X
หยุดกลั่นแกล้งทางไซเบอร์ Stop Cyberbullying Day

หยุดกลั่นแกล้งทางไซเบอร์ Stop Cyberbullying Day

16 มิ.ย. 2566
900 views
ขนาดตัวอักษร

ตั้งแต่ปี 2012 ทุกวันศุกร์ที่สามของเดือนมิถุนายน จะถูกจัดให้เป็นวันหยุดการกลั่นแกล้งทางไซเบอร์ (Stop Cyberbullying Day) โดยปีนี้ตรงกับวันที่ 16 มิ.ย. เพื่อส่งเสริมการใช้อินเทอร์เน็ตที่ดีให้แก่ทุกคน ไม่นำเทคโนโลยีไปเป็นเครื่องมือในการกลั่นแกล้งผู้อื่น


จากข้อมูลของ สสส. พบว่า “การกลั่นแกล้งทางไซเบอร์” หรือที่เรารู้จักกันอย่างแพร่หลายว่า “การ Cyberbully” คือ การกลั่นแกล้ง คุกคาม หรือระรานผู้อื่นโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ผ่านโซเชียลมีเดีย การส่งข้อความ การเล่นเกม และโทรศัพท์มือถือ การ Cyberbully เป็นพฤติกรรมที่มักเกิดขึ้นซ้ำ ๆ โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความหวาดกลัว ยั่วโมโห หรือสร้างความอับอายให้แก่ผู้ที่ตกเป็นเป้าหมาย ตัวอย่างเช่น การกระจายคำโกหกหรือโพสต์รูปที่น่าอับอายของคนบางคนลงบนโซเชียลมีเดีย ส่งข้อความทำร้ายจิตใจหรือข่มขู่ไปหาคนที่เป็นเป้าหมาย และแกล้งปลอมเป็นเป้าหมายส่งข้อความที่หยาบคายร้ายกาจไปหาคนอื่น


จากการศึกษาวิจัยเชิงคุณภาพประเด็นการกลั่นแกล้งทางออนไลน์ ด้วยการจัดสนทนากลุ่มนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น ของโรงเรียนในกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 50 คน ในช่วงเดือน ส.ค. 2562  พบว่า การกลั่นแกล้งทางออนไลน์มีอยู่ทั้งหมด 7 รูปแบบ ได้แก่

-การก่อกวน ข่มขู่คุกคาม

-การให้ร้ายใส่ความ การแกล้งแหย่

-การเผยแพร่ความลับ

-การกีดกันออกจากกลุ่ม

-การแอบอ้างชื่อ การสร้างบัญชีปลอม

-การขโมยอัตลักษณ์

-การล่อลวง


เมื่อการกลั่นแกล้งเกิดขึ้นในโลกออนไลน์ ผู้ถูกกลั่นแกล้งอาจรู้สึกเหมือนถูกโจมตีอยู่ในทุกที่ทุกเวลา แม้กระทั่งในบ้านของพวกเขาเอง ทำให้รู้สึกว่าไม่มีทางหนีจากการกลั่นแกล้งนั้นได้เลย มันจึงสามารถส่งผลกระทบต่อผู้ถูกกระทำได้เป็นระยะเวลานานในหลายทิศทาง ทั้งทางจิตใจ เช่น ทำให้รู้สึกหงุดหงิด โมโห โง่เขลา และอับอาย ทางอารมณ์ เช่น รู้สึกละอายใจ สูญเสียความสนใจในสิ่งที่เคยรัก ทางกาย เช่น เหน็ดเหนื่อยจากการอดนอน ปวดท้อง หรือปวดหัว โดยความรู้สึกของการถูกคนอื่นหัวเราะเยาะหรือรบกวน อาจส่งผลให้ผู้คนไม่กล้าพูดถึงปัญหาหรือพยายามหาทางแก้ปัญหาเหล่านั้น ซึ่งในรายที่รุนแรงอาจถึงกับฆ่าตัวตายเลยก็ได้


องค์การยูนิเซฟ (UNICEF) ได้รวบรวมผู้เชี่ยวชาญจากยูนิเซฟ และผู้เชี่ยวชาญด้านการป้องกันการระรานทางไซเบอร์และเด็กระหว่างประเทศ (International cyberbullying and child protection experts) พร้อมจับมือกับเฟซบุ๊ก (Facebook) อินสตาแกรม (Instagram) และทวิตเตอร์ (Twitter) เพื่อสำรวจปัญหาการถูก Cyberbully ของเด็ก ๆ ทั่วโลก และให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการรับมือกับการกลั่นแกล้งทางโลกออนไลน์ พวกเขาพบว่า บ่อยครั้งที่เด็ก ๆ บอกไม่ได้ว่าสิ่งที่เพื่อนทำกับพวกเขาอยู่คือการแกล้งกันเล่นๆ หรือ การพยายามทำร้ายพวกเขาอยู่กันแน่โดยเฉพาะบนโลกออนไลน์ เพราะพวกเขามักหยอกกันแรงๆ แล้วหัวเราะพร้อมทิ้งท้ายด้วยประโยคที่ว่า “แค่ล้อเล่นน่า” หรือ “อย่าคิดมากน่า” เอาไว้ เหล่าผู้เชี่ยวชาญจึงให้ข้อสังเกตเอาไว้ว่า หากเมื่อไรเราเริ่มรู้สึกว่าการล้อเล่นนั้นเลยเถิดไปไกลถึงขนาดที่เริ่มทำร้ายจิตใจเราแล้ว นั่นอาจเป็นการ Cyberbully


องค์การ UNICEF พร้อมกับ Facebook, Instagram และ Twitter ได้ให้คำแนะนำไว้ว่า เมื่อไรก็ตามที่เราถูก Cyberbully “กุญแจสำคัญที่จะหยุดการกลั่นแกล้งนั้นได้ ก็คือการชี้ชัดออกไปว่าสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่นั้นคือการกลั่นแกล้งกัน และแจ้งไปยังผู้ใหญ่ที่ไว้ใจหรือผู้เชี่ยวชาญ พร้อมทั้งรายงาน (report) ไปยังแพลมฟอร์มโซเชียลมีเดียให้หยุดการกระทำดังกล่าว” กล่าวคือ สำหรับใครก็ตามที่กำลังตกเป็นเหยื่อของการกลั่นแกล้งทางไซเบอร์ สิ่งแรกที่ควรทำคือการร้องขอความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่ที่ไว้ใจ เช่น พ่อแม่ ผู้ปกครอง คนในครอบครัวที่สนิท หรือครูที่โรงเรียน แต่หากไม่สะดวกใจที่จะบอกกับคนที่รู้จักก็ควรติดต่อไปยังหน่วยงานมืออาชีพที่ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยเฉพาะ และหากการกลั่นแกล้งนี้เกิดขึ้นบนโซเชียลมีเดีย ก็ยังสามารถพิจารณาการบล็อก (block) และรายงาน (report) ผู้กลั่นแกล้งเพื่อให้บริษัทโซเชียลมีเดียเข้ามามีบทบาทในการใช้กฏเพื่อป้องกันการคุกคามบนแพลตฟอร์ม (platform) เหล่านั้นให้ได้


สสส. ได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการรับมือการ Cyberbully ไว้ด้วยหลักการดังนี้

1.STOP หยุดระรานกลับด้วยวิธีการเดียวกัน หยุดตอบโต้ เพื่อไม่ให้เกิดการกระทำซ้ำหรือเพิ่มความรุนแรงของเหตุการณ์มากยิ่งขึ้น

2.BLOCK ปิดกั้นผู้ที่ระราน ไม่ให้เขาสามารถติดต่อ โพสต์ หรือระรานเราได้อีก

3.TELL บอกพ่อแม่ ครู หรือบุคคลที่ไว้ใจ เพื่อขอความช่วยเหลือ หากเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายหรือถูกข่มขู่คุกคาม ให้เก็บรวบรวมข้อมูลของผู้กระทำและเหตุการณ์ระรานรังแกไปแจ้งเจ้าหน้าที่

4.REMOVE ลบภาพหรือข้อความระรานรังแกออกทันที โดยอาจติดต่อผู้ดูแลระบบหากเป็นพื้นที่สาธารณะบนโลกออนไลน์

5.BE STRONG เข้มแข็ง อดทน ยิ้มสู้ อย่าไปให้คุณค่ากับคนหรือคำพูดที่ทำร้ายเรา ควรใช้เป็นแรงผลักดันให้เราดีขึ้น ก้าวข้ามปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ


แม้การ Cyberbully จะสามารถสร้างบาดแผลที่ยิ่งใหญ่ให้กับผู้ที่ตกเป็นเป้าหมายได้ แต่ด้วยกำลังใจที่แข็งแกร่งของตนเอง และความช่วยเหลือของทุกฝ่ายรอบข้าง ผู้ถูกรังแกจะสามารถเอาชนะปัญหา และกอบกู้ความกล้าหาญและความมั่นใจในการใช้ชีวิตกลับมาใหม่ได้เสมอ การบอกออกไปว่าสิ่งที่คุณกำลังเผชิญอยู่นั้นคือการระรานการระรานทางไซเบอร์ มิได้เป็นเพียงแค่การร้องขอความช่วยเหลือ และความพยายามในการหยุดยั้งการคุกคามนั้นเท่านั้น หากแต่ยังเป็นการสื่อสารออกไปให้ทุกคนรู้โดยทั่วกันด้วย ว่าไม่มีใครในโลกนี้สมควรถูกคุกคาม และทุกคนล้วนสมควรได้รับการให้เกียรติด้วยกันทั้งสิ้น ไม่ว่าจะบนโลกแห่งความเป็นจริง หรือบนโลกไซเบอร์


อ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ..คิดอย่างไรกับเรื่องนี้ เขียนเลย
Terms of Service © 2025 MCOT.net All rights reserved นโยบายข้อมูลส่วนบุคคล นโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเว็บไซต์ นโยบายเว็บไซต์ของ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)