27 มิ.ย.66 - พรรคเพื่อไทย มาไม้ใหม่ ขอชิงประธานสภา ยื่นสูตรเสนอพรรคก้าวไกล 14+1 เชื่อ win win ทั้ง 2 พรรค
การเมืองลุกฮืออีกรอบ หลังพรรคเพื่อไทยส่งคลื่นระลอกใหม่ในการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค ร่วมกับ ส.ส. พรรคเพื่อไทย โดยเป็นผลโดยตรงต่อการจับมือร่วมรัฐบาลกับพรรคก้าวไกล
•
โดย นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย ภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค ชูศักดิ์ ศิรินิล ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค และ ประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคแถลงผลการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคร่วมกับ ส.ส. พรรคเพื่อไทย หารือตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร
•
นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า ที่ประชุมร่วมกรรมการบริหารพรรค และส.ส.พรรคเพื่อไทย ให้คณะทำงานเจรจาหารือ“พรรคก้าวไกล” เพื่อสรุปตำแหน่งประธานสภา โดยให้ยึดหลักความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ เป็นธรรมและเสมอภาคต่อกัน ดังนี้
1.พรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญและเห็นถึงความคาดหวังของพี่น้องประชาชนที่อยากเห็นพรรร่วม 8 พรรคจัดตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยโดยมีพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำ และมีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี
2.คณะทำงานเจรจา ได้เสนอต่อคณะกรรมการบริหารพรรค ว่าในฐานะพรรคแกนนำระดับสูงมีคะแนนต่างกันเพียงแค่10 คะแนน ตำแหน่งรัฐมนตรีที่ควรได้คือสูตร 14+1 หมายความว่า พรรคก้าวไกลได้ตำแหน่งรัฐมนตรี 14 ตำแหน่งและตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 1 ตำแหน่ง ส่วนพรรคเพื่อไทยก็เสนอว่าพรรคเพื่อไทยควรได้ตำแหน่งรัฐมนตรี 14 ตำแหน่ง และตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรหรือประธานรัฐสภา 1 ตำแหน่ง
3. ภายหลังคณะกรรมการบริหารพรรค ได้ฟังข้อมูล ข้อเท็จจริงดังกล่าวแล้ว เห็นควรยืนยันหลักการสูตร 14+1 จึงเสนอเข้าสู่ที่ประชุม ส.ส.พรรคเพื่อไทย โดยสมาชิกพรรคส่วนใหญ่เห็นว่า ทีมเจรจาซึ่งได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการบริหารพรรคควรเจรจาในสูตร 14+1 ตามที่ได้เสนอไปก่อนหน้านี้
จากนั้น ชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานฝ่ายกฎหมายของพรรคเพื่อไทย ได้กล่าว สรุปข้อประชุมดังนี้
1. ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค และที่ประชุม ส.ส. พรรคเพื่อไทย ได้หารือและได้มีความเห็นร่วมกันว่าตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นตำแหน่งที่มีความสำคัญที่จะต้องควบคุมกำกับดูแลการดำเนินการของรัฐสภาให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญด้วยความเรียบร้อย ประธานสภาต้องวางตนเป็นกลาง ทำหน้าที่ตอบสนองความต้องการของสมาชิกและพรรคการเมืองทุกพรรค อีกทั้งยังต้องมีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์ มีวุฒิภาวะ และเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย
2. ที่ประชุมได้รับทราบว่าคณะเจรจาของพรรคได้เสนอต่อพรรคก้าวไกลในฐานะพรรคแกนนำในการเจรจาว่า สูตร14+1 เป็นสูตรที่เป็นธรรม คำนึงถึงความเสมอภาค ให้เกียรติซึ่งกันและกัน กล่าวคือ พรรคก้าวไกลได้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทยควรจะได้ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร
3. ที่ประชุมเห็นควรยืนยันความคิดการกำหนดตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรตามสูตรดังกล่าว โดยมอบหมายให้ประธานสภามาจากพรรคเพื่อไทย ทั้งนี้มิใช่การแก่งแย่งตำแหน่งหน้าที่ แต่คำนึงถึงความเป็นธรรม โดยยังคงเห็นความจำเป็นและให้ความสำคัญในการร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล โดยมีพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำ และคุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีให้สำเร็จลุล่วงต่อไป
4. พรรคเพื่อไทยเชื่อว่าเมื่อพิจารณาถึงปัจจัยต่างๆ พรรคเพื่อไทยเชื่อว่าการมีประธานสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคเพื่อไทย จะทำให้สภาเดินหน้าทำหน้าที่ในรัฐสภาได้ราบรื่น เรียบร้อย สามารถแสวงหาความร่วมมือจากทุก ๆ ฝ่าย ทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติได้อย่างสมบูรณ์และมีประสิทธิภาพต่อไป