X

คลินิกเสริมความงาม ปลอดภัยพร้อมเข้าไปอัพหน้าได้หรือยัง?

1 ม.ค. 2513
900 views
ขนาดตัวอักษร


“คุณหมอขา ..ช่วงนี้พี่ไปหาที่คลินิกได้ยังคะ ”  ผมถูกถามแบบนี้บ่อยๆ ตั้งแต่รัฐบาลยังไม่ให้เปิดคลินิกจนถึงปัจจุบัน วันนี้บอกได้เลยครับ ออกบ้านตรงไปที่คลินิกที่หมายตาไว้ได้เลยครับ ไม่มีอะไรน่าห่วง หากปฏิบัติตามข้อแนะนำที่กำหนดไว้



คลินิกความงามเปิดได้หรือยัง ?

สำหรับสาวๆ ที่นิยมไปคลินิกความงามเป็นประจำ ไม่ว่าจะไปฉีดโบ ไปฉีดฟิลเลอร์ ไปทำเลเซอร์ หรือ แม้จะไปทำเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เช่นการกดสิว การที่คลินิกความงามปิดไปเกือบ 3 เดือน ย่อมได้รับผลกระทบ (กับความสวย) ไม่มากก็น้อย และคงอยากให้เปิดเร็วๆ นะครับ

จริงๆ รัฐบาล อนุญาตให้คลินิกความงามเปิดบริการได้ตั้งแต่วันที่ 17 พฤษภาคมแล้ว  ให้ทำอะไรก็ได้ตั้งแต่คอลงไปยกเว้นใบหน้า นั่นหมายถึงว่ารับอนุญาตให้ทำนมได้แต่กดสิวไม่ได้นะครับ 555

หลายคนอาจสงสัยกดสิวเสี่ยงมากกว่าทำนมตรงไหน ฟังดูแล้วไม่สมเหตุสมผล 

ทำไมถึงมีข้อจำกัดเรื่องทำหน้าในคลีนิกความงาม

ความจริงเบื้องหลังก็คือ รัฐอยากให้มีการสวมใส่แมสก์ตลอดเวลาในการใช้บริการสถานบริการทุกแห่งเพื่อลดการระบาด เพราะไวรัสกระจายผ่านละอองฝอย ที่อาจจะออกมาจากการจาม ไอ หรือพูดคุยตะโกนเสียงดัง 

ดังนั้นจะทำหน้าทั้งที ยังใส่แมสก์อยู่ก็ดูแปลก ..ก็เลยห้ามชั่วคราวเสียเลย พร้อมติดตามดูว่าแต่ละระยะมีคนติดเชื้อเพิ่มขึ้นไหม

การทำอะไรบริเวณใบหน้า ก็มีข้อยกเว้นอยู่บ้างหากจำเป็นจริงๆ เช่น อ้าปากทานอาหารหรือการทำฟัน อันนี้ก็จนปัญญาจะห้ามแต่ก็ขอความร่วมมือเรื่องอื่นๆ แทนเช่นร้านอาหารก็นั่งห่างแทน  มาด้วยกันพ่อแม่ลูกก็ต้องแยกนั่ง ส่วนการทำฟันนี่ออกจะเสี่ยงสูงอยู่ ไม่ใช่แค่คนไข้แหยงคลินิก หมอฟันเองก็สองจิตสองใจ จะเปิดคลินิกดีมั้ย เพราะละอองฝอยจากปาก ออกมากระเด็นใส่หมอเต็มๆ คนที่เสี่ยงคือหมอฟัน


คลินิกความงามเสี่ยงจริงไหม? 

ในส่วนของคลินิกความงาม ส่วนตัวคิดว่ามันมีมาตรฐานการทำงานอยู่ เพราะทุกแห่งขึ้นทะเบียนเป็นคลินิกเวชกรรม ถูกตรวจสอบจากกระทรวงสาธารณสุข มีเกณฑ์การเปิดที่มาตรฐานทั่วประเทศ  อีกทั้งทุกแห่งจะตกแต่งอย่างหรูหรา สะอาด เนื่องจากแข่งกันบริการ ใครสกปรกนี่ โดนรีวิวที ทัวร์ลง ไม่ได้เกิดเลยหล่ะ

นี่ยังไม่นับว่าปิดไปกว่า 70 วัน หากยังมีเชื้อกระจายอยู่ก็คงไม่สามารถเกาะอยู่บนผิว ผนัง อุปกรณ์ใดๆ ได้นานขนาดนั้นแล้วครับ

ที่สำคัญ ยังไม่เคยมีรายงานในโลกว่ามีการระบาด ที่เกิดขึ้นในสถานพยาบาลระดับคลินิก ที่คนมาใช้บริการส่วนใหญ่ ไม่ใช่คนป่วย หรือผู้สูงอายุที่นอนติดเตียงแบบ nursing home ทั่วไป


New Normal ของคลินิกความงาม

ในอดีตอาจะเห็นคนไปแออัด รอฉีดหน้าในคลินิกดังๆ กัน และภาพคนไข้เต็มคลินิกเป็นภาพที่แต่ละแห่งชอบนำมาอวดลงโซเชี่ยล  ต่อไปนี้คงไม่มีอีกแล้ว นอกจากจะต้องมีการคัดกรองด้วยแบบสอบถาม วัดไข้ ล้างมือ ใส่แมสก์แล้ว เราจะพบเห็นคุณหมอ เจ้าหน้าที่ทุกคนใส่ face shield เพิ่มเติมขึ้นมาด้วย  ระบบแอร์ที่ต้องทำใหม่ การล้างพ่นทำความสะอาดชนิดกลิ่นหอมแบบสปาที่เคยมีก้อาจจะต้องทดแทนด้วยกลิ่น Dettol  รวมทั้งมาตรการณ์ฉีดหน้าทีละซีกโดยปิดปากไว้ก่อนก็อาจจะตามมา รวมถึงคนไข้ที่จะอยู่ไม่เกินสองชั่วโมง

ดังนั้น หากอยากใช้บริการ ผมแนะนำว่าไปเถอะ ปลอดภัยมากแล้วครับ เลือกคลินิกที่แสดงให้เห็นถึงมาตรการป้องกันที่ดีและไม่มีคนพลุกพล่านมาก เดินทางสะดวก ในวันที่เขียนบทความนี้ รัฐบาลเองอนุญาตให้ทำการรักษาบริเวณใบหน้าได้แล้ว แต่ก็ขอความร่วมมือเรื่องการใส่แมสก์ตลอดเวลาเพื่อป้องกันการไอ จาม ออกมา และไม่ควรอยู่นานเกินสองชั่วโมง เพราะยังห่วงเรื่องอากาศปิดไม่ระบายออกบ้านไปทำสวยสร้างความมั่นใจกันได้เลยครับ 




บทความ โดย นพ.สุทธิพงษ์ ตรีรัตน์   
แพทย์ผู้คร่ำหวอดจากวงการความงามมานานกว่า  20 ปี 
ที่อยากถ่ายทอดความรู้ทางการแพทย์ในแบบง่าย ๆ
หากมีคำถามสามารถติดต่อได้ที่อีเมล suthipong@rattinan.com  หรือเว็บไซต์ www.rattinan.com  
Terms of Service © 2018 MCOT.net All rights reserved นโยบายข้อมูลส่วนบุคคล