X
ใช้ IoT เป็นจมูกตรวจจับไฟป่า วช.หนุนวิจัย

ใช้ IoT เป็นจมูกตรวจจับไฟป่า วช.หนุนวิจัย "ระบบเฝ้าระวังไฟป่าอัจฉริยะ"

25 พ.ค. 2566
2300 views
ขนาดตัวอักษร

25 ..66 - วชหนุน .ศิลปากร วิจัยคิดค้นจมูกรับกลิ่นควันไฟ ด้วย "ระบบเฝ้าระวังไฟป่าอัจฉริยะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดไฟป่าด้วย IoT


สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) โดย ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ มอบหมายให้กลุ่มสารนิเทศและประชาสัมพันธ์ เยี่ยมชมผลสำเร็จของกิจกรรมส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัยและนวัตกรรม โครงการการพัฒนาและถ่ายทอดองค์ความรู้ระบบเฝ้าระวังไฟป่าอัจฉริยะ” โดยมี รศ.ดร.ปานใจ ธารทัศนวงศ์ และคณะ แห่งมหาวิทยาลัยศิลปากร ดำเนินโครงการฯ  ชุมชนดอยช้างป่าแป๋ .ป่าพลู .บ้านโฮ่ง และสถานีควบคุมไฟป่าแม่ปิงอุทยานแห่งชาติแม่ปิง .ลี้ .ลำพูน

รศ.ดร.ปานใจ ธารทัศนวงศ์ แห่งมหาวิทยาลัยศิลปากร หัวหน้าโครงการฯ กล่าวว่า จากปัญหาไฟป่าในปัจจุบันได้ส่งผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพของประชาชน การใช้เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตประสานสรรพสิ่ง (Internet of Things : IoT) และเซ็นเซอร์วัดการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อม เพื่อพัฒนาระบบข้อมูลมหัต ร่วมกับเทคนิคเหมืองข้อมูลในการวิเคราะห์และสร้างแบบจำลองของการเกิดไฟป่า รวมถึงความเสี่ยงในการเกิดไฟป่า และสามารถเตือนภัยการเกิดไฟป่าได้จริง 


ดังนั้น คณะนักวิจัยจึงได้จัดทำโครงการ “การพัฒนาและถ่ายทอดองค์ความรู้ระบบเฝ้าระวังไฟป่าอัจฉริยะ” ซึ่งได้รับการสนับสนุนทุนจาก วชภายใต้โครงการจัดการความรู้การวิจัยเพื่อการใช้ประโยชน์เชิงความมั่นคง ในการดำเนินงานคณะผู้วิจัยได้ศึกษาสภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศในพื้นที่วิจัย เพื่อทำการติดตั้งต้นแบบการเฝ้าระวังการเกิดไฟป่าบริเวณแนวกันไฟ เปรียบเสมือน "จมูกในการรับกลิ่นควันไฟก่อนจะเกิดไฟไหม้ป่าในวงกว้าง โดยทำการติดตั้งโหนดเซ็นเซอร์พร้อมระบบพลังงานแสงอาทิตย์ จำนวน 9 ชุด ด้วยเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตประสานสรรพสิ่ง (IoT) จากแพลตฟอร์ม CANARIN และ เครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G/4G เพื่อรับ-ส่งข้อมูลจากอุปกรณ์ไปยังศูนย์เฝ้าระวังไฟป่าซึ่งเป็นระบบ Cloud ที่สามารถให้ชุมชนและเจ้าหน้าที่จากสถานีควบคุมไฟป่าสามารถวิเคราะห์สถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลาโดยใช้ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์และแสดงผลในแผนที่บนแพลตฟอร์ม CANARIN อีกทั้งพัฒนาแบบจำลองที่เหมาะสมกับบริบทของพื้นที่ที่ทำการวิจัย รวมทั้งปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการเฝ้าระวังไฟป่า และมีการพัฒนาในส่วนการแจ้งเตือนไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องและชุมชน เพื่อที่จะได้ทำการดับไฟได้อย่างทันท่วงทีโดยใช้แอปพลิเคชันไลน์บนโทรศัพท์เคลื่อนที่และทางอินเทอร์เน็ต


นอกจากนี้ ยังได้บูรณาการและสร้างเครือข่ายในการเฝ้าระวังไฟป่ากับโครงการวิจัยอื่นที่เกี่ยวข้อง อาทิ โครงการSTIC-ASIA: SEA-HAZEMON (Low-cost Real-time Monitoring of Haze Air Quality Disasters in Rural Communities in Thailand and Southeast Asia) และโครงการ SEA-HAZEMON@TEIN โดยติดตามคุณภาพอากาศในประเทศไทย ลาว ฟิลิปปินส์ และอินโดนิเชีย ปัจจุบันมีการติดตั้งโหนดเซ็นเซอร์ไปแล้วประมาณ 100 แห่งซึ่งการทำงานของโหนดเซ็นเซอร์ทั้งหมดของทุกโครงการจะสามารถบูรณาการข้อมูลกันได้ผ่านระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ในแพลตฟอร์ม CANARIN ซึ่งการบูรณาการครั้งนี้จะทำให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลการเกิดไฟป่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากมีหลายปัจจัยที่ทำให้ไฟป่าลุกลามเป็นบริเวณกว้าง รวมถึงการเกิดไฟป่าในประเทศเพื่อนบ้าน 


จากความสำเร็จของโครงการฯ คณะนักวิจัยได้ถ่ายทอดองค์ความรู้ในการใช้และบำรุงรักษาระบบแก่บุคลากรของสถานีควบคุมไฟป่า ตลอดจนชุมชนโดยรอบ เพื่อให้มีส่วนร่วมในการเฝ้าระวังไฟป่าและการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้โดยใช้การสัมมนาเชิงปฏิบัติการเพื่อถ่ายทอดความรู้ให้ผู้เกี่ยวข้อง อบรมการใช้ระบบเฝ้าระวังไฟป่าอัจฉริยะ และจัดทำสื่อการสอนดิจิทัล (e-Learning) ทั้งนี้ ระหว่างการดำเนินงานของคณะนักวิจัยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี จากชุมชนดอยช้างป่าแป๋ .บ้านโฮ่ง .ลำพูนสถานีควบคุมไฟป่าบ้านโฮ่ง-ลำพูนสถานีควบคุมไฟป่าผาเมือง-ลำพูนสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 (เชียงใหม่และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลำพูน ซึ่งความสำเร็จงานวิจัยนี้ยังสามารถนำไปขยายผลในพื้นที่ป่าอื่น  ได้อีกด้วย 


การลงพื้นที่เยี่ยมชมความสำเร็จของโครงการ “การพัฒนาและถ่ายทอดองค์ความรู้ระบบเฝ้าระวังไฟป่าอัจฉริยะ” ในครั้งนี้ ได้รับเกียรติจากผู้นำชุมชนในพื้นที่ ได้แก่ คุณบัญชา มุแฮ จากชุมชนกะเหรี่ยงดอยช้างป่าแป๋ คุณภัทร์ไพบูลย์เรือนสอน ประธานวิสาหกิจชุมชนกลุ่มกาแฟอราบิก้าจังหวัดลำพูน และคุณวิสาทภรณ์ วาจาหวาน หัวหน้าชุดดับไฟป่าสถานีควบคุมไฟป่าแม่ปิง ได้กล่าวถึงการนำองค์ความรู้ที่ได้รับจากการนำงานวิจัยระบบเฝ้าระวังไฟป่าอัจฉริยะ ซึ่งงานวิจัยนี้ถือเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อส่วนรวม สามารถระบุพิกัดการเกิดไฟป่าได้อย่างแม่นยำ ช่วยให้การควบคุมไฟป่ามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวดเร็วขึ้น แล้วหวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการนี้จะได้รับการต่อยอดให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นไปอีก และสามารถขยายผลในพื้นที่ที่มีปัญหาได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย

อ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ..คิดอย่างไรกับเรื่องนี้ เขียนเลย
Terms of Service © 2025 MCOT.net All rights reserved นโยบายข้อมูลส่วนบุคคล นโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเว็บไซต์ นโยบายเว็บไซต์ของ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)