เสียวแปลบ แสบร้อน หรือ ชาปลายมือ หรือ ปลายเท้า ?!! หากรู้สึก.. คุณ..อาจกำลังป่วยด้วยโรค เส้นประสาทอักเสบ อาจารย์หมอจุฬาฯ ยกงานวิจัยต่างชาติ เตือน!! อาจมาจากพิษของ วิตามิน บี 6 ซึ่งมีทั้งการขาด หรือได้รับมากเกินไป โดยไม่รู้ตัว เช่น ได้รับจากอาหารเสริม, น้ำเกลือแร่, เครื่องดื่มชนิดต่าง ๆ หรือได้รับจากขนม และอาจสับสนอาการป่วย ที่มาจากสาเหตุอื่น ๆ ได้อีก ??
โดย ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อมูลผ่านเฟซบุ๊ก ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha กล่าวถึงพิษภัยจาก วิตามิน บี 6 มากไป เส้นประสาทอักเสบ เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2566 ระบุว่า
หมอทั่วไป โดยเฉพาะหมอทางสมอง และระบบประสาท เริ่มสงสัย สังเกต และจับตามอง ภาวะผิดปกติของเส้นประสาท ที่อธิบายไม่ได้ ทั้งนี้ จากการที่ไม่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง ไม่ได้ผอมแห้งแรงน้อย ขาดอาหาร หรือมีโรคตับ แต่กลับมีอาการทางเส้นประสาท ในลักษณะของชา, แสบร้อน ตามปลายเท้าปลายมือ จนกระทั่ง มีอาการปวดกระดูก จนถึงกล้ามเนื้ออ่อนแรง และในบางราย มีอาการกระตุกของกล้ามเนื้อ การทรงตัวผิดปกติ เดินเซ และ จนกระทั่งมีรายงาน ปัสสาวะบ่อย ทั้งกลางวัน และกลางคืน และในที่สุดปัสสาวะไม่ออก (ขนาดที่ใช้อยู่ที่ 10 มิลลิกรัมต่อวัน เป็นเวลา 3 ปี) และเมื่อหยุดใช้ อาการดีขึ้นตามลำดับ โดยไม่มีสาเหตุอย่างอื่น
และมีรายงานทาง วารสารทางระบบประสาท และศูนย์พิษวิทยา มากขึ้นเรื่อย ๆ นั่นคือ ผลกระทบ หรือ ผลข้างเคียง ที่เกิดขึ้นจากการเสริมวิตามิน บี รวม โดยที่มีปริมาณของ บี 6 ในขนาดสูง โดยที่หมอที่สั่งจ่าย หรือ คนที่กิน อาจจะไม่รู้ตัว เนื่องจากเป็นส่วนผสม ที่อยู่ในวิตามินเกลือแร่ ที่ขายกันทั่วไป และมีการกินหลายยี่ห้อผสมกัน ทั้งนี้ โดยที่ไม่ได้มี คำเตือนถึงผลข้างเคียง ที่อาจจะเกิดขึ้น เนื่องจากในระยะแรก ข้อมูลยังไม่ชัดเจนว่า ควรจะเป็นในขนาดเท่าใด โดยที่ถือว่า เป็นวิตามินที่ละลายน้ำ และสามารถขับถ่ายออกได้
ขนาดของวิตามินรวม ที่มี บี 6 โดยต้องใช้ในปริมาณที่สูงขึ้น ถึงวันละ 10 ถึง 25 มิลลิกรัม เป็นการรักษา (therapeutic dose) ในกรณีที่จำเป็น เช่น เมื่อต้องกินยารักษาวัณโรค isoniazid รวมทั้งเมื่อเกิดผลข้างเคียง จากกินยา isoniazid นี้ จนกระทั่งเกิดมีอาการชักขึ้น และในคนท้อง ที่มีอาการอาเจียนอย่างรุนแรง (hyperemesis gravidarum) และในผู้ป่วย ที่มีภาวะผิดปกติทางโภชนาการ ทำให้มีระดับวิตามินทั้งหลาย ลดลง และเกิดอาการทางระบบประสาท ได้เช่นกัน
นอกจากยา isoniazid ยังมียาอื่น ๆ เช่น cycloserine penicillamine ยาในโรคพาร์กินสัน levodopa ที่ทำให้ระดับของ วิตามินบี 6 ต่ำลง และ บี 6 ยังใช้ในการรักษา ภาวะที่ขาดแมกนีเซียม
สำหรับเหตุผลอื่น ๆ ที่ต้องมีการเสริม วิตามินบี 6 เนื่องจากในคนสูงอายุ โดยเฉพาะที่มีโรคประจำตัว มักได้รับสารอาหารที่มีบี 6 ไม่พอ โดยที่ บี 6 จะอยู่ในเนื้อสัตว์, ตับ, ปลา, ถั่ว และถั่วเลนทิล ทั้งนี้ อาหารที่ผ่านกระบวนการต่าง ๆ มีการเก็บนาน และหุงต้ม จะทำให้ปริมาณ บี 6 ลดลงไป 10 ถึง 50%
อาการของการขาด จะเหมือนกับที่ได้ วิตามินบี 6 มากเกินไป จนอาจทำให้สับสนว่า เกิดจากอะไรกันแน่ ซึ่งอาจจะต้องมี การเจาะระดับของวิตามิน ในเลือดร่วมด้วย พร้อมกับพิจารณาสาเหตุอย่างอื่นประกอบ เช่น อาการทางระบบประสาท โดยเฉพาะที่มีอาการชาเจ็บแสบนั้น เกิดจากเบาหวาน ต่อมไธรอยด์ ทำงานน้อย ติดเชื้อเอชไอวี ติดเชื้อแบคทีเรียบางชนิด จนกระทั่งถึงซิฟิลิส โรคภูมิคุ้มกันแปรปรวน โรคที่มีการสร้าง โปรตีนจากไขกระดูกผิดปกติ (monoclonal gammopathy) มะเร็งต่อมน้ำเหลือง และพิษของยา รวมยาเคมีบำบัด ที่ใช้รักษามะเร็ง พิษโลหะหนัก สารเคมีฆ่าแมลง organophosphorus
+ ขนาดตามปกติ ของวิตามินบี 6 ที่ร่างกายต้องการต่อวัน อยู่ที่ 0.5 ถึง 1 มิลลิกรัม
+ ในเด็ก และในวัยรุ่น และผู้ใหญ่ อยู่ที่ขนาด 1.3 มิลลิกรัม
+ ในผู้ชาย อายุมากกว่า 50 ปี ขนาด 1.7 มิลลิกรัม แต่ในผู้หญิงที่อายุเกิน 50 ปีนั้น อยู่ที่ขนาด 0.5 มิลลิกรัม
+ ทั่วไปนั้น เพื่อไม่ให้ยุ่งยาก สำหรับผู้ใหญ่ ผู้หญิง หรือผู้ชาย ขนาดโดยรวมอยู่ที่ 1.9 มิลลิกรัมต่อวัน
+ สำหรับในคนที่สูงอายุจริง ๆ ปริมาณจะสูงขึ้นได้ แต่ไม่ควรเกิน 10 มิลลิกรัมต่อวัน
กลไกการเกิดพิษของ วิตามินบี 6 ยังขึ้นอยู่กับปริมาณ และระยะเวลาที่กิน โดยเป็นไปได้ว่า มีการยับยั้งเอนไซม์ pyridoxal-5-phosphate dependent enzymes ในหลายประเทศ เช่น ประเทศออสเตรเลีย ได้มีการติดตามการใช้ วิตามินบี รวม บี 6 อย่างใกล้ชิด โดยได้ทำการปรับขนาดของวิตามิน บี 6 ในผลิตภัณฑ์ทุกชนิด ลดลงจากวันละ 200 มิลลิกรัม เป็นห้ามเกิน วันละ 100 มิลลิกรัมในผู้ใหญ่ และขนาดลดลงในเด็ก
จนกระทั่งถึง วันที่ 5 สิงหาคม 2022 เช่น จาก 32 ราย ที่มีการรายงาน พบว่า 22 ราย ยืนยันโดยมีระดับในเลือดสูง พร้อมกับมีอาการของ เส้นประสาทอักเสบ และ 21 ราย มีการใช้วิตามิน บี 6 ในขนาดวันละ 50 มิลลิกรัม หรือน้อยกว่า ใน 9 ราย พบว่า มีการใช้ผลิตภัณฑ์หลายชนิดควบรวม ซึ่งแต่ละชนิด มีวิตามินบี 6 อยู่ด้วย
และด้วยผลข้างเคียงดังกล่าว ผลิตภัณฑ์ทุกชนิด ที่มีขนาดของ บี 6 ที่กินเกิน 10 มก. ต่อวัน ต้องมีฉลาก เตือนอย่างชัดเจนถึงอันตราย ที่อาจจะเกิดขึ้นได้จาก เส้นประสาทอักเสบ ตามประกาศในวันที่ 4 ตุลาคม 2022 (Australian Government. Department of Health and Aged Care / Therapeutic Goods Administration)
สำหรับในสหรัฐ การเสริมวิตามิน บี 6 โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ จะอยู่ในขนาดไม่เกิน อาทิตย์ละ 50 ถึง 100 มิลลิกรัม (American Journal of Therapeutics เดือน พ.ย. / ธ.ค. 2022)
ถึงตรงนี้ ไม่ใช่ต้องกลัว วิตามินมากเกินไป ทั้งนี้ เนื่องจากวิตามินเหล่านี้ เป็นสิ่งที่จำเป็น สำหรับร่างกายในการเติบโต และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และอยู่ในอาหาร ที่กินอยู่ทุกวัน โดยต้องกินอาหารสุขภาพให้ครบ แต่ในคนสูงอายุ, คนท้อง หรือ อยู่ในสภาพการที่ไม่ปกติ หรือ ใช้ยาบางอย่างร่วมอยู่ด้วย อาจจำเป็นต้องใช้วิตามินเสริม แต่ต้องดูขนาดที่เหมาะสม และต้องไม่ถึงกับ เสริมมากเกินไป ทั้ง ๆ ที่ไม่มีความจำเป็นใด ๆ ทั้งสิ้น
“สำหรับ บี 6 วันละไม่เกิน 10 มก. ก็พอครับ”
นอกจากนี้ Backbone MCOT มีข้อมูลสุขภาพดี ๆ จากบทความของ เว็บไซต์ คลังข้อมูลยา คณะเภสัชศาสตร์ ม.มหิดล ที่ได้ลงเผยแพร่กล่าวถึงเรื่อง วิตามินบี 6 ที่ได้รับมากเกิน จะทำให้เกิดโรคของประสาทส่วนปลาย (peripheral neuropathy) ซึ่ง Backbone MCOT ขออนุญาตคัดย่อบางช่วงบางตอน มาแนะนำดังนี้
วิตามินบี 6 เป็นวิตามิน ที่ละลายน้ำได้ มีความจำเป็นต่อร่างกาย ทุกช่วงอายุ ในธรรมชาติพบในรูป pyridoxine (หรือ pyridoxol เป็น alcohol), pyridoxamine (เป็น amine) และ pyridoxal (เป็น aldehyde) ในทางยาส่วนใหญ่ ใช้ในรูป pyridoxine hydrochloride เพื่อรักษาปลายประสาทอักเสบเนื่องจาก isoniazid และ ภาวะขาดวิตามินบี 6
วิตามินชนิดนี้ ยังพบในผลิตภัณฑ์ ชนิดให้เสริมอาหาร ประเภทวิตามินรวม และแร่ธาตุ (multivitamin and mineral supplements) ซึ่งมีจำหน่ายหลายผลิตภัณฑ์ จึงเสี่ยงต่อการได้รับวิตามินบี 6 ซ้ำซ้อน
การได้รับมากเกิน อาจเป็นอันตรายต่อ ประสาทส่วนปลาย ทำให้รู้สึก เสียวแปลบ (tingling), แสบร้อน (burning) หรือชา (numbness) มักเกิดที่มือ หรือเท้า หรืออาจเกิดอันตรายต่อ ประสาทส่วนปลายที่อื่น เช่น ที่กระเพาะปัสสาวะ ทำให้เกิดปัญหา ในการขับถ่าย หากได้รับการวินิจฉัยล่าช้า และยังคงบริโภค วิตามินบี 6 มากเกิน อาจทำให้ประสาทส่วนปลาย เสียหายมากขึ้น ในเอกสารที่เป็นข้อมูล ผลิตภัณฑ์วิตามินบี 6 ที่มีขนาดรับประทาน ตั้งแต่ 50 มิลลิกรัมต่อวันขึ้นไป จะมีคำเตือน ถึงการรับประทานในขนาดสูง เป็นเวลานานว่า อาจทำให้เกิดโรคของ ประสาทส่วนปลาย แต่ไม่มีคำเตือนนี้ ในผลิตภัณฑ์ชนิดให้เสริม
บทความ: วิตามินบี 6 ชนิดให้เสริม... อาจได้รับมากเกิน จนเกิดโรคของประสาทส่วนปลาย (peripheral neuropathy)
(อ่านเพิ่มเติม) จาก เว็บไซต์ คลังข้อมูลยา (โดย งานเทคโนโลยีสารสนเทศฯ คณะเภสัชศาสตร์ ม.มหิดล)
https://pharmacy.mahidol.ac.th/dic/news_week_full.php?id=1688
#BackboneMCOT
อ้างอิง และขอบคุณข้อมูล จาก :
เฟซบุ๊ก : ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha
https://www.facebook.com/thiravat.h
ภาพประกอบบทความ : เว็บไซต์ วิกิพีเดีย
https://commons.wikimedia.org
10 มี.ค. 2566
6470 views
ขนาดตัวอักษร
อ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ..คิดอย่างไรกับเรื่องนี้ เขียนเลย