10 ต.ค.66 - สถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ร่วมกับ หน่วยงานพันธมิตร เปิดตัวโครงการ "ส่งเสริมกระบวนการจัดการซากเครื่องปรับอากาศและสารทำความเย็นอย่างถูกวิธี" สู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์
สถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ร่วมกับ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดตัวโครงการ "ส่งเสริมกระบวนการจัดการซากเครื่องปรับอากาศและสารทำความเย็นอย่างถูกวิธี" โดยได้รับเกียรติจาก นายธวัชชัย สำราญวานิช ผู้ช่วยผู้ว่าการแผนงานโรงไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กล่าวเปิดสัมมนาและปาฐกถาพิเศษ"บทบาทของอุตสาหกรรมการทำความเย็น กับการขับเคลื่อนประเทศไทยให้มุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์"
นายณรัฐ รุจิรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ กล่าวว่า “โครงการส่งเสริมกระบวนการจัดการซากเครื่องปรับอากาศและสารทำความเย็นอย่างถูกวิธี เป็นหนึ่งในโครงการสาธิตและนำร่อง ภายใต้การสนับสนุนของกองทุนนวัตกรรมสำหรับอุตสาหกรรมทำความเย็น (EGAT Cooling Innovation Fund หรือ CIF) ของ กฟผ. เพื่อรณรงค์และส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงความสำคัญในการจัดการซากเครื่องปรับอากาศและสารทำความเย็นอย่างถูกวิธี โดยการสนับสนุนให้ช่างถอดติดตั้ง/ผู้ขนส่งซากเครื่องปรับอากาศมีวิธีการและอุปกรณ์ดูดกลับสารทำความเย็น สามารถรวบรวมเครื่องปรับอากาศที่หมดอายุการใช้งานและสารทำความเย็นภายในเครื่องปรับอากาศเข้าสู่กระบวนการถอดแยกและกำจัดอย่างเหมาะสม”
“โครงการนี้ สถาบันได้รับมอบหมายให้เป็นผู้บริหารจัดการโครงการในภาพรวม ทำหน้าที่ออกแบบกิจกรรม, จัดฝึกอบรมช่างถอดติดตั้ง/ผู้ขนส่งซากฯ, ประสานความร่วมมือกับผู้ประกอบการ บุคลากรในกลุ่มอาชีพ หน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่ผู้จำหน่าย ผู้บริโภค ศูนย์รวบรวมซากฯ ผู้ขนส่งซากฯ และโรงถอดแยก/กำจัด ให้เกิดกระบวนการจัดการซากเครื่องปรับอากาศและสารทำความเย็นที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ ตลอดจนมีการวัดผลกระทบที่เกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อมเพื่อสนับสนุนให้ประเทศบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ตามที่ได้แสดงเจตจำนงไว้ในที่ประชุมรัฐภาคีสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ครั้งที่ 26 (COP26) ด้วย
ภายใต้โครงการนี้ยังมีกิจกรรม “เก่าแลกใหม่” หรือ “Old to New” ที่ กฟผ. ให้การสนับสนุนส่วนลด 1,000 บาท ต่อการซื้อเครื่องปรับอากาศระบบอินเวอร์เตอร์ เบอร์ 5 ทดแทนเครื่องปรับอากาศที่ไม่ใช้งานแล้ว เป็นการส่งเสริมให้มีการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ สร้างความยั่งยืนด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม” “เมื่อสิ้นสุดโครงการ จะมีผู้จำหน่ายและช่างที่ผ่านการอบรมและมีความรู้ในการถอดติดตั้งซากเครื่องปรับอากาศและการดูดกลับสารทำความเย็นอย่างถูกวิธี ประชาชนผู้เข้าร่วมโครงการจะได้เรียนรู้และเข้าใจกลไกการรวบรวมเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ใช้งานแล้วเข้าสู่ระบบการจัดการซาก ในรูปแบบของการแลกเครื่องปรับอากาศเก่าที่บ้านกับเครื่องใหม่ที่จะซื้อ ในขณะที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายหรือโมเดิร์นเทรดจะได้เรียนรู้การรวบรวมซากเครื่องปรับอากาศเก่า ขนส่งไปโรงงานถอดแยกและโรงงานรีไซเคิลเพื่อการกำจัดอย่างถูกวิธี เป็นการเตรียมความพร้อมรองรับกฎหมายการจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่จะมีการประกาศบังคับใช้ในเร็วๆ นี้
ซึ่งการดำเนินงานโครงการนี้สอดรับกับพันธกิจของสถาบันในการสนับสนุนหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันและมีการประกอบกิจการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่ผ่านมา สถาบันได้ร่วมมือกับผู้ประกอบการกลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศ ดำเนินงานเพื่อแก้ไขปัญหาด้านทรัพยากรและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ตามหลักการของเศรษฐกิจหมุนเวียนหรือ Circular Economy อย่างต่อเนื่อง เช่น การศึกษาวิจัยจำลองกระบวนการจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ การศึกษาวิจัยแนวทางในการรวบรวมและจัดการสารทำความเย็นที่ผ่านการใช้งานแล้วของระบบปรับอากาศ
นอกจากนี้ โครงการดังกล่าว จะนำร่องที่สนับสนุนการดำเนินการตามร่างพระราชบัญญัติการจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้า
และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ....ที่จะมีการประกาศบังคับใช้ในอนาคต และสนับสนุนให้เกิดการลดการใช้พลังงานและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ทำให้ภาคอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความเย็นของไทยเป็นส่วนผลักดันและเตรียมความพร้อมทำให้ประเทศไทย สามารถสร้างระบบการจัดการซากผลิตภัณฑ์ที่เป็นของเสียอันตรายได้อย่างปลอดภัย ลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมและแก้ปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างยั่งยืน