ทำเนียบรัฐบาล สถานที่ปฎิบัติราชการของคณะรัฐมนตรี เดิมคือ บ้านนรสิงห์ บ้านพระราชทาน จากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ พระราชทาน เจ้าพระยารามราฆพ ( ม.ล.เฟื้อ พึ่งบุญ ) ประตูทำเนียบรัฐบาลกำลังจะเปิดรับนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 นอกจากมวลชน และกองทัพสื่อมวลชนที่คอยรับนายกรัฐมนตรีคนใหม่ คงเป็นสิ่งทีมองไม่เห็น คอยต้อนรับอยู่ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ อะไรบ้าง ? ที่นายกรัฐมนตรี คนใหม่จะต้องเจอที่ทำเนียบรัฐบาล นอกจากศาลพระภูมิ สิ่งที่นายรักฐานตรีคนน้นี้จ้องไปไหวคือ พระพรหม และนรสิงห์ ที่ชั้นบนของตึกไทยคู่ฟ้า
เดิมทำเนียบรัฐบาลมีตึกสำคัญอยู่ 3 ตึก คือ ตึกไทยคู่ฟ้า เดิมชื่อตึก ไกรสร จะด้วยความบังเอิญหรือตั้งใจไม่ทราบได้ ไกรสรกับ นรสิงห์ มีความหมายไปในทางเดียวกัน เป็นสิงห์เหมือนกัน แต่ นรสิงห์ มีอำนาจมากกว่าสิงห์ธรรมดาเพราะเป็นปางหนึ่งของพระนารายณ์ มีตัวเป็นคนหน้าเป็นสิงห์ มีพลังอำนาจ ในสมัยรัฐบาลที่ผ่านมาช่วงระบาดของโควิด -19 รูปเหมือนนรสิงห์ที่ตึกไทยคู่ฟ้าได้ถูกให้ความสำคัญอย่างมาก เพราะเป็นสัญญะต่อสู้กับโรงระบาด
เหนือขึ้นไปจากนรสิงห์ มีพระพรหม ที่สร้างและอัญเชิญขึ้นมาไว้บนตึกในยุคจอมพลถนอม กิตติขจร เป็นนายกรัฐมนตรี ว่ากันว่าบารมีของพระพรหม ผู้สร้างโลก เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุ้มครองทำเนียบรัฐบาล เป็นสัญญะบอกถึง สิ่งที่ผู้บริหารประเทศควรปฎิบัติ คือ พรหมวิหาร 4 ผู้นำทุกคนเมื่อเข้ามาทำงานวันแรกต้องสักการะพระพรหม
ตึกเก่าแก่คู่บ้านนรสิงห์ อีกแห่งหนี่งคือ ตึกนารีสโมสร เดิมชื่อ ตึกพระขรรค์ เคียงคู่กับตึกหอคอย ชื่อ ตึกพระอาทิตย์ ที่เคยมีทางเชื่อม ตึกพระขรรค์ มาจาก การเคยเป็น ผู้อัญเชิญพระแสงขรรค์ไชยศรี ของเจ้าพระยารามราฆพ อดีตเจ้าของบ้าน ตึกพระขรรค์มีเรื่องร่ำลือถึงการพบเห็น คนใส่ชุดขาว เด็กผมจุก ได้ยินเสียงดนตรีไทย และกลิ่นน้ำอบที่ตึกพระอาทิตย์ ที่เดิมเป็นสถานที่เปลียนชุดของนางรำ ส่วนตึกพระขรรค์เคยเป็นที่ตั้งโกศศพของ คุณท้าวอินทรสุริยา (ม.ล. เชื้อ พึ่งบุญ) พี่สาวเจ้าพระยารามราฆพ
นี่คือส่วนหนึ่งของเรื่องลึกลับ ที่ผู้คนจะให้ความสนใจ ความสะพรึงที่หากรับมือได้ไม่ดีอาจนำผู้นำไปสู่เรื่องราวที่ไม่คาดไม่ถึง