5 มี.ค.67 - เอ๊ะ! ทำไม “สีของดาวตก” ถึงมีสีที่ไม่เหมือนกัน แต่ละสีหมายถึงอะไร ใช่ลางร้ายรึเปล่า?
สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ หรือ สดร. รายงานว่าเมื่อคืนวันที่ 4 มีนาคม 2567 เวลาประมาณสามทุ่มเศษ โลกโซเชียลแชร์คลิปวิดีโอและภาพถ่ายของ "ลูกไฟสีเขียว" ที่พาดผ่านท้องฟ้า มีผู้พบเห็นในหลายจังหวัดแถบภาคกลาง และภาคตะวันออกของไทย ซึ่งเบื้องต้นนี้สามารถคาดการณ์ได้ว่าเป็นดาวตกชนิด “ลูกไฟ (Fireball)”
•
โดย “ดาวตก” เกิดจากเศษหินและฝุ่นของดาวหาง หรือดาวเคราะห์น้อย พุ่งเข้ามาชนกับชั้นบรรยากาศโลกด้วยความเร็วสูงมาก เกิดการเสียดสีและเผาไหม้ ทำให้อะตอมของดาวตกเปล่งแสงออกมาในช่วงคลื่นต่าง ๆ เราจึงมองเห็นสีของดาวตกปรากฏในลักษณะที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสองปัจจัยได้แก่ องค์ประกอบทางเคมี และโมเลกุลของอากาศโดยรอบ ซึ่งชนกับตัวดาวตกอย่างรุนแรงจนเกิดความร้อนสูง
“สีของดาวตก” หมายถึงอะไร?
🔵🔴 “สีของดาวตก” มาจากแสงที่เปล่งออกมาจากอะตอมโลหะของดาวตก ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามองค์ประกอบทางเคมี เช่น
🟣 อะตอมแคลเซียม ( Ca ) ให้แสงสีออกโทนม่วง
🔵🟢อะตอมแมกนีเซียม ( Mg ) และนิกเกิล ( Ni ) ให้แสงสีฟ้าเขียว
🟠🟡อะตอมโซเดียม ( Na ) ให้แสงสีส้มเหลือง 🔴ในขณะที่โมเลกุลในชั้นบรรยากาศโลก จะมีอะตอมของออกซิเจน ( O ) และไนโตรเจน ( N ) เป็นองค์ประกอบ ซึ่งจะให้แสงสีแดง
ดังนั้น “สีของดาวตกจึงขึ้นอยู่กับการเปล่งแสงขององค์ประกอบแต่ละชนิด และการเปล่งแสงของอากาศโดยรอบตัวดาวตกที่ร้อนจัด ซึ่งมักจะให้แสงสีแดงและสีเขียวเป็นหลัก ขึ้นอยู่กับความสูงจากพื้นโลก”