กรมวิชาการเกษตรร่วมกับตำรวจ ปคบ.เตือนเกษตรกรระวังปุ๋ยเคมีปลอมระบาด
หลังพบโกดังเก็บปุ๋ยเคมีปลอมนับ 10 ตัน ในพื้นที่ภาคกลาง
จากสถานการณ์ปัจจุบันปุ๋ยเคมีมีราคาแพงจึงทำให้เกิดกลุ่มมิจฉาชีพนำปุ๋ยเคมีปลอม
มาขายผ่านสื่อออนไลน์ต่างๆในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด ทำให้มีเกษตรกรลวงเชื่อ
เสียเงินซื้อปุ๋ยปลอมมาใช้ กลับกลายเป็นเพิ่มต้นทุนในการเพาะปลูกแต่ไม่เกิดประโยชน์ต่อพืชผล
ส่วนวิธีการตรวจสอบปุ๋ยปลอมที่ได้ผลแน่ชัดนั้นต้องผ่านกระบวนการที่ซับซ้อนทางห้องแลป
กรมวิชาการเกษตร ร่วมมือ ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค
หรือ ตำรวจ ปคบ. จึงแนะนำวิธีการตรวจสอบในเบื้องต้นคือ
1.ตรวจดูภาชนะบรรจุภัณฑ์ ให้เกษตรกรตรวจสอบที่ฉลากสินค้า
เลขทะเบียนปุ๋ย สูตรปุ๋ย สถานที่ผลิต ชื่อการค้า ให้ชัดเจน
2.ให้เลือกซื้อสินค้าจากร้านที่มีที่ตั้งชัดเจนน่าเชื่อถือแต่หากจะเลือกซื้อผ่านสื่อออนไลน์
ร้านค้านั้นต้องมีใบอนุญาตขายปุ๋ยมาแสดงให้ชัดเจน
สำหรับผู้ที่พบเห็นหรือตกเป็นเหยื่อของผู้ผลิตปุ๋ยปลอมสามารถแจ้งพนักงานเจ้าหน้าที่สารวัตรเกษตร
หรือ สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตพื้นที่ ของกรมวิชาการเกษตรและ ตำรวจปคบ.ให้ดำเนินคดีตาม
พ.ร.บ.ปุ๋ย พ.ศ.2518 ใน 2 ข้อหา คือ
1.ผลิตปุ๋ยเพื่อการค้า ซึ่งปุ๋ยปลอม ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงสิบห้าปี
และปรับตั้งแต่สองแสนบาทถึงสองล้านบาท
2.ผลิตปุ๋ยเคมีเพื่อการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต ระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินสองแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
โดยกรมวิชาการเกษตรได้ร่วมกับตำรวจ ปคบ.เพิ่งเข้าทำการตรวจค้นจับกุมโรงงานลักลอบผลิตและค้าปุ๋ยปลอมไปในพื้นที่กลาง 2 จังหวัดได้แก่ จังหวัดสระบุรี และจังหวัดนครสวรรค์ พร้อมยึดของกลางเป็นปุ๋ยปลอม น้ำหนักรวมกันกว่า 10 ตัน