X
ปลัด มท. ประชุมขับเคลื่อนภารกิจ มท. กับผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ

ปลัด มท. ประชุมขับเคลื่อนภารกิจ มท. กับผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ

24 เม.ย 2567
80 views
ขนาดตัวอักษร

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมขับเคลื่อนและติดตามนโยบายของรัฐบาลและภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทยผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกล (VCS) ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการส่วนภูมิภาค โดยได้รับเมตตาจากพระพิพัฒน์วชิโรภาส และพระปัญญาวชิรโมลี ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย ร่วมประชุม โดยมีนายเชษฐา โมสิกรัตน์ นายราชันย์ ซุ้นหั้ว รองปลัดกระทรวงมหาดไทย คณะที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายขจร ศรีชวโนทัย อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม 


นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ขอขอบคุณชาวมหาดไทยแล้วภาคีเครือข่ายทุกคนที่ช่วยดูแลและอำนวยความสะดวกให้พี่น้องประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ได้เป็นอย่างดี ทำให้สถิติจำนวนการเกิดอุบัติเหตุและตัวเลขผู้เสียชีวิตในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 (วันที่ 11 เม.ย. – 16 เม.ย 67) ลดลงจากปีก่อน ทั้งนี้ การป้องกันอุบัติเหตุจะต้องทำอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี โดยขอให้เดินหน้าบูรณาการชุดข้อมูลจากหน่วยงานในพื้นที่ เพื่อวิเคราะห์ค้นหาปัจจัยความเสี่ยง และวางแผนแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุในเชิงโครงสร้าง ตลอดจนถึงการสร้างการรับรู้ การให้ความรู้ และการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย เพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน นอกจากนี้ ในบางพื้นที่เช่น อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี มีการจัดกิจกรรม“Water Festival” ที่สอดคล้องกับเทศกาลสงกรานต์ และมีการเผยแพร่ความรู้ด้านประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมประเพณีของอำเภอพิบูลมังสาหาร และให้ความสำคัญดูแลอาคารเรือนรับรองที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เคยเสด็จพระราชดำเนินมาเยี่ยมเยียนราษฎร ณ แก่งสะพือ และพัฒนาให้เป็นพิพิธภัณฑ์ให้ความรู้และเผยแพร่พระราชกรณียกิจ พร้อมมีระบบจัดเก็บข้อมูลผู้เข้าร่วมงานและเม็ดเงินรายได้ที่เกิดขึ้นแบบ “Realtime” จึงขอขอบคุณและชมเชยผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี นายอำเภอ รวมถึงนายกเทศมนตรีเมืองพิบูลมังสาหาร โดยขอให้ทุกจังหวัดค้นหาสถานที่ที่มีวัฒนธรรมประเพณี หรือสิ่งดีงามในพื้นที่ และได้นำตัวอย่างที่ดีลักษณะนี้ไปต่อยอดและขยายผลควบคู่กับการวางแผนป้องกันและลดอุบัติเหตุด้วย


นายสุทธิพงษ์ กล่าวต่ออีกว่า เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 กระทรวงมหาดไทยได้แจ้งแนวทางในการจัดทำน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ จากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ทุกจังหวัดทั่วประเทศ โดยมีรายละเอียดการจัดพิธี ได้แก่ 1) พิธีพลีกรรมตักน้ำ วันพฤหัสบดีที่ 4 ก.ค. 67 ฤกษ์เวลา 14.49 น. 2) พิธีเสกทำน้ำพระพุทธมนต์ฯ วันอาทิตย์ที่ 7 ก.ค. 67 ฤกษ์เวลา 17.09 น. 3) พิธีเวียนเทียนสมโภชน้ำพระพุทธมนต์ฯ วันจันทร์ที่ 8 ก.ค. 67 ฤกษ์เวลา 12.00 น. 4) เชิญคนโทน้ำพระพุทธมนต์ฯ เดินทางมาเก็บรักษาที่กระทรวงมหาดไทย ส่วนกลาง วันเสาร์ที่ 13 ก.ค. 67 และส่วนภูมิภาค วันอาทิตย์ที่ 14 ก.ค. 67 5) พิธีเชิญน้ำพระพุทธมนต์ฯ จากกระทรวงมหาดไทยไปวัดพระเชตุพนฯ วันพฤหัสบดีที่ 25 ก.ค. 67 เวลา 07.00 น. 6) พิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ฯ วันพฤหัสบดีที่ 25 ก.ค. 67 ฤกษ์เวลา 16.30 น. และ 7) พิธีเดินขบวนเชิญน้ำพระพุทธมนต์ฯ จากวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามไปยังพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง วันอาทิตย์ที่ 28 ก.ค. 67 ฤกษ์เวลา 06.35 น. พร้อมกำหนดจุดบันทึกภาพประวัติศาสตร์ให้มีความสวยงามและสมพระเกียรติ เพื่อบันทึกเรื่องราวให้คนรุ่นหลังได้รับรู้ ซึ่งกิจกรรมนี้ถือเป็นการอามิสบูชา แต่สิ่งสำคัญที่เราต้องไม่ลืม คือ การปฏิบัติบูชาด้วยการบูรณะแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ พัฒนาทำให้เป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ทัศนศึกษาให้กับเด็กและเยาวชนได้มาศึกษาเรียนรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทยและประวัติศาสตร์ประจำท้องถิ่นของจังหวัดเรา


“ในส่วนของกิจกรรมเดิน-วิ่งธงตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 กระทรวงมหาดไทย ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนร่วมแสดงความจงรักภักดี ด้วยการดูแลรักษาความสะอาดเรียบร้อยให้กับบ้านเรือนและชุมชน พร้อมร่วมกันประดับตกแต่งธงชาติไทย ธงเฉลิมพระเกียรติฯ โดยประชาชนทุกคนสามารถออกมาร่วมกิจกรรมซึ่งถือเป็นการสร้างเสริมสุขภาพที่ดีด้วยการเดิน-วิ่งออกกำลัง ดังที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงเป็นต้นแบบของการดูแลสุขภาพอนามัย ซึ่งกิจกรรมแบ่งออกเป็น 10 สาย สายละ 72 ธง ซึ่งจะมีเส้นทางการวิ่งครอบคลุมพื้นที่ทุกจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด และมีพิธีมอบธงตราสัญลักษณ์ให้ 10 จังหวัดต้นทาง โดยตลอดเส้นทางในแต่ละพื้นที่ที่ขบวนผ่านจะมีการจัดกิจกรรมจิตอาสา รวมถึงจุดพัก ที่จะมีการจัดแสดงนิทรรศการเผยแพร่พระราชกรณีกิจและพระเกียรติคุณ การละเล่นพื้นบ้าน มหรสพ และการแสดงวัฒนธรรมประเพณีในแต่ละท้องถิ่น เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” นายสุทธิพงษ์ กล่าว


นายสุทธิพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการขับเคลื่อนโครงการจิตอาสาพระราชทาน กระทรวงมหาดไทยได้มีแนวทางให้ทุกจังหวัดประชุมซักซ้อมชี้แจงจิตอาสา 904 เนื่องจากจิตอาสา 904 เป็นผู้ที่ผ่านการอบรมและปฏิบัติงานสนองพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้มีการทำหน้าที่อย่างเหมาะสมตามแนวทางการเป็นจิตอาสา และดำเนินการจัดให้มีการประชุม การคัดเลือก "หัวหน้าจิตอาสาภาคประชาชน" และส่งเสริมสนับสนุนการขับเคลื่อนในระดับพื้นที่ให้เกิดผลสัมฤทธิ์สูงสุด รวมถึงส่งเสริมให้หัวหน้าจิตอาสาภาคประชาชน ระดับตำบล อำเภอ จังหวัด ที่ได้รับการคัดเลือกแล้ว ได้ร่วมขับเคลื่อนกิจกรรมจิตอาสาทั้ง 3 ประเภท ได้แก่ จิตอาสาพัฒนา จิตอาสาภัยพิบัติ และจิตอาสาเฉพาะกิจ อย่างสม่ำเสมอ พร้อมเชิญชวนประชาชนจิตอาสาช่วยกันดูแลปรับปรุงพัฒนาพื้นที่ที่มีแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ให้มีความสะอาด มีทัศนียภาพที่สวยงามอย่างต่อเนื่อง โดยสิ่งสำคัญ คือ การทำกิจกรรมจิตอาสาเป็นการทำด้วยหัวใจ ความสมัครใจ และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน รวมถึงเชิญชวนให้เด็กและเยาวชนร่วมทำกิจกรรมอย่างหลากหลาย โดยไม่เน้นรูปแบบ พิธีการ หรือแต่งกายชุดจิตอาสา นอกจากนี้ ขอให้ช่วยกันประชาสัมพันธ์ปฏิทินการจัดกิจกรรมจิตอาสาล่วงหน้า เพื่อพี่น้องประชาชนที่สนใจได้รับรู้รับทราบและร่วมทำกิจกรรม โดยในกิจกรรมแต่ละครั้ง สามารถให้ผู้ผ่านการฝึกอบรมวิทยากรประวัติศาสตร์ชาติไทยประจำถิ่น ได้พูดให้ความรู้เรื่องประวัติศาสตร์ชาติไทยในพื้นที่ได้ โดยในเดือนพฤษภาคม 67 นี้ ทุกจังหวัดจะได้ร่วมกันทำกิจกรรมจิตอาสา “Big Cleaning Day” ทำให้บ้านเมืองมีความสะอาดอีกด้วย” นายสุทธิพงษ์ กล่าว


นายสุทธิพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอให้พวกเราทุกคนเน้นย้ำกับตนเองเสมอว่า ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในระดับพื้นที่ ตลอดจนถึงทุกนโยบายทั้งของกระทรวงมหาดไทยและทุกกระทรวงเป็นหน้าที่ของคนมหาดไทย ดังนั้น ในทุกเรื่อง ทั้งการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบตามนโยบายนายกรัฐมนตรี ขอให้ทุกจังหวัดติดตามและขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่อง โดยจัดประชุมกับคณะอนุกรรมการของแต่ละจังหวัด ประสานบูรณาการกับทุกภาคส่วน ทั้งตำรวจ สถาบันการเงินของรัฐ เพื่อติดตามความคืบหน้าการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน สำหรับการแก้ไขปัญหายาเสพติด ให้นำแนวทางกองทุนแม่ของแผ่นดินมาปรับใช้ควบคู่การขับเคลื่อนหมู่บ้านยั่งยืน (Sustainable Village) รวมถึงส่งเสริมการประกวดผ้า R&D ให้เกิดขึ้นในพื้นที่โดยไม่จำกัดลายผ้าในการประกวด เพื่อถอดบทเรียนความรู้ Know-how ของชุมชน ตลอดจนถึงการส่งเสริมและสนับสนุนกิจกรรมของบริษัท ประชารัฐรักสามัคคีจังหวัด(วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด ในพื้นที่ การขยายผลการจัดตั้งธนาคารขยะ ของ อปท. การวางแผนพัฒนาที่ดินรกร้างว่างเปล่า การขับเคลื่อนอำเภอ/หมู่บ้าน/ตำบล บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แบบบูรณาการอย่างยั่งยืน การแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) เป็นภารกิจที่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง การจัดระเบียบสังคม ปราบปรามผู้มีอิทธิพล ปราบปรามยาเสพติด สิ่งผิดกฎหมาย ตามนโยบายของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และการแก้ไขในสิ่งผิด โดยนำการพัฒนาพื้นที่บึงสีไฟ จังหวัดพิจิตร มาเป็นแนวทางสร้างพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจ พื้นที่ออกกำลังกายตามภูมิสังคม ร่วมกับ 7 ภาคีเครือข่าย ตามหลัก “บวร” ภายใต้หลักการทำงานที่ยั่งยืน 4 กระบวนการ “ร่วมพูดคุย ร่วมคิด ร่วมทำ และร่วมรับประโยชน์” 

.

นายสุทธิพงษ์ ได้ในช่วงท้ายว่า สิ่งสำคัญของการขับเคลื่อนกิจกรรมทุก ๆ เรื่อง คือ การสื่อสารสังคมเพื่อให้พี่น้องประชาชน และชาวต่างชาติได้รับรู้ถึงความตั้งใจที่ดีของพี่น้องชาวมหาดไทย เพื่อสร้างพลังแห่งการมีส่วนร่วมขยายผลจากจุดเล็ก ๆ ไปยังระดับมหภาคให้ยั่งยืน โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอ ช่วยกันส่งเสริมให้ประชาสัมพันธ์จังหวัด ได้ร่วมกับสื่อมวลชนในพื้นที่ และพี่น้องประชาชนช่วยกันสื่อสารสิ่งดี ๆ ทุกกระบวนการตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ เช่น ในเรื่องการจัดทำน้ำพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ต้องสื่อสารตั้งแต่การเริ่มพัฒนาและฟื้นฟูแหล่งน้ำให้สะอาด การเตรียมคน เตรียมสถานที่ เตรียมพิธีกรรม มีรูปแบบการจัดอย่างไร มีพี่น้องประชาชนหรือภาคส่วนใดมาร่วมให้การสนับสนุน เพื่อให้เกิดการตื่นตัวและการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน อาทิ มีการละเล่นพื้นบ้าน ขบวนรถแห่ แตรวง มีการประดับธงตลอดการจัดงานพิธี ทำอย่างต่อเนื่อง หลากหลาย ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ ทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชน เพื่อสนองพระราชปณิธาน “ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข” ร่วมกันเฉลิมพระเกียรติด้วยการแบ่งเบาพระราชภาระของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ผู้เป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย ตลอดไปอย่างยั่งยืน



Terms of Service © 2018 MCOT.net All rights reserved นโยบายข้อมูลส่วนบุคคล