปลอมแปลงลายเซ็น ป้องกันบุคคลที่สามที่เข้ามาโดยไม่สุจริต
นายปิยะ จิราภาพงศา รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เทิร์นคีย์ ฯ กล่าวว่า ThaiCA คล้ายกับการออกบัตรประชาชนให้ไปยืนยันตัวตนเวลาทำธุรกรรม แต่เมื่อมาอยู่บนออนไลน์จึงเป็นรูปแบบดิจิทัล ถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างมาตรฐานใหม่ให้แก่ธุรกรรมดิจิทัลของไทย
กรอบการทำงานของ ThaiCA เป็นการออกใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์โดยตรง มีความน่าเชื่อถือและมีความปลอดภัย ซึ่งการให้บริการออกใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ของ ThaiCA แบ่งได้ 3ประเภทหลัก ได้แก่
1.ใบรับรองสำหรับบุคคล ( Personal Certificate) เพื่อเสริมสร้างศักยภาพให้บุคคลมีตัวตนดิจิทัลที่ปลอดภัยและตรวจสอบได้
2.ใบรับรองนิติบุคคล ( Enterprise Certificate )เพื่อรับรองตัวตนขององค์กรและหน่วยงานภาครัฐ
3.ใบรับรองสำหรับบุคลากรในองค์กร (Enterprise User Certificate ) เพื่อให้พนักงานขององค์กรสามารถลงนามในเอกสารในนามขององค์กรได้อย่างปลอดภัย
การออกใบรับรองของ ThaiCA สอดคล้องกับพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศไทยและมาตรฐานเทคโนโลยีสากล เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าการเซ็นใบรับรองทางดิจิทัล มีความปลอดภัยสูง และมีผลผูกผันทางกฎหมาย ไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบได้
นายปิยะ กล่าวอีกว่า จากการสำรวจตลาดสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA ) พบว่าปี 2567 ที่ผ่านมา ตลาดการออกใบรับรองดิจิทัลมีมูลค่ากว่า 140 ล้านบาท และจะเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ โดยความต้องการของภาครัฐในเรื่องนี้ปีละ 4 ล้านคน เพราะฉะนั้นทั้งภาครัฐและพนักงานภาครัฐจึงเป็นตลาดที่ใหญ่มาก มีการคาดการณ์ว่าในอีก 3 ปีข้างหน้า( พ.ศ.2569- 2571 ) มูลค่าตลาดจะสูงถึง 400 - 500 ล้านบาท เพราะปัจจุบันโตปีละ 700% แล้ว สำหรับส่วนแบ่งตลาดของ TKC ปีแรก ตั้งเป้ากว่า 30%
"TKC เชื่อมั่นว่า ThaiCA ไม่เพียงเป็นระบบเทคโนโลยี แต่ยังเป็นความไว้วางใจที่จับต้องได้ จะเป็นก้าวสำคัญของประเทศไทยในการวางรากฐาน Digital Trust ที่แข็งแกร่งช่วยเสริมความมั่นคงทางเศรษฐกิจ เพิ่มศักยภาพการแข่งขัน และสร้างความโปร่งใสในทุกระดับของธุรกิจยุคดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคธุรกิจเอกชน หรือประชาชนทั่วไปเพื่อผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นสังคมดิจิทัลที่มีความเชื่อมั่นและยั่งยืนในระยะยาว" นายปิยะ กล่าว
ด้านนายเอกพล พรหมรัตนพงษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายความปลอดภัยสาธารณะ บริษัท TKC กล่าวเพิ่มเติมว่า การให้บริการมี 2 รูปแบบ โดยปีแรกจะเป็นแบบบีทูบี คือระหว่างองค์กรกับองค์กร ส่วนปีถัดไปจะเปิดให้ประชาชนทั่วไปสามารถซื้อใบรับรองผ่านเว็บไซต์ได้ ใบรับรองนี้สามารถนำไปใช้การรับรอง e-Receipt ใบเสร็จรับเงิน หรือ e-Tax Invoice ใบกำกับภาษี ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ที่มีการจัดทำและลงลายมือชื่อโดยใช้ใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ได้ ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนเจรจากับกรมสรรพากร