อธิบายเหตุผลความเป็นจริงตามบันทึกคัมภีร์พระไตรปิฎกถึงการเสด็จมาของพระพุทธเจ้าว่าพระพุทธเจ้าองค์ต่อไปจะเสด็จมาเมื่อไหร่เป็นไปได้หรือไม่ที่พระพุทธเจ้าจะเสด็จมาในเวลาปัจจุบันนี้
ความเข้าใจเบื้องต้นถึงลำดับของพระพุทธพระพุทธเจ้าช่วงเวลาปัจจุบันตามความในพระไตรปิฎก เรียกว่า กัปภัทรกัป แปลว่า กัปเจริญ ในกัปนี้ จะมีพระพุทธเจ้ามาบังเกิด 5 พระองค์ อุบัติแล้ว 4 พระองค์ คือ พระกกุสันธะ พระโกนาคมนะ พระกัสสปะ และ พระพุทธเจ้าพระองค์ปัจจุบัน พระโคดม เหลืออีกเพียงพรุ่งเดียวในกัแนี้ พระศรีอริยะเมตเตยยะ หรือ พระศรีอาริย์ หรือพระศรีอารยเมตไตรย
ตามความเชื่อกระแสหลักในพระพุทธศาสนาฝ่ายเถรวาทที่สืบมาจากลังกา ขณะนี้พระศรีอาริย์เกิดเป็นเทพบุตร ประทับอยู่ในสวรรค์ชั้นดุสิต รอเวลามาบังเกิดเมื่อสิ้นพุทธกาลของพระโคดม เมื่อล่วงเวลา 5,000 ปี
เมื่อ ยุคแห่งพระโคตมะ สิ้นสุดลง พระพุทธศาสนาอันตรธานไปแล้ว มนุษย์จัมีอายุน้อยถอยลงโดยลำดับ กระทั่งมีอายุ 10 ปี ในเวลานั้นเมื่อคนมีอายุ 5 ปี จัแต่งงานกัน กาลนั้นจึงเกิด สัตถันตรกัป หรือ สมัยแห่งความพินาศ มนุษย์จับอาวุธขึ้นมาประหัตประหารกัน โดยเห็นกันและกันเป็นสัตว์ เรียกว่า มิคคสัญญี เป็นเวลา 7 วัน จนผืนดินเต็มด้วยซากศพ นองด้วยน้ำเลือด น้ำหนอง คนเหล่าหนึ่งหนีไปอยู่ตามลำพังในซอกเขา พุ่มไม้ เถื่อนถ้ำ ที่วิเวก เมื่อครบ 7 วัน ออกมาพบกัน ชักชวนกันทำการกุศล ด้วยอำนาจการจำศีลภาวนา จึงเกิดฝนตกเป็นเวลา 7 ราตรี พัดเอาซากศพสิ่งปฏิกูลลอยไป
ด้วยผลแห่งทาน ศีล ภาวนาของคนทั้งหลาย โลกจึงกลับเจริญขึ้น เกิดห่าฝนมธุรสตกตลอด 7 วัน เป็นอาหารแก่มนุษย์ ห่าฝนแก้วแหวนเงินทอง ห่าฝนของหอม ห่าฝนชะมด กฤษณา จันทน์จุณ ชำระล้างพื้นแผ่นดิน ให้กลิ่นหอม ห่าฝนข้าวสาร ข้าวเปลือก เลี้ยงชีวิตคน ห่าฝนผ้าผ่อนแพรพรรณ ห่าฝนภาชนะ เครื่องใช้สอย และห่าฝนแก้วมณีทั้งเจ็ด ตกลงทั่วทั้งแผ่นดิน
อายุมนุษย์ จะทวีขึ้นตามลำดับด้วยผลแห่งกุศลกรรม จนอายุยืนถึงอสงไขยหนึ่ง มนุษย์ไม่รู้จักความเจ็บ ความตาย มีความประมาท อายุจึงลดลงเหลือ 80,000 ปี ถึงวาระที่พระศรีอารยเมตไตรยจะเสด็จลงมาโปรดคนทั้งหลาย เป็นช่วงเวลาที่โลกมนุษย์เป็นแดนบรมสุข ด้วยความอุดมสมบูรณ์
พระศรีอาริย์ จึงมาบังเกิดภายหลังพุทธกาลของพระพุทธเจ้าศากยมุนีเนิ่นนาน นับด้วยอสงไขย เป็นเวลานับประมาณไม่ได้ ผู้ปรารถนาจะได้พบ เกิดทันศาสนาของพระศรีอาริย์ มีอยู่เป็นอันมาก
จากคลังข้อมูลความรู้กรมศิลปากรและพระไตรปิฎก