X
ผลไม้ไทย..เฮ ? ขายล่วงหน้า 17 ปท. โกย 2.3 พันล้านบ.

ผลไม้ไทย..เฮ ? ขายล่วงหน้า 17 ปท. โกย 2.3 พันล้านบ.

10 มี.ค. 2566
2030 views
ขนาดตัวอักษร

เพียงไตรมาสแรกของปี 2566 ชาวสวนผลไม้ไทย ...เฮ อีกรอบ ? จุรินทร์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ เผย...จาก 4 กิจกรรมขายผลไม้ปีนี้ ได้ขายล่วงหน้าก่อนฤดู โกอินเตอร์ไปแล้ว 17 ประเทศ สร้างรายได้ให้ไทย โกยเงินอีก 2,300 ล้านบาท ซึ่งเมื่อ ม.ค. - ก.พ. ที่ผ่านมา ส่งออกไปแล้วกว่า 2.82 แสนตัน สร้างเงินเข้าไทย 13,637 ล้านบาท



ข้อมูลจาก เพจเฟซบุ๊ก พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อความเปิดเผย เมื่อวันที่ 8 มี.ค. 2566 ระบุว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดโครงการจับคู่ธุรกิจผลไม้สด แปรรูป และผลิตภัณฑ์เกษตรอื่น ๆ พร้อมด้วย

นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์
พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ที่ปรึกษา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
นายบุณย์ธีร์ พานิชประไพ เลขานุการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ
นายวิศิษฏ์ ลิ้มลือชา รองประธานกรรมการ หอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
นายหวู หลิน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ และ กรรมการ ธนาคารแห่งประเทศจีน (ไทย) จำกัด (มหาชน) (Bank of China)




โดย นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตัวเลขการส่งออก ผลไม้สด และแปรรูปของไทย ดีขึ้นเป็นลำดับ ในปี 2565 ส่งออกผัก ผลไม้สด ผลไม้แปรรูป รวมกันถึง 4.5 ล้านตัน มูลค่า 8.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ (290,000 ล้านบาท) ที่สร้างเงินให้ประเทศ และเดือน ม.ค. - ก.พ. 2566 เราส่งออกผัก ผลไม้สด และแปรรูปไปแล้ว 2.82 แสนตัน สร้างเงินให้ประเทศ 13,637 ล้านบาท เป็นไปตามนโยบาย และยุทธศาสตร์ ที่ตนมอบให้กระทรวงพาณิชย์ ภายใต้วิสัยทัศน์ “เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด” ยุทธศาสตร์ “ตลาดนำการผลิต” และยุทธศาสตร์การตลาด “เชิงรุก และเชิงลึก” ที่มอบหมายให้ ทั้งการรักษาตลาดเดิม และเพิ่มตลาดใหม่ ช่วง 3 - 4 ปี ที่ตนมารับผิดชอบดูแล สามารถรักษาตลาดผลไม้เดิม และเพิ่มตลาดใหม่ได้ อย่างมีศักยภาพในหลายประเทศ เช่น จีน, สหรัฐฯ, ญี่ปุ่น และอีกหลายตลาด ช่วยเกษตรกร ผู้ปลูกผลไม้ ประมาณ 1,040,000 ครัวเรือน ยกระดับราคาผลไม้ ช่วง 4 ปี ดีทุกปีในภาพรวม



นายจุรินทร์ เปิดเผยว่า วันนี้ มี 4 สร้างกิจกรรมหลัก สร้างเงินให้ประเทศทันทีวันนี้ 2,300 ล้านบาท

กิจกรรมที่ 1. ลงนาม MOU ซื้อขายล่วงหน้า 6 คู่ จีน, ญี่ปุ่น และฮ่องกง มูลค่า 1,600 ล้านบาท

กิจกรรมที่ 2. จับคู่เจรจาธุรกิจ คาดว่า ยอดไม่ต่ำกว่า 700 ล้านบาท มีผู้ส่งออก มาในงาน 84 บริษัท และผู้นำเข้า 57 บริษัท จาก 17 ประเทศ เช่น ออสเตรเลีย, จีน, ฮ่องกง, สาธารณรัฐเช็ก, อินเดีย, มาเลเซีย, เมียนมา, ฟิลิปปินส์, รัสเซีย, สิงคโปร์, เกาหลีใต้, สวีเดน, ไต้หวัน, ดูไบ, เวียดนาม, สหราชอาณาจักรอังกฤษ, บังกลาเทศ คาดว่า สามารถเซ็นสัญญาได้ ไม่น้อยกว่า 385 คู่



กิจกรรมที่ 3. การลงนามระหว่าง กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กับ Bank of China จะช่วยอำนวยความสะดวก ผู้นำเข้าจีน หรือ ผู้ส่งออกไทย ในการชำระเงิน ทั้งลูกค้าไทย และจีน มากขึ้น ด้วยเงื่อนไขผ่อนปรน

กิจกรรมที่ 4. กระทรวงพาณิชย์ จะเปิดตัวแบรนด์ไทย ให้กับผลไม้ และ ผลิตภัณฑ์ผลไม้แปรรูปของไทย ในตลาดโลกต่อไป โดยการทำสื่อโฆษณา หลากหลายรูปแบบ  และ จะยังมีอีก 34 กิจกรรม ที่เตรียมไว้ทั่วโลก สำหรับการประชาสัมพันธ์โฆษณา ผลไม้ไทย และทำให้ส่งออก นำเงินสร้างเงินให้ประเทศไทยต่อไป ผ่านผลิตภัณฑ์ผลไม้ไทย อีกหลายประเทศทั่วโลก



ข้อมูลจาก กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ระบุว่า โครงการจับคู่ธุรกิจ สินค้าผลไม้สด แปรรูป และผลิตภัณฑ์เกษตรอื่น ๆ ได้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 5 โดยปีนี้ (2566) เป็นครั้งแรก ที่กลับมาจัดกิจกรรม แบบสถานที่จริง (On-Site) หลังจัดในรูปแบบออนไลน์มาถึง 2 ปี ในช่วงการระบาดของโควิด ได้บูรณาการความร่วมมือ จากหลายฝ่ายทั้งภาครัฐ เอกชน และเกษตรกร รวมถึงพาณิชย์จังหวัด และทูตพาณิชย์ในต่างประเทศ ร่วมเป็นทัพหน้า ในการทำการตลาดเชิงรุก เพื่อสนับสนุน ให้เกษตรกร ผู้ค้า ผู้ส่งออกไทย ได้ระบายสินค้าผลไม้สด แปรรูป และผลิตภัณฑ์เกษตร เพิ่มโอกาสทางการค้า พร้อมสร้างชื่อเสียง ให้สินค้าผลไม้ไทย และแสดงความก้าวหน้า ในการพัฒนา ผลิตภัณฑ์แปรรูปของไทย ให้เป็นที่ยอมรับ ในระดับสากล ตามนโยบายของ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์


#BackboneMCOT
อ้างอิง และขอบคุณข้อมูล จาก :

เฟซบุ๊ก : Democrat Party, Thailand พรรคประชาธิปัตย์
https://www.facebook.com/DemocratPartyTH



อ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ..คิดอย่างไรกับเรื่องนี้ เขียนเลย
Terms of Service © 2025 MCOT.net All rights reserved นโยบายข้อมูลส่วนบุคคล นโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเว็บไซต์ นโยบายเว็บไซต์ของ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)