4 ธ.ค.66 - “สมศักดิ์-พรหมินทร์” นั่งหัวโต๊ะ ฟังข้อเสนอภาคเอกชน พัฒนากลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ขอช่วยยกระดับการท่องเที่ยว ไปสู่ระดับนานาชาติ โดยใช้ Soft Power เตรียมชงเข้าครม.สัญจร วันนี้
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหารือบูรณาการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 (หนองบัวลำภู อุดรธานี เลย หนองคาย และบึงกาฬ) เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. ที่ผ่านมา โดยมี นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมหารือ ที่ห้องประชุมสัตตบงกช โรงพยาบาลหนองบัวลำภู จังหวัดหนองบัวลำภู
นายสมศักดิ์ เปิดเผยว่า ข้อเสนอของภาคเอกชน ในการพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 ต้องการให้ผลักดันเป็น “ศูนย์การท่องเที่ยวของอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ศูนย์กลางการค้าและโลจิสติกส์ เกษตรอุตสาหกรรมมูลค่าสูง เมืองน่าอยู่” เพราะในกลุ่มจังหวัดนี้ มีศักยภาพแหล่งท่องเที่ยงจำนวนมาก รวมถึงมีเขตจังหวัดติดกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งยังสามารถพัฒนาได้อีกจำนวนมาก แต่ที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่า ด้านการท่องเที่ยวมีปัญหา เพราะจากข้อมูลพบว่า นักท่องเที่ยวลดลง โดยปี 2565 จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงจากปี 2562 ถึง 43% นอกจากนี้ ยังพบว่า ในกลุ่มจังหวัด มีปัญหาความยากจนถึง 190,600 คน ทำให้ภาครัฐ ต้องเร่งส่งเสริมการท่องเที่ยว การพัฒนาโครงข่ายเส้นทางคมนาคม และการพัฒนาเศรษฐกิจในระดับพื้นที่
ข้อเสนอจากภาคเอกชน กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 ที่จะนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี ในการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร จังหวัดหนองบัวลำภู คือ 1.ยกระดับการท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 ให้ไปสู่การท่องเที่ยวระดับนานาชาติ โดยใช้ Soft Power อัตลักษณ์ท้องถิ่น อาทิ ประเพณีวัฒนธรรม ภาษา อาหาร เส้นทางโรแมนติกรูท นาดีรูท และสี่เหลี่ยมวัฒนธรรมล้านช้าง 2.เร่งรัดการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบของลุ่มแม่น้ำโขง เพื่อรองรับภาคการเกษตร การบริโภค และการลงทุน 3.ยกระดับโรงพยาบาลภาครัฐของกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 เพื่อเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน 4.ศึกษาและวางแผนโลจิสติกส์กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 สู่ NeEC และเชื่อมโยงภูมิภาคลุ่มน้ำโขง 5.จัดทำระบบขนส่งมวลชนเพื่อเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวในกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 เพื่อรองรับการเป็นเจ้าภาพงานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี ปี 2569
6.ส่งเสริมการจัดงานมหกรรมผ้าทอมือภูมิภาคลุ่มน้ำโขง GMS Fabric Expo 7.ยกระดับรายได้เกษตรกรภายใต้การจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น 8.เร่งรัดปรับปรุงผังเมืองรวมและผังเมืองรวมจังหวัด เพื่อรองรับการพัฒนาเศรษฐกิจและการลงทุน ในกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 9.แก้ไขปัญหาและยกระดับมูลค่าเพิ่มเกษตรอุตสาหกรรมพืชเศรษฐกิจ เช่น มันสำปะหลัง ไผ่ ยางพารา และ 10.เร่งรัดและผลักดันการจัดประชุมคณะกรรมการร่วมไทย-ลาว ตามแม่น้ำโขงและแม่น้ำเหือง (JTMH) โดยเมื่อแยกเป็นรายจังหวัด จังหวัดบึงกาฬ เสนอ1.โครงการพัฒนาการค้าชายแดน และการท่องเที่ยว เพื่อรองรับสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ-บอลิคำไซ) 2.เร่งรัดโครงการบริหารจัดการแม่น้ำโขง-แม่น้ำสงคราม เพื่อการเกษตร ส่วนจังหวัดเลย ขอเร่งรัดการก่อสร้างรันเวย์ท่าอากาศยานเลย เพื่อรองรับการลงทุนในอนาคต
จังหวัดหนองคาย 1.เร่งรัดลงทุนการสร้าง Container Yard ให้แล้วเสร็จ เพื่อการรองรับการขยายตัวการขนส่งสินค้าทางรางของกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 และ EEC 2.ขอจัดตั้งเขตเพื่อคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ จุดขาย(Tax Refund) ในกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน1(นำร่องในเขตท้องที่เทศบาลเมืองหนองคาย) 3.ยกระดับมหาวิทยาลัยขอนแก่น วิทยาเขตหนองคาย เป็นมหาวิทยาลัยหนองคาย หรือพัฒนาสถาบันอุดมศึกษาในจังหวัดให้มีความก้าวหน้าในระดับนานาชาติให้การยอมรับ 4.จัดสร้างและพัฒนาศูนย์ Business Center เพื่อรองรับการเข้ามาลงทุน 5.โครงการพัฒนายกระดับระบบการนำเข้า-ส่งออก ไทย-ลาว-จีน ในรูปแบบ Single Windows ส่วนจังหวัดหนองบัวลำภู 1.ขอรับการสนับสนุนขนส่งระบบราง เชื่อมโยงอุดรธานี-หนองบัวลำภู-เลย และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 2.ผลักดันสะพานเฉลิมพระเกียรติ ระหว่างอำเภอโนนสัง จังหวัดหนองบัวลำภู กับอำเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น 3.ยกระดับวิทยาลัยชุมชน เพื่อเป็นสถาบันพัฒนาวิชาชีพเฉพาะทางในระดับปริญญาตรี 4.พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวน้ำตกเฒ่าโต้ จังหวัดหนองบัวลำภู 5.พัฒนาและสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผ้าทอธรรมชาติ จังหวัดหนองบัวลำภู6.โครงการหนองบัวลำภูเจ้าบ้านที่ดี เพื่อยกระดับการพัฒนาบุคลากรและแหล่งท่องเที่ยว 7.โครงการศึกษาออกแบบทางเลี่ยงเมือง อำเภอโนนสัง จังหวัดหนองบัวลำภู ขณะที่ จังหวัดอุดรธานี 1.เร่งรัดการจัดตั้งศูนย์ให้บริการแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service : OSS) ให้แล้วเสร็จ ภายในปี 2567 เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการค้าชายแดน/ผ่านแดน แบบครบวงจร ณ จังหวัดอุดรธานี 2.ยกระดับการให้บริการด้านสุขภาพในจังหวัดอุดรธานี ให้เป็นศูนย์กลางการแพทย์ระดับนานาชาติ