แซนดิสก์ (Sandisk) ได้เผยโฉม SSDสำหรับองค์กรแบบ NVMe™ ความจุสูงถึง 256TB¹ เป็นอีกหนึ่งความก้าวหน้าครั้งสำคัญในอุตสาหกรรมด้าน ความจุการจัดเก็บข้อมูล ประสิทธิภาพการทำงาน และการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า โดย SSD รุ่นนี้พัฒนาขึ้นบนแพลตฟอร์ม UltraQLC™ สำหรับองค์กรรุ่นใหม่ล่าสุดของแซนดิสก์ แพลตฟอร์ม UltraQLC™ ถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญในด้าน สถาปัตยกรรม NAND ซึ่งเกิดจากการผสานเทคโนโลยีล้ำสมัยหลายด้านเข้าไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น หน่วยความจำ BiCS8 QLC CBA NAND, คอนโทรลเลอร์เฉพาะที่ออกแบบเอง และ การปรับแต่งระบบขั้นสูง เพื่อยกระดับประสิทธิภาพและความเชื่อถือได้ให้ตอบโจทย์องค์กรที่ต้องการจัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ในยุคAI และคลาวด์
เมื่อภาระงานและความต้องการทางธุรกิจเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุค AI โซลูชันจัดเก็บข้อมูลแบบแฟลชจึงจำเป็นต้องมีความยืดหยุ่นและสามารถปรับแต่งได้มากขึ้น เพื่อรองรับการทำงานที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น โดย SANDISK®NVMeTM SSD ความจุ 256TB¹ รุ่นใหม่ ซึ่งพัฒนาขึ้นบนแพลตฟอร์ม UltraQLC™ ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับภาระงานที่ขับเคลื่อนด้วย AI และใช้ข้อมูลจำนวนมาก เช่น การรับและเตรียมข้อมูล รวมถึงระบบจัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ที่รองรับการประมวลผลด้วย AI(AI data lakes) ที่ต้องการความเร็วสูง SSD รุ่นนี้มอบทั้ง ประสิทธิภาพระดับสูงและการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมช่วยลด ต้นทุนรวมในการเป็นเจ้าของ (TCO) สำหรับแอปพลิเคชันที่ต้องการความจุสูงในระบบคลาวด์ขนาดใหญ่ (hyperscale cloud)
คุณคูร์ราม อิสมาอิล (Khurram Ismail)ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ของแซนดิสก์ กล่าวว่า “เมื่อโลกก้าวเข้าสู่ยุค AI ในเฟสถัดไป ระบบจัดเก็บข้อมูลแบบแฟลชจะกลายเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนภาระงานอัจฉริยะที่ต้องการประสิทธิภาพในระดับสูง” และเสริมอีกว่า “แพลตฟอร์ม UltraQLC™ คือผลลัพธ์จากการทำงานอย่างต่อเนื่องตลอดหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งผสานทั้งประสบการณ์และการเรียนรู้ในการพัฒนา สถาปัตยกรรมที่ยืดหยุ่น แข็งแกร่ง และรองรับความจุในระดับมหาศาลควบคู่กับประสิทธิภาพสูงสุด โดยยังคงความคุ้มค่าในด้านการใช้พลังงาน เราเชื่อว่าเทคโนโลยีนี้จะช่วยให้แซนดิสก์สามารถขยายผลิตภัณฑ์ให้ครอบคลุมความต้องการด้าน AI ในระดับองค์กรขนาดใหญ่ พร้อมสนับสนุนให้ลูกค้าของเราขับเคลื่อนธุรกิจได้รวดเร็วขึ้น ประมวลผลข้อมูลได้มากขึ้น และพลิกข้อมูลให้กลายเป็นนวัตกรรมที่จับต้องได้จริง”
SANDISK® UltraQLC™ 256TB¹ NVMe™ SSD ยกระดับมาตรฐานใหม่ของแฟลชสตอเรจสำหรับระบบไฮเปอร์สเกล ออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อรองรับ AI data lakes ความเร็วสูงและอัจฉริยะในระดับองค์กรขนาดใหญ่ ด้วยคุณสมบัติเด่นอย่าง ค่าหน่วงเวลาต่ำ (low latency) แบนด์วิดธ์สูง (high bandwidth) และ ความน่าเชื่อถือที่เหนือกว่า SSD รุ่นนี้จึงสามารถรองรับภาระงานด้าน AI ที่เข้มข้นที่สุดในปัจจุบันได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด