นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม แถลง ผลการประชุม การประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีดิจิทัลครั้งที่ 3/2567 ว่าแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ ตามข้อสังการนายกรัฐมนตรี ที่ประชุม ได้เพพิ่มมาตรการปราบปราบอาชญากรรมออนไลน์ โดย มีมาตรการแก้ไขปัญหาบัญชีม้า โดยสมาคมธนาคารไทย ธปท และสถาบันการเงินได้เร่งตรวจสอบบัญชีธนาคารโดยระงับบัญชีต้องสงสัยไปแล้ว 3-4 แสนบัญชี ปิดบัญชีม้าไปแล้ว 318,000 บัญชี AOC ปิดไปแล้ว 112,000 บัญชี ส่วนบัญชีที่เปิดใหม่ได้เพิ่มมาตรการดูแลการเปิดบัญชีใหม่เพื่อป้องกันไม่ให้ทำผิดกฎหมาย โดยเพิ่มการตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า โดยสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมถึงการทำธุรกิจ ทุนหมุนเวียน จุดประสงค์การเปิดบัญชี ส่วนการอายัดบัญชี เพิ่มระยะเวลาอายัดบัญชีจาก 3 วันเป็น 7 วัน
มาตรการแก้ปัญหาซิมม้า ได้กวาดล้างซิมม้าและต้องสงสัย โดยให้ผู้ถือครองซิมจำนวนมากต้องยืนยันตัวตนตามกำหนด ในวันที่14 กุมภาพันธ์ 2567 มีผู้มายืนยันตัวตนแล้ว 2.57 ล้านเลขหมาย นังไม่มายืนยันตัวตน 2.5 ล้านเลขหมาย กสทช. จึงอยู่ระหว่างการระงับใช้ซิม ส่วนการเปิดซิมใหม่ได้เพิ่มมาตรการเข้มงวดเพื่อป้องกันการเปิดใช้ซิมที่ผิดปกติ และจัดทำฐานข้อมูลของผู้ส่ง SMS
การดำเนินการกับเสาสัญญาณและสายสัญญาณอินเทอร์เน็ตผิดกฎหมาย ได้ร่วมกับสตช. และกระทรวงกลาโหมจัดทำแผนปฏิบัติการเรียบร้อยแล้วแต่ไม่ขอเปิดเผย
มาตรการแก้ไขปัญหาการซื้อขายเงินคริปโตที่ผิดกฎหมาย เนื่องจากพบว่ามีคนใช้ช่องทางในการซื้อขายเงินคลิปโตในการส่งเงินออกต่างประเทศถึงร้อยละ 70 ถึง 80 จึงให้ กลต. กำหนดมาตรการดูแล ทั้งนี้เพราะได้พบว่าคนร้ายได้ใช้ช่องทางสินทรัพย์ดิจิทัลในการโอนเงินไปต่างประเทศ กลต.และกระทรวงได้ดำเนินการตรวจสอบอย่างเข้มงวด
การปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ได้ดำเนินการอย่างเข้มข้น ในการชื้อขายเงินดิจิทัลผ่านผู้ให้บริการที่ได้รับใบอนุญาต อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ กลต. โดยให้ทำ kYC อย่ย่างเข้มข้นและให้รายงานปริมาณในการทำธุรกรรมให้ กลต. ทราบ โดยให้ศูนย์ AOC รับข้อมูลและเป็นศูนย์กลางในการแลกเปลี่ยนข้อมูลทั้งหมด โดยนำ AI มาวิเคราะห์ข้อมูล