ประชาชนใช้สิทธิจองที่พัก
“เที่ยวไทยคนละครึ่ง” เมืองหลักเต็มจำนวนแล้ว 300,000 สิทธิ ส่วนเมืองน่าเที่ยวอีก 55 จังหวัดทั่วประเทศ ยังมีสิทธิคงเหลือกว่า
80,000 สิทธิ
นางสาวฐาปนีย์
เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ตามที่ ททท.
ดำเนินโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง เพื่อกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ
สร้างรายได้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจด้วยการท่องเที่ยวในช่วง Green Season โดยเริ่มต้นโครงการตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม
ที่ผ่านมานั้น ขณะนี้
ประชาชนได้มีการใช้สิทธิ์การจองที่พักสำหรับเมืองท่องเที่ยวหลักเต็มจำนวน 300,000
สิทธิ์แล้ว จึงได้ปิดการจองที่พักสำหรับเมืองท่องเที่ยวหลัก อย่างไรก็ตาม
ประชาชนยังสามารถลงทะเบียนและเข้าร่วมโครงการ เพื่อใช้สิทธิ์จองที่พักในเมืองน่าเที่ยวที่ยังคงมีจำนวนสิทธิ์คงเหลือกว่า
80,000 สิทธิ์ และสามารถเดินทางใช้สิทธิ์ใน 55 จังหวัดทั่วประเทศไทย
ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวที่มีความสวยงามและอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติในช่วง Green
Season อาทิ ชมผีเสื้อปางสีดา
จ.สระแก้ว ทุ่งดอกกระเจียว จ.ชัยภูมิ ล่องแก่ง จ.นครนายก และปราจีนบุรี
เที่ยวชมอุทยานแห่งชาติพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ
และสัมผัสความโดดเด่นของวัฒนธรรมตามอัตลักษณ์ท้องถิ่น
รวมถึงเข้าร่วมอีเวนต์กิจกรรมเทศกาลงานประเพณีต่าง ๆ ที่ ททท.
มีการจัดและสนับสนุนอย่างต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นการเดินทาง เพิ่มค่าใช้จ่ายและขยายวันพักในเมืองน่าเที่ยว
อาทิ Black Moon Music Camp 2025
จ.ฉะเชิงเทรา (8–9 สิงหาคม 2568),
งาน Street Fight เขื่อนขุนด่านปราการชล จ.นครนายก (8–9 สิงหาคม 2568) MAE SOT 21 International Half Marathon 2025 จ.ตาก (9-10 สิงหาคม 2568), ขนอมเฟสติวัล จ.นครศรีธรรมราช (9-10 สิงหาคม 2568), เทศกาลล่องแก่งหินเพิง จ.ปราจีนบุรี (9-12
สิงหาคม 2568), Chumphon Night Run Lighting” In The City #2 จ.ชุมพร (10 สิงหาคม 2568), Prachinburi Night at
the Museum จ.ปราจีนบุรี (22-24 สิงหาคม
2568), VIJIT @ Udonthani แสงศรัทธาแห่งอีสานเหนือ
จ.อุดรธานี (22-31 สิงหาคม 2568), Lady Golf Uttaradit 2025 จ.อุตรดิตถ์ (3-31 สิงหาคม 2568), VIJIT @
Lampang เสน่ห์เหนือกาลเวลา จ.ลำปาง
(5-14 กันยายน 2568), ประเพณีไหลเรือไฟ
จังหวัดนครพนม (29 กันยายน–8
ตุลาคม 2568)
สำหรับในช่วงวันหยุดวันแม่แห่งชาติ
ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 ททท. คาดว่า
บรรยากาศการเดินทางท่องเที่ยวจะมีความคึกคัก เนื่องจากมีการประกาศวันหยุดในวันที่
11 สิงหาคม 2568 เพิ่มอีก 1 วันเป็นกรณีพิเศษ
โดยคาดว่าจะมีผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศทั้งสิ้น 3.16 ล้านคน-ครั้ง
สร้างรายได้ 13,750 ล้านบาท
ซึ่งภูมิภาคที่มีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยเดินทางเข้ามากที่สุด 3 อันดับแรก
ได้แก่ ภาคกลาง 898,000 คน-ครั้ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 609,600 คน-ครั้ง
และภาคตะวันออก 600,500 คน-ครั้ง ซึ่งโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่งนับว่ามีส่วนสำคัญในการกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศในช่วงวันหยุด
โดยพบว่าจะมีผู้เดินทางใช้สิทธิ์ระหว่างวันที่ 9 – 12 สิงหาคม 2568 จำนวน 46,732 สิทธิ์ โดยแบ่งเป็นเมืองหลัก
30,503 สิทธิ์ โดยจังหวัดที่มีการจองที่พักสุงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ชลบุรี
เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ กาญจนบุรี และระยอง และเมืองน่าเที่ยว 16,229 สิทธิ์
โดยจังหวัดที่มีการจองที่พักสุงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จันทบุรี ตราด ราชบุรี
นครศรีธรรมราช และนครนายก
ทั้งนี้
สถานการณ์ลงทะเบียนของโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่งตั้งแต่เริ่มต้นโครงการจนถึงวันที่
8 สิงหาคม 2568 เวลา 9.00 น. มีประชาชนลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการจำนวน 2,076,394
ราย จองที่พักและชำระเงินเพื่อใช้สิทธิ์แล้ว 416,762 สิทธิ์ สิทธิ์คงเหลือจำนวน
83,238 สิทธิ์
ขณะที่ผู้ประกอบการที่ลงทะเบียนและอนุมัติแล้วจำนวน 7,923 ราย แบ่งเป็น
โรงแรม/ที่พัก 4,062 ราย ร้านอาหาร 3,400 ราย แหล่งท่องเที่ยว 106 ราย สปา/สุขภาพ
161 ราย สินค้า OTOP 133 ราย
และบริการรถเช่า/เรือเช่า 61 ราย
โดยสำหรับจุดหมายปลายทางยอดนิยมที่ผู้เข้าร่วมโครงการใช้สิทธิ์ในการเดินทางท่องเที่ยวสูงสุด
5 อันดับแรก ได้แก่ ชลบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี นครราชสีมา และ กรุงเทพมหานคร
ประชาชนที่สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการผ่านแอปพลิเคชัน
Amazing Thailand หรือ https://www.เที่ยวไทยคนละครึ่ง.com และสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center โทร. 02-483-0963 ทุกวัน ตั้งแต่เวลา
08.00-20.00 น. หรือสอบถามผ่านช่องทางแอปพลิเคชัน Line Official Account:
@ThaiTravelCopay ได้ในช่วงเวลาเดียวกัน