ไฟป่าหมอกควัน ยังปกคุมท้องฟ้า ตัวเมืองเชียงใหม่หนาแน่น ค่ามลพิษ หรือPM2.5 ยังแย่ติดอันดับ 3 ของโลก ส่วนหนุ่มไรเดอร์ ที่ให้บริการรับส่งอาหาร ในเชียงใหม่ ช่วงฝุ่นหนาแน่น ลดเวลาทำงานเหลือประมาณ 3 – 4 ชั่วโมง ต้องพักเบรกเข้าบ้าน เว้นระยะห่าง บางวันล้างจมูกมีแต่ฝุ่นควัน ขณะที่ค่าฝุ่นแบบรายชั่วโมง บางพื้นที่พุ่งสูงถึง 501 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
สภาพท้องฟ้า ตัวเมืองเชียงใหม่ ยังมีหมอกควันไฟป่าลอยข้ามแดน เข้ามาปกคุมทั่วทั้งเมือง จนมองไม่เห็นดอยสุเทพ ทัศนวิสัยยังขุ่นมัว หากมองจากที่สูงลงมา มีแต่หมอกควันลอยในอากาศ จนมองเห็นด้วยตาเปล่า และยังมีกลิ่นของควันไฟ เช้าวันนี้ทัศนวิสัย หรือฝุ่นควันยังหนาแน่น ค่ามลพิษหรือPM2.5 ยังมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยพื้นที่ตำบลสุเทพ ตำบลศรีภูมิ และตำบลช้างเผือก เป็นพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่น ค่ามลพิษอยู่ระหว่าง 92.2 – 111.3 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ขณะที่ศูนย์ข้อมูลเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รายงานค่าฝุ่นหรือ PM2.5 แบบรายชั่วโมงเวลา 7 นาฬิกา บริเวณบ้านหัวโท อำเภอเชียงดาว ค่าPM2.5 สูงมากถึง 501 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร หรือสูงเกินถึง
ขณะที่เช้าวันนี้ยังพบจุดความร้อนกระจายใน 14 อำเภอ มากถึง 92 จุด พื้นที่อำเภอดอยเต่ามากที่สุด 18 จุด รองลงมาอำเภอแม่แจ่ม 12 จุด และอำเภอเชียงดาว 10 จุดทำให้เช้าวันนี้เวลา 8 นาฬิกา คุณภาพอากาศยังแย่อันดับ 3 ของโลก ลดลงมาจากเมื่อวานนี้ที่อันดับ 1 ของโลก
ขณะที่นาย ภาณุพงษ์ หรือเปรม อาชีพไรเดอร์ ทำงานขี่รถจักรยานยนต์ กลางแจ้งท่ามกลางฝุ่นควัน ส่งอาหารให้กับลูกค้า ทั้งในตัวเมือง และอำเภอใกล้เคียง ใช้วิธีทำงาน เป็นช่วงเวลา อยู่กลางแจ้งประมาณ 3 ชั่วโมง ก็จะหยุดพัก เข้าบ้านพักผ่อน เพื่อให้หายใจได้เต็มปอด ขณะทำงาน ขับขี่รถจักรยานยนต์ ไปตามท้องถนน มีเพียงผ้า ใช้คุมปากและปิดจมูก ไม่ได้สวมใส่หน้ากาก ป้องกันหายใจไม่สะดวก แต่จะสวมหมวกนิรภัย มีหน้ากากแทน บางวันหากทำงานยาวๆ หลายชั่วโมง เมื่อเข้าบ้าน ล้างหน้าล้างตาและจมูก พบว่าจะมีฝุ่นขนาดเล็ก ติดน้ำมูกออกมาด้วย ยิ่งหากวันไหน ฝุ่นควันหนาแน่น ยิ่งเห็นชัด ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งอาชีพ ที่ทำงานกลางแจ้ง ที่ได้รับผลกระทบ จากหมอกควันไฟป่า