นางพญาเสือโคร่ง ภาษาอังกฤษ เรียกว่า Wild Himalayan Cherry ชื่อทางวิทยาศาสตร์ prunus cerasoides เป็นพืชที่อยู่ในสุกล Prunus วงศ์ Rosaceae หรือ ดอกกุหลาบ คนในท่องถิ่นมักมีชื่อเรียกที่แตกต่างออกไป เช่น ชาวเหนือเรียกว่า ฉวีวรรณ ชมพุภูพิงค์ ชาวกระเหรี่ยงเรียกว่า ซากูระดอย จนกลายเป็นที่มาของฉายา ซากูระเมืองไทย นางพญาเสือโคร่ง เป็นพืชที่สามารถเจริญเติบโตได้เฉพาะพื้นที่สูงที่เป็นเทือกเขาเหนือระดับน้ำทะเล ตั้งแต่ 1,200-1,400 เมตร พื้นที่ทางภาคเหนือของไทย จึงนับว่ามีความเหมาะสมเป็นอย่างมากที่พืชชนิดนี้จะเจริญเติบโตได้เป็นอย่างดี อีกทั้ง ในประเทศเพื่อนหรือพื้นที่ที่มีความสูงในระดับเดียวกันก็สามารถพบต้นนางพญาเสือโคร่งได้เช่นกัน อาทิเช่น รัฐชานและรัฐกะชีน ในพม่า รวมถึงบนเทือกเขาหิมาลัยในเขตประเทศอนเดียตลอดแนวในเขตรัฐอรุณาจัลประเทศไปจนถึงรัฐหิมาจัลประเทศ ซึ่งทั้งสองรัฐนี้ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของอินเดีย
ต้นนางพญาเสือโคร่งเป็นไม้ยืนต้นผลัดใบ ขนาดเล็ก มีความสูงประมาณ 10-15 เมตร ใบ เป็นชนิดใบเดี่ยว ลักษณะรูปรีแบบไข่ หรือไข่กลับ ออกสลับกัน ใบมีความกว้าง 3-5 เซนติเมตร ยาว 5 -12 เซนติเมตร ปลายใบเรียวแหลม โคนใบกลมหรือสอบแคบ ขอบจักปลายก้านใบมีต่อม 2-4 ต่อม หูใบแตกแขนงคล้ายเขากวาง ใบร่วงง่าย ดอก สีขาว ชมพู หรือแดง ออกเป็นช่อกระจุกใกล้ปลายกิ่ง ก้านดอกยาว 0.7-2 เซนติเมตร ขอบริ้วประดับจักไม่เป็นระเบียบ กลีบเลี้ยงติดกันเป็นรูปกรวย กลีบดอกมี 5 กลีบ เมื่อบานขนาดโตเส้นผ่าศูนย์กลาง 1-2 เซนติเมตร ผล รูปไข่หรือกลม ยาว 1-1.5 เซนติเมตร ระยะเวลาออกดอกระหว่างเดือนธันวาคมจนถึงกุมภาพันธ์ โดยจะทิ้งใบก่อนออกดอก
สรรพคุณของนางพญาเสือโคร่ง
นางพญาเสือโคร่งสรรพคุณทางการรักษาที่ชาวเผ่ามักนำมาใช้เมื่อเกิดอาการเจ็บป่วยดังต่อไปนี้
- รักษาอาการไอ คัดจมูก ลดน้ำมูก ด้วยการนำมาเปลือกมาเคียวสด หรือขยี้แล้วนำมาดม
- รักษาไข้หนาวสั่น โดยนำมาต้นกับน้ำสะอาดแล้วดื่ม
- แก้ท้องเสีย การการต้มคั้นน้ำ
- แก้อาการปวดเมื่อย ฟกช้ำ ข้อต่อต่าง ๆ ด้วยการน้ำเปลือกมาคั้นน้ำแล้วพอกบริเวณนั้น ๆ
ขอบคุณที่มา : kaset.today และ อพท
ขอบคุณภาพ : สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง The Royal Agricultural Station Angkhang