X
พัฒนา AI กฎหมายต้องมา ช้าไปจะเสียหาย

พัฒนา AI กฎหมายต้องมา ช้าไปจะเสียหาย

4 มี.ค. 2567
1010 views
ขนาดตัวอักษร

นายไพบูลย์ อมรภิญโญเกียรติ นักกฎหมายดิจิทัล และทนายไอที ให้ความเห็นถึงความจำเป็นต้องมีกฎหมายเพื่อรองรับการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ ว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีเพียงประมวลจริยธรรมปัญญาประดิษฐ์ (AI: Artificial Intelligence) โดยสำนักงานพัฒนาธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (เอ็ตด้า) กระแสการนำปัญญาประดิษฐ์ใช้ในธุรกิจ การมีแค่ประมวลจริยธรรมคงไม่เพียงพอ ล่าสุด คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางในการควบคุมและส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง (สภาผู้แทนราษฎร) มีความพยายามที่จะทบทวนการออกกฎหมายปัญญาประดิษฐ์ แต่ด้วยมุมมองของกรรมาธิกดารที่มองว่า ปัญญาประดิษฐ์เป็นเพียงสิ่งที่ควรส่งเสริม ตามแผนยุทธศาสตร์พัฒนาดิจิทัล พ.ศ. 2565-2570 ทำให้เห็นว่ากระแสความตื่นตัวในการใช้ปัญญาประดิษฐ์ทั่วโลกเป็นไปในทิศทางของธุรกิจอย่างเต็มตัว ไม่ใช่เพียงงานวิจัยที่ต้องการการส่งเสริมอีกแล้ว จึงจำเป็นต้องมีการปรับแก้หรือออกกฎหมายเข้ามาดูแลการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ในเชิงธุรกิจ โดยให้เป็นการใช้ปัญญาประดิษฐ์ ในการส่งเสริมเศรษฐกิจ  แต่ปัญญาประดิษฐ์ ไม่มีสภาพบุคคล ที่ต้องกำหนดให้ปัญญาประดิษฐ์มีผลรับผิดชอบ การนำมาใช้ตัองปรับให้มีสภาพการรับผิดเชิงบุคคล


ในสหภาพยุโรปและอเมริกาถือว่า ปัญญาประดิษฐ์ เป็นเรื่องสำคัญต้องมีการออกกฎหมายขึ้นมารองรับ  กรรมาธิการฯจึงควร เร่งอกกฎหมายปัญญาประดิษฐ์ ให้เร็วที่สุด เนื่องจากปัญญาประดิษฐ์มีส่วนสร้างบริษัทสตาร์ทอัพใหม่ขึ้นมาจำนวนมาก เมื่อมีสตร์ทอัพเและอินโนเวชันใหม่ เกิดขึ้นแล้ว ต้องทำให้กฎหมายไทยยอมรับโดยเฉพาะเรื่องลิขสิทธิ์ นอกจากนี้การนำปัญญาประดิษฐ์มาใช้ต้องเกี่ยวข้องกับการนำข้อมูลส่วนบุคคลมาใช้ ดังนั้นการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์จึงต้องกำหนดใหสอดคล้องการการดูแลเรื่องข้อมูลส่วนบุคคลด้วย 


" นอกจากกฎหมายคือหลักเกณฑ์ในการประเมินคุณค่าชิ้นงานและทรัพย์สินทางปัญญาที่เกิดจากเอไอส่วนนี้รัฐบาลต้องเร่งเข้ามาดู นอกจากนี้ควรต้องมีกฎหมายเกี่ยวกับอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ที่ครอบคลุมถึงการป้องการอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ที่เอาเอไอมาทำบอตยิงเครือข่ายหรือการทำ Deepfake ก็เป็นสิ่งจำเป็นต้องเร่งพัฒนากฎหมายให้ทันกับการใช้เทคโนโลยีก่ออาชญากรรม เมื่อเอไอไม่มีสถานบุคคล การดำเนินคดีก็เมือนเป็นซอฟต์แวร์ตัวหนึ่งซึ่งจะทำมให้เกิดปัญหาในการรวบรวมพยานหลักฐาน กรรมาธิการจึงควรเร่งออกกฎหมายระยะสั้นและระยะยาวออกมา หากจะหวังพึ่งกรอบการพัฒนาเอไอตามแผนยุทธศาสตร์ฯ คงไม่เพียงพอ"


นายไพบูลย์ ให้ความเห็นอีกว่า ถ้าการออกกฎหมายต้องใช้เวลา อาจใช้ พ.ร.บ.ส่งเสริมธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ออกเป็นพระราชกฤษฏีกา  หรือใช้อำนาจ พ.ร.บ.ทรัพย์สินทางปัญญา ก็มีช่องให้ออกเป็นกฎกระทรวงขึ้นมาก่อน จุดมุ่งหมายเพื่อเป็นการส่งเสริมปัญญาประดิษฐ์ การเอากฎหมายลูกหรือกฎกระทรวงน่าจะทำให้เกิดแนวทางในการดูแลได้เร็วกว่า 

Terms of Service © 2025 MCOT.net All rights reserved นโยบายข้อมูลส่วนบุคคล นโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเว็บไซต์ นโยบายเว็บไซต์ของ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)