เทเลนอร์ สวีเดนได้นำคลื่น 3500 MHz เปิดให้บริการ 5G เชิงพาณิชย์กับกลุ่มอุตสาหกรรมชั้นนำต่างๆ โดยเปิดให้บริการ 36 แห่งในสวีเดน เรื่องราวที่น่าสนใจในการนำเทคโนโลยีการสื่อสารเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลชั้นนำในครั้งนี้ได้ถ่ายทอดโดยตรงผ่าน
แอนเดรียส คริสเตนซัน หัวหน้าสายงาน IoT และธุรกิจใหม่ เทเลนอร์ สวีเดน กล่าวว่า ปัจจัยสำคัญเป็นอย่างยิ่งที่จะก้าวสู่ยุคอุตสาหกรรม 4.0 ได้ คือการเชื่อมต่อแบบอัจฉริยะ แน่นอนว่าเรากำลังต้องการเครือข่ายระดับที่พลิกโฉมจากเดิม ในส่วนนี้Private Network จึงมาตอบโจทย์ในช่วงเวลาสำคัญยิ่ง เราออกแบบและบริหารจัดการได้ไม่ใช่แค่ความเร็วของอินเทอร์เน็ตแต่รวมถึงความหน่วงหรือ Latency ที่มีความสำคัญในการเชื่อมต่ออุปกรณ์ดิจิทัลและเครื่องมือต่างๆ ของอุตสาหกรรมแบบที่ปลอดภัยและวางใจในการใช้งานได้เต็มที่ ในส่วนนี้ เทเลนอร์ สวีเดน ได้ติดตั้งโซลูชันที่ แอตลาส คอปโก้ (Atlas Copco) ในประเทศสวีเดน ซึ่งเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมทันสมัย เกี่ยวกับอุตสาหกรรมก๊าซและคอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลม พร้อมทั้งโซลูชั่นด้านการจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อระบบอุตสาหกรรมและโรงงานต่างๆ ในภาคความร่วมมือเชื่อมต่อเครือข่าย 5G ในโรงงาน และเชื่อมกับอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อการใช้งาน รวมทั้งยังวางแผนที่จะพัฒนาต่อในการเพิ่มการเชื่อมต่อสู่อุปกรณ์ต่างๆ
ความร่วมมือในการนำ Private Network มาใช้งานในเชิงพาณิชย์ในครั้งนี้ได้เกิดขึ้นจาก 3 บิ๊กที่ผนึกกำลังร่วมกันทั้ง “เทเลนอร์ กรุ๊ป” ผู้นำด้านบริการโทรคมนาคมที่สำคัญในกลุ่มสแกนดิเนเวีย ยุโรปกลางและตะวันออก รวมถึงแถบเอเชีย ที่มีลูกค้าทั่วโลกประมาณ 169 ล้านราย และเป็นผู้บุกเบิกโครงการ 5G Verticals INNovation Infrastructure (5G-VINNI) ซึ่งมีเป้าหมายผลักดันเทคโนโลยีและการใช้งาน 5G สู่กลุ่มยุโรป โดย “แอตลาส คอปโก้” ผู้นำในกลุ่มอุตสาหกรรมซึ่งมีพนักงานราว40,000 รายใน 180 ประเทศทั่วโลก โดยบริการด้านอุตสาหกรรมก๊าซและคอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลม ปั๊มสุญญากาศ อุปกรณ์ก่อสร้างถนน คอมเพรสเซอร์แบบเคลื่อนที่ เครื่องมือประกอบชิ้นส่วนในอุตสาหกรรมยานยนต์ และผู้นำอีกรายคือ “อีริคสัน”ผู้นำด้านเทคโนโลยีไอซีทีและเครือข่ายระดับโลกที่มีพนักงานประมาณ 100,000 ราย
“เครือข่ายที่ถูกกำหนดมาเฉพาะทำให้ผู้ประกอบการหรือองค์กรสามารถบริหารจัดการเครือข่ายของพวกเขาเองได้ทั้งหมดรวมถึงสามารถทดสอบใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ กำหนดทิศทาง และมั่นใจในความปลอดภัย 100 % ของการสื่อสารภายในเครือข่าย เครือข่ายแบบเดิมที่นี่ได้ใช้โซลูชันเชื่อมต่อรูปแบบสายเคเบิ้ล บลูทูธไร้สาย Wi-Fi ที่ยากต่อปรับรูปแบบให้เหมาะกับการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งมีค่าใช้จ่ายในการดูแลสูง ซึ่งเทียบศักยภาพและความคล่องตัวที่ต่างออกไป นี่คือหัวใจสำคัญที่เมื่อได้ใช้งานแล้วจะเข้าใจได้ว่าทำไมธุรกิจต่างๆ ถึงมุ่งที่จะเปลี่ยนสู่ 5G Private Network”
ดีแทคที่เปิดให้บริการ 5G Private Network ดีแทคได้ร่วมกับเทเลนอร์ในการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์จากการทำPrivate Network สำหรับใช้งานในรูปแบบอุตสาหกรรมต่างๆ ล่าสุด ได้ร่วมกับ อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส หรือ AWS จัดพิสูจน์ประสิทธิภาพ 5G Private Network ที่มีความปลอดภัยสูงเมื่อผสานกับการประมวลผลเอดจ์ คอมพิวติ้ง สามารถออกแบบเครือข่ายให้ตรงการใช้งาน เพื่อประโยชน์สูงสุดในการเชื่อมต่อเทคโนโลยี Massive IoT, Artificial Intelligence (AI), Machine Learning (ML), Augmented Reality (AR), Virtual Reality (VR) และการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ทั้งหมดนี้เป็นการต่อยอดการให้บริการ 5G ซึ่งที่ผ่านมาได้ร่วมกับได้ร่วมมือกับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมและพันธมิตรองค์กรต่างๆ ในการเข้าสู่ระบบรวม 5G อาทิ ปตท. ดับบลิวเอชเอ (WHA) อาซีฟา เอบีบี (ABB)