X
นุดใจดี ร่วมช่วย.. ลูกนางอาย ..ส่งคืนธรรมชาติ

นุดใจดี ร่วมช่วย.. ลูกนางอาย ..ส่งคืนธรรมชาติ

20 เม.ย 2565
1190 views
ขนาดตัวอักษร

สายตา.. น้อง(อาย) ..ดูกังวลมาก แต่หมดห่วงได้เลยนะ พี่ ๆ เจ้าหน้าที่ใจดี จากเขตห้ามล่า​สัตว์ป่าลำปาว จ.กาฬสินธุ์ ที่ได้รับแจ้ง ต่างเร่งรุดมาช่วยแล้ว น้องเป็น​ "ลูกนางอาย"​ ที่พลัดหลงจากแม่ พี่ ๆ เตรียมนำไปปล่อยคืนธรรมชาติ

โดยเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2565 เว็บไซต์ฝ่ายข่าวประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้เผยแพร่ข้อมูลถึง เขตห้ามล่า​สัตว์ป่าลำปาว จ.กาฬสินธุ์ เข้าช่วยเหลือ​ "ลูกนางอาย"​ พลัดหลงเตรียมปล่อยคืนธรรมชาติ ว่า



นายสมพงษ์ จันทวายศ หัวหน้าเขต​ห้าม​ล่าสัตว์​ป่าเขา​ลำปาว เปิดเผย​ว่า เจ้าหน้าที่​ฝ่ายสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า เขต​ห้าม​ล่าสัตว์​ป่าเขา​ลำปาว ได้รับแจ้งจาก สายด่วนพิทักษ์ป่า 1362 พบสัตว์ป่าพลัดหลง เป็นนางอาย เพศผู้ จำนวน 1 ตัว โดยผู้แจ้ง คือ พระสุขะโต บริเวณวัดป่าบ้านโจด ตำบลนาทัน อำเภอคำม่วง จังหวัดกาฬสินธุ์ และเจ้าหน้าที่ ได้ไปรับนางอายตัวดังกล่าว นำไปส่งมอบให้ สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าธวัชบุรี อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อดูแล และปล่อยคืนสู่ธรรมชาติต่อไป



นางอาย หรือ ลิงลม หรือ ลิงจุ่น เป็นสกุลของ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สกุลหนึ่งในวงศ์ Lorisidae ในอันดับไพรเมต (Primates) ใช้ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Nycticebus สถานะในปัจจุบัน อยู่ในสถานะที่ใกล้สูญพันธุ์

นางอาย มีรูปร่างโดยรวม คือ มีขนนุ่มสั้น เหมือนกำมะหยี่ ลำตัวป้อมกลมอ้วน รูปร่างหน้าตาน่ารัก เหมือนตุ๊กตา มีตากลมโต สีขนมีความหลากหลาย แตกต่างกัน ตามสภาพพื้นที่ที่อยู่อาศัย และแต่ละชนิด บางชนิด จะมีรอยขีด คาดตามใบหน้า ส่วนหัว ดวงตา และเส้นกลางหลัง อันเป็นลักษณะสำคัญในการแบ่งแยกชนิด มีส่วนหางที่สั้นมาก จนดูเหมือนไม่มีหาง น้ำหนักเมื่อโตเต็มที่ ประมาณ 1 กิโลกรัม



นอกจากนี้แล้ว ลิงลมยังเป็นสัตว์ที่มีลิ้น 2 ลิ้น คือ ลิ้นสั้น กับ ลิ้นยาว ใช้ประโยชน์ในการกินอาหาร แตกต่างกัน รวมถึงมีกระดูกสันหลัง ที่มีลักษณะพิเศษ สามารถบิดตัวได้คล้ายงูอีกด้วย จึงใช้ในการปีนป่ายต้นไม้ ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งสภาพของขน และสียังสามารถแฝงตัว ให้กลมกลืนกับธรรมชาติได้ด้วย เป็นสัตว์ป่า​คุ้มครอง​ตาม​ พระราช​บัญญัติ​สงวน ​และ​คุ้มครอง​สัตว์ป่า​ พ.ศ. 2562 ห้ามมีไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต





แม้ว่า หน้าตาของน้อง.. จะดูน่ารัก แต่ก็ไม่ควรนำมาเลี้ยง.. เพราะนอกจาก จะผิดกฎหมายแล้ว ยังกลายเป็นคน ที่ไปส่งเสริมคนไม่ดี ให้ไปทารุณน้อง ๆ ซึ่ง Backbone MCOT มีภาพน่ารัก ๆ ของน้อง ๆ ลิงลม หรือ นางอาย หรือ ลิงจุ่น จาก... กลุ่มงานวิจัยสัตว์ป่า Wildlife Research Division ที่ได้โพสต์เฟซบุ๊ก เพื่อรณรงค์ หยุดล่า หยุดซื้อขาย หยุดครอบครอง ลิงลม หรือ นางอาย โดยระบุว่า

หยุดล่าซื้อขายครอบครอง ลิงลม

เลี้ยง = ผิดกฎหมาย

ลิงลม หรือ นางอาย

เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองประเภท สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ลำดับที่ 151 ตามพระราชบัญญัติสงวน และคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 และบัญชีชนิดอนุสัญญาว่าด้วย การค้าระหว่างประเทศ ซึ่งชนิดสัตว์ป่า และพืชป่า ที่ใกล้สูญพันธุ์ (cites) ในบัญชีหมายเลข 2 อีกด้วย

ปัจจุบัน IUCN Red List จัดลิงลม อยู่ในสถานะสิ่งมีชีวิต ที่เกือบอยู่ในข่ายใกล้การสูญพันธุ์ (VU - Vulnerable species) - ระดับความเสี่ยงขั้นอันตราย ต่อความเป็นอันตราย จากการสูญพันธุ์ จากที่อาศัยตามธรรมชาติ

ด้วยความน่ารัก จึงมักถูกกระบวนค้าสัตว์ป่า จับไปขายเป็นสัตว์เลี้ยง โดยผู้ขาย หรือ ผู้เลี้ยง มักจะตัดเขี้ยว หรือ ฟันหน้าออก ทั้งซี่บนและล่าง โดยที่เหลือรากฟันอยู่ เพื่อมิให้ถูกกัด ซึ่งลิงลมบางตัว อาจจะติดเชื้อ จากขั้นตอนนี้ ทำให้ตายได้
 
ลิงลม หรือ นางอาย ที่เป็นสัตว์ประจำถิ่นในบ้านเรา ถูกจัดเป็นสัตว์ป่า ที่มีการลักลอบขายกันมาก เป็นอันดับต้น ๆ และในขณะที่ลิงลมบางชนิด เช่น ลิงลมแคระ ซึ่งไม่ใช่สัตว์ประจำถิ่น ของประเทศไทย ก็ถูกขบวนการลักลอบค้าสัตว์ป่า ขนส่งมาจากประเทศอื่น และนำเข้ามาขาย อย่างผิดกฎหมายในบ้านเรา เป็นจำนวนมากเช่นกัน



สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าลำปาว มีดังนี้

เขตห้ามล่าสัตว์ป่าลำปาว จังหวัดกาฬสินธุ์ มีสำนักงานตั้งอยู่บริเวณ แหลมโนนวิเศษ ในท้องที่ ตำบลโนนบุรี อำเภอสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ (พิกัดแผนที่ 373484)

มีหน่วยพิทักษ์ป่า 1 หน่วย คือ หน่วยพิทักษ์ป่านาโก ตั้งอยู่ท้องที่บ้านนาโก ตำบลเสาเล้า อำเภอหนองกุงศรี จังหวัดกาฬสินธุ์ พิกัดแผนที่ 258397
เขตห้ามล่าสัตว์ป่าลำปาว มีเนื้อที่ 210,938 ไร่ มีอาณาเขตบริเวณอยู่ในท้องที่ตำบลลำปาว อำเภอเมืองกาฬสินธุ์

ประวัติความเป็นมา (เขตห้ามล่าสัตว์ป่าลำปาว)

เนื่องด้วยในบริเวณพื้นที่ อ่างเก็บน้ำลำปาว มีนกชนิดต่าง ๆ มาอาศัยอยู่อย่างมากมาย และมีการจับ และการล่ากันเป็นจำนวนมาก ในปี พ.ศ. 2525 นายทวี หนูทอง นักวิชาการ กองอนุรักษ์สัตว์ป่า ซึ่งขณะนั้น ดำรงตำแหน่ง หัวหน้าอุทยานสัตว์ป่าลำปาว ได้ทำการสำรวจ และนำเสนอกองอนุรักษ์สัตว์ป่า เพื่อจัดตั้งให้เป็น เขตห้ามล่าสัตว์ป่าลำปาว จนถึงปี พ.ศ. 2531 จึงได้มีการประกาศ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กำหนดให้พื้นที่ อ่างเก็บน้ำลำปาวทั้งหมด เป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่าลำปาว โดยได้ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 105 ตอนที่ 112 ลงวันที่ 16 กรกฎาคม 2531 และได้ดำเนินการอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่เดือนเมษายน พ.ศ. 2532 เป็นต้นมา

ข้อมูลทรัพยากรธรรมชาติ (เขตห้ามล่าสัตว์ป่าลำปาว)

ลักษณะเด่นของพื้นที่ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าลำปาว คือ เป็นเขื่อนเก็บกักน้ำ ที่ใช้ในการชลประทาน และเป็นเขื่อนดิน ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย เป็นพื้นที่ที่ Sensitive ต่อระบบการเกษตร ของเกษตรกร จังหวัดกาฬสินธุ์ จังหวัดมหาสารคาม และจังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งต้องอาศัยน้ำจากเขื่อนลำปาว

ประเภทสัตว์ป่า (เขตห้ามล่าสัตว์ป่าลำปาว)

สัตว์ป่า พื้นน้ำของอ่างเก็บน้ำลำปาว มีนกน้ำ อพยพหนีหนาว มาอาศัยชั่วคราว ในช่วงเดือน ตุลาคม - กุมภาพันธ์ ของทุกปี จากการสำรวจของคณะบัณฑิตอาสา โครงการมิยาซาวา และเจ้าหน้าที่ของเขตฯ เมื่อปี พ.ศ. 2543 พบนกที่โดดเด่น เช่น นกยางโทน, นกกระสานวล, นกยางกรอกพันธุ์จีน, นกเป็ดแดง ฯลฯ นอกจากนี้ ยังมีนกประจำถิ่น และสัตว์ที่อาศัยอยู่ในป่า เช่น นกเขาใหญ่, นกเขาชวา, นกเค้าแมว, กระรอก, แย้ ฯลฯ


อ้างอิง และขอบคุณข้อมูล จาก :

เว็บไซต์ : ฝ่ายข่าวประชาสัมพันธ์ สำนักบริหารงานกลาง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
http://news.dnp.go.th

เว็บไซต์ : กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
http://portal.dnp.go.th/Main

เฟซบุ๊ก : กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
https://www.facebook.com/DNP1362

เฟซบุ๊ก : กลุ่มงานวิจัยสัตว์ป่า Wildlife Research Division
https://www.facebook.com/wrddnp



อ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ..คิดอย่างไรกับเรื่องนี้ เขียนเลย
Terms of Service © 2025 MCOT.net All rights reserved นโยบายข้อมูลส่วนบุคคล นโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเว็บไซต์ นโยบายเว็บไซต์ของ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)