ทีม BackBone MCOT ชวนทำความรู้จักเรื่องราว ป้าติ๋ม จากแม่บ้านผู้ซื้อน้องหมาให้ลูกสาวเป็นของขวัญ
สู่เจ้าของสถานสงเคราะห์สัตว์ บ้านนางฟ้าของสัตว์จร จนมาเป็นสุภาพสตรีที่ถูกยกย่องจากแบรนด์ดังระดับโลก
กวิพร วินิจเถาปฐม หรือ ป้าติ๋ม สุภาพสตรีไทยคนแรกที่ Hershey’s ช็อคโกแลตแบรนด์ดังเลือกให้รูปของเธอขึ้นซองช็อคโกแลต ในฐานะสตรีที่อุทิศตนเพื่อสังคม เล่าจุดเริ่มต้นที่ทำให้ตัวเองเข้ามาดูแลน้องหมาและน้องแมวจรจัด จากเมื่อปี 2547 ได้ซื้อหมาตัวแรกให้ลูกสาวเพื่อเป็นของขวัญที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ เมื่อได้น้องหมาเข้ามาเป็นสมาชิกในครอบครัวก็เริ่มรู้สึกประทับใจกับความซื่อสัตย์ และเป็นมิตรกับคน จนเกิดความรักและผูกพันกับน้องหมาไปด้วย จากนั้นได้ไปที่วัดแห่งหนึ่งใกล้กับบ้านพักในจังหวัดนนทบุรี พบว่ามีหมาถูกทอดทิ้งไว้ในสภาพอดอยากผอมโซเป็นโรคจำนวนมาก เห็นแล้วสงสารเลยเข้าไปช่วยเหลือ ให้อาหาร ให้ยารักษาเห็บหมัด และทำหมัน จากนั้นก็เริ่มช่วยเหลือน้องหมารอบ ๆ บ้าน พอมีคนรู้ว่าเรารับดูแลหมาก็เอามาให้ช่วยเหลือ จนเวลาผ่านไปจำนวนหมาที่ให้ความช่วยเหลือเริ่มมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆแถมมีน้องแมวจรตามเข้ามาอีกรวมแล้วกว่า 1000 ชีวิต จนกระทั่งปี 2554 บ้าน ซึ่งเป็นทั้งบ้านและเป็นคอกสัตว์ ที่นนทบุรีถูกน้ำท่วมใหญ่แช่น้ำเป็นเวลายาวนานกว่า 3 เดือน การดูแลสัตว์ยิ่งยากลำบากมาก หลังพ้นวิกฤติน้ำท่วมจึงหาซื้อที่ดินที่จะไม่เจอปัญหาน้ำท่วม และไม่ให้เกิดปัญหาเสียงรบกวนชุมชนอย่างที่เป็นมาตลอด จึงได้ตัดสินเลือกมาอยู่ที่ อำเภอมวกเหล็ก โดยซื้อที่ดินเนื้อที่ 40 ไร่ จดทะเบียนเป็นสถานสงเคราะห์สัตว์ กับกรมปศุสัตว์ แบ่งเป็นคอกหมาและแมวทั้งกลางแจ้งและในร่มรวม 44 คอก มีการวางระบบเดินเสาไฟฟ้า ขุดบ่อบาดาล เพื่อใช้ในการดูแลสัตว์อย่างดี และจ้างคนงานอีก 17 คนไว้ คอยปรุงอาหาร ให้อาหาร เก็บล้างภาชนะ และให้ยารักษาเห็บหมัด หมาและแมวจร ที่ปัจจุบันแบ่งเป็น หมา 1300 ตัว แมวอีก 600 ตัว โดยค่าใช้จ่ายใช้เงินส่วนตัวเป็นหลัก เพราะจะไปพึ่งการรับบริจาคกับคนอื่นตลอดเวลาก็คงไม่ได้ ต่อมาช่วงหลังธุรกิจส่วนตัวก็ประสบปัญหามีหนี้การค้าก้อนใหญ่ จึงต้องตัดใจทยอยประกาศขายที่ดินมาใช้หนี้ แต่ก็ตั้งใจจะกันเงินส่วนหนึ่งมาไว้ใช้จ่ายหมุนเวียนในสถานสงเคราะห์สัตว์ เพราะเราเอาเขามาเลี้ยงแล้วจะทิ้งขว้างเขาไม่ได้
ป้าติ๋ม เล่าต่อว่า ตลอดเกือบ 20 ปี ที่รับดูแลหมาและแมวจรจัดมา
นั้นได้ข้อคิดเป็นธรรมะและสัจธรรมเยอะมาก อย่างบางครั้งเราช่วยหมาข้างถนนที่ถูกรังแกมาให้อาหาร
อาบน้ำ ให้ยารักษาแผล ดูแลอย่างดีแต่ตอนหลังก็กลับมาตายลงง่ายๆ ทั้งที่ตอนมันอยู่อย่างลำบากมันก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร
มันสะท้อนถึงความไม่แน่นอนและทุกชีวิตก็มีกรรมเป็นของตัวเองทั้งนั้น
ส่วนปัญหาเรื่องหมาและแมวจรจัดนั้น ป้าติ๋ม บอกว่า อยากให้ภาครัฐเข้ามาจัดการด้วยการขึ้นทะเบียนและเก็บภาษีสัตว์เลี้ยง เพื่อควบคุมการเลี้ยงสัตว์ของประชาชนให้มีคุณภาพอยู่ในจำนวนที่เหมาะสมไม่แออัดและถูกสุขลักษณะ ประกอบกับเร่งทำหมันหมาแมวจรจัดตามที่สาธารณะ สุดท้ายคือ ขอร้องเจ้าของน้องหมา น้องแมว ว่าเมื่อคิดจะเลี้ยงเขาต้องเลี้ยงให้ดี แล้วอย่าทอดทิ้งพวกเขาเลย